สืบค้นงานวิจัย
โครงการจัดตั้งแปลงศึกษาวิจัยนิเวศวิทยาป่าไม้เพื่อการติดตามการเปลี่ยนแปลงประชากรนกป่าอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง (ระยะที่ 2)
จอร์จ แอนดรูว์ เกล - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชื่อเรื่อง: โครงการจัดตั้งแปลงศึกษาวิจัยนิเวศวิทยาป่าไม้เพื่อการติดตามการเปลี่ยนแปลงประชากรนกป่าอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง (ระยะที่ 2)
ชื่อเรื่อง (EN): Establishing a long-term plot for monitoring population dynamics of forest bird populations in dry Dipterocarp and mixed-deciduous forest of the Huai Kha Khaeng Wildlife Sanctuary (Phase 2)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จอร์จ แอนดรูว์ เกล
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): George Andrew Gale
บทคัดย่อ: กระบวนการทางธรรมชาติและกระบวนการที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์เป็นตัวกำหนดการเปลี่ยนแปลงและองค์ประกอบของสังคมพืชและโครงสร้างของป่า ซึ่งสังคมพืชและโครงสร้างของป่าก็เป็นตัวกำหนดสังคมสัตว์ป่า การเปลี่ยนแปลงของสังคมพืชและโครงสร้างป่า ย่อมส่งผลต่อสังคมสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสังคมป่านั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในการศึกษาครั้งนี้เราได้เลือกพื้นศึกษาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง บริเวณภายในวงแหวนแนวกันไฟ 1 กม. จากหน่วยพิทักษ์ป่าซับฟ้าผ่า เป็นพื้นที่ศึกษาติดตามประชากร การสืบพันธุ์ การเคลื่อนที่ และพฤติกรรมการหากินของนกป่าในบริเวณ โดยการศึกษานี้เราได้เลือกนกหัวขวานเขียวตะโพกแดง(Black-headed Woodpecker) เป็นตัวแทนของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่ศึกษาบริเวณวงแหวนแนวกันไฟ เนื่องจากนกหัวขวานชนิดนี้มีถิ่นอาศัยที่เฉพาะเจาะจงกับสังคมป่าผลัดใบระดับต่ำและมีความชุกชุมสูงในพื้นที่ศึกษา การศึกษาบริเวณวงแหวนแนวกันไฟเราได้วางเส้นสำรวจ (Line transect) เพื่อทำการสำรวจความหลากชนิดและความหนาแน่นของนกแต่ละชนิดโดยวิธี Distance sampling เราพบนกทั้งสิ้น 104 ชนิด โดยนกที่มีความหนาแน่นมากที่สุดคือ นกแขกเต้า (Red-breasted Parakeet) กลุ่มนกแซงแซวหงอนขน (Hair-crested Drongo) และจากการตั้งตาข่ายเพื่อติดห่วงขานกเราสามารถใส่ห่วงขานกได้ทั้งสิ้น 92 ตัว จากทั้งหมด 20 ชนิด โดยเป็นนกหัวขวานเขียวตะโพกแดง 48 ตัว จากการศึกษาครั้งนี้เราได้พบข้อมูลใหม่ที่ยังไม่มีใครค้นพบหรือศึกษามาก่อนกับนกหัวขวานเขียวตะโพกแดง โดยเราพบว่า 50% ของประชากรนกกลุ่มเป้าหมายคือนกหัวขวานเขียวตะโพกแดงมีพฤติกรรมการผสมพันธุ์แบบมีนกผู้ช่วย (Cooperative breeding) นกขัวขวานเขียวตะโพกแดงอาศัยอยู่เป็นกลุ่มขนาดเล็ก มีความหนาแน่นอยู่ที่ ~ 8 กลุ่ม/ตร.กม. หรือ 40 ตัว/ตร.กม. และจากการใช้วิธี Spot-mapping ทำให้เราทราบว่านกชนิดนี้มีอาณาเขตประมาณ 16.5 เฮคแตร์ (99 ไร่) และมีอัตราความสำเร็จในการทำรังอยู่ที่ 63% และมีอัตราการรอดของลูกนกที่สูงคือประมาณ 71% แต่พบว่าจะมีอัตราลดลงในช่วงปีที่ไม่มีการชิงเผาซึ่งอาจจะเกิดจาดการเพิ่มขึ้นของสัตว์ผู้ล่า ในการศึกษาครั้งนี้เราเริ่มพบเห็นผลกระทบหรือการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่ศึกษาบ้าง แต่ยังไม่ชัดเจน ทั้งนี้การแปลงเปลี่ยนของสิ่งมีชีวิตนั้นต้องอาศัยระยะเวลานาน เราไม่สามารถที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตภายในระยะเวลาอันสั้นได้ ดังนั้นการติดตามศึกษาในระยะยาวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและควรดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
บทคัดย่อ (EN): In general there will be four broad categories where this research will have an impact. These areas include, (i) the improvement of wildlife conservation and/management of the sanctuary, (ii) improvement of our scientific knowledge, (iii) solving problems currently facing wildlife resources, and (iv) improvements in our ability to conserve biodiversity. Overall, the results derived from this research will likely have the greatest impact in terms of our improvement of scientific knowledge of how disturbance affects wildlife communities. Furthermore, the benefits of the study will be both national and international. First, although it is relatively well known about the patterns of how disturbance affects communities at a broad or population scale, there is relatively little known about the mechanisms of disturbance at the individual level. In other words, if we have better information on how disturbance affects the basic life history parameters such as foraging, reproductive success and survival, we may be able to mitigate some of the human impacts of forest use. Such knowledge could be used by forest managers in many forest types around Thailand as well as managers outside Thailand as these mechanisms are likely to be somewhat general and not completely site specific. Second, as with our previous project in Khao Yai National Park, the proposed project is a research framework which can be used to develop detailed sub-projects which could be easily conducted by interested young researchers in the Department of National Parks, Wildlife, and Plants and/or Thai MSc. and Ph.D. students in collaboration with university scientists as well. As such, we envision that multiple international publications will be produced or co-authored by DNP staff and students on this project as done previously by the KMUTT lab and their collaborators for projects elsewhere in Thailand (e.g., Gale amp; Thongaree 2006; Iamsiri amp; Gale 2008a; Iamsiri amp; Gale 2008b Ngoprasert et al. 2007; Pierce amp; Pobrasert 2007; Iamsiri et al. 2005; Dhanasarnpaiboon and Round 2004; Nimnuan et al. 2004; Sukumal and Savini in press; Savini and Sukumal in press).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
คำสำคัญ: N/A
คำสำคัญ (EN): field ecology training
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการจัดตั้งแปลงศึกษาวิจัยนิเวศวิทยาป่าไม้เพื่อการติดตามการเปลี่ยนแปลงประชากรนกป่าอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง (ระยะที่ 2)
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
30 กันยายน 2554
การพัฒนาโครงร่างการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน : เอกสารประกอบการประชุมเชิงปฏิบัติการ ดินโป่งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี การวิจัยและพัฒนาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ป่าฝืนสุดท้ายของภาคกลาง การสำรวจพรรณไม้วงศ์ขิงในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งจังหวัดอุทัยธานี ระยะที่ 2 นิเวศวิทยา ประชากร และแนวทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างช้างป่า (Elephas maximus) และชาวบ้าน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย การสำรวจสัตว์ป่าในบริเวณโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีเขื่อนจุฬาภรณ์ นิเวศวิทยาของป่าไม้ในโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ การศึกษาสภาพสังคมและเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่แนวกันชน ของเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ลักษณะทางนิเวศวิทยาของสังคมพืชป่าไม้ที่เกิดจากการฟื้นฟูในรูปแบบที่แตกต่างกัน ประชากรและนิเวศวิทยาของลิงแสม (Macaca fascicularis) บนเขาเกษตร มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก