สืบค้นงานวิจัย
การกระตุ้นความต้านทานโรคพืชผักด้วยมูลและสารประกอบไคตินของไหมอีรี่
กมล อภินาคพงศ์ - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: การกระตุ้นความต้านทานโรคพืชผักด้วยมูลและสารประกอบไคตินของไหมอีรี่
ชื่อเรื่อง (EN): Induction of disease resistance of vegetables by eri feces and chitin compounds derives from eri silkworm
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: กมล อภินาคพงศ์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Kamol Apinakapong
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชุดเอกสาร: การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัยพืช
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อทดสอบผลของการใช้มูลไหมอีรี่และไคโตซานจากคราบดักแด้ไหมอีรี่ในการกระตุ้นความต้านทานโรคใบจุดเป้ากระสุนของมะเขือเทศ ที่เกิดจากเชื้อ Corynespora cassiicola และโรครากปมที่เกิดจาก ไส้เดือนฝอยรากปม Meloidogyne incognita รวมทั้งผลต่อการเจริญเติบโตของมะเขือเทศในสภาพเรือนทดลอง โดยใช้มูลไหมอีรี่วัย 5 ผึ่งลมให้แห้ง 3 วัน และสกัดสารไคโตซานจากคราบดักแด้ไหมอีรี่แล้วทำเป็นสารแขวนลอยเข้มข้น 1% โดยปริมาตร วางแผนการทดลองแบบ completely randomized design(CRD) มี 7 กรรมวิธี ได้แก่ มูลไหมอีรี่(15 กรัม/ต้น/กระถาง)รองก้นหลุม, ฉีดพ่นไคโตซาน(1%) 20 มล./ต้น, มูลไหมอีรี่+ฉีดพ่นไคโตซานและไม่ใช้มูลไหมอีรี่และไคโตซาน(control) ภายใต้สภาพการปลูกเชื้อ C. cassiicola เปรียบเทียบกับกรรมวิธีใช้ มูลไหมอีรี่, ไคโตซาน, และไม่มีการใช้ไคโตซานและมูลไหมอีรี่ ภายใต้สภาพไม่ปลูกเชื้อ C. cassiicola กรรมวิธีละ 5 ซ้ำ ผลการทดลองพบว่า การใช้มูลไหมอีรี่ หรือการฉีดพ่นไคโตซานเพียงอย่างเดียว หรือการใช้มูลไหมอีรี่ร่วมกับไคโตซาน สามารถลดการเกิดโรคใบจุดเป้ากระสุน ซึ่งประเมินจากจำนวนจุดแผลได้ 53.01-56.16% ในการทดลองที่ 1 และ 32.88–48.19% ในการทดลองที่ 2 โดยจำนวนจุดแผลที่ลดลงนั้นมีความแตกต่างกันทางสถิติ (P<0.05) กับการไม่ใช้มูลไหมอีรี่หรือไคโตซาน ซึ่งมีแนวโน้มทำให้ ความสูง น้ำหนักสด น้ำหนักแห้งของต้นเพิ่มขึ้น ส่วนในการทดสอบกับโรครากปมนั้น พบว่าการใส่มูลและสารไคโตซานจากไหมอีรี่ ทำให้ต้นมะเขือเทศเป็นโรครากปม 9.80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งน้อยกว่ากรรมวิธีควบคุม ซึ่งเป็นโรครากปม 48.40 เปอร์เซ็นต์ อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ (P<0.01) และยังทำให้จำนวนตัวและจำนวนไข่ไส้เดือนฝอยในรากลดลงอีกด้วย การศึกษานี้ชี้ให้เห็นถึงการใช้ประโยชน์จากมูลไหมอีรี่และ/หรือคราบดักแด้เพื่อเพิ่มมูลค่า ด้วยการใช้เป็นวัสดุควบคุมโรคพืชโดยชีววิธีเพื่อกระตุ้นความต้านทานต่อโรคใบจุดเป้ากระสุนและโรครากปมในมะเขือเทศ
บทคัดย่อ (EN): The objective of this research was to examine the effect of eri feces and chitosan from eri pupa cuticle on induced resistance against target spot of tomato caused by Corynespora cassiicola and root knot disease caused by Meloidogyne incognita including on growth under green-house conditions. Eri feces was air-dried for 3 days and the chitosan was extracted from eri pupa cuticle and suspended into 1% in water (v/v). The completely randomized design (CRD) was used with 7 treatments: application of eri feces in pot (15 g/plant/pot), application of chitosan by spraying (1%) for 20 ml/plant, and infestation eri feces in pot followed by spraying chitosan suspension (1%) and non treated tomato plant with eri feces or chitosan (control treatment). These 4 treatments were under the inoculation of C. cassiicola on tomato pot plants. Other 3 treatments were under non inoculation with C. cassiicola as followed: using eri feces; spraying chitosan and non-use of eri feces and chitosan. These 3 treatments were under the condition that without inoculation with C. cassiicola. The result revealed that using eri feces in pot-soil or spraying chitosan alone on tomato plants or using them in combination reduced number of spots 53.01 – 56.16% of 1st experiment and 32.88 – 48.19% of 2nd experiment. The reduced number of spots was statistical difference (P<0.05) than non use of eri feces or chitosan. The use of eri feces, chitosan and eri feces+chitosan tended to increase plant height, fresh weight and dry weight. Result obtained from the experiment tested on root knot nematode exhibited that using eri feces and eri feces+chitosan reduced root knot percentage with incidence of 9.80, whereas on control treatment, root knot disease was 48.40 % which higher statistically (P<0.01). Besides, those treatments caused the reduction on female adults and eggs of the nematode in tomato root. This study indicates the value added of eri feces and/or pupa cuticle by using as biological control materials in term of induced resistant against target spot and root knot diseases of tomato.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://dric.nrct.go.th/Search/ShowFulltext/2/294856
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: โรคราน้ำค้าง
คำสำคัญ (EN): downy mildew
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

กมล อภินาคพงศ์. "การกระตุ้นความต้านทานโรคพืชผักด้วยมูลและสารประกอบไคตินของไหมอีรี่Induction of disease resistance of vegetables by eri feces and chitin compounds derives from eri silkworm". มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2556

กมล อภินาคพงศ์. "การกระตุ้นความต้านทานโรคพืชผักด้วยมูลและสารประกอบไคตินของไหมอีรี่Induction of disease resistance of vegetables by eri feces and chitin compounds derives from eri silkworm". มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2556. Print.



TARR Wordcloud:
การกระตุ้นความต้านทานโรคพืชผักด้วยมูลและสารประกอบไคตินของไหมอีรี่
กมล อภินาคพงศ์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2556
การย้อมเส้นไหมอีรี่ด้วยสีสกัดจากพืชในท้องถิ่น ฤทธิ์ของสารสกัดสมุนไพรบางชนิดในการยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อ Xanthomonas campestris การรวบรวมข้อมูลโรคพืชและเชื้อราสาเหตุชนิดต่างๆด้วยระบบดิจิตอล การประเมินความต้านทานของโรคใบไหม้ของข้าวเหนียวดำในระยะแตกกอหลังการปลูกเชื้อ 7 และ 14 วัน การใช้ผลพลอยได้จากไหมอีรี่เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ การคัดเลือก ecorace ไหมอีรี่เพื่อการปรับปรุงพันธุ์ การยับยั้งการเพิ่มจำนวนไวรัสนิวคลีโอโพลีฮีโดร (NPV) ของไหม โดยใช้ double-strand RNA interference การผลิตไคตินจากไวรัสคลอเรลล่า การผลิตและการแปรรูปไหมอีรี่เป็นอาหารเพื่อจำหน่าย การพัฒนาอาหารเทียมที่เหมาะสมสำหรับเลี้ยงหนอนไหมอีรี่ ในจังหวัดกาฬสินธุ์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair