สืบค้นงานวิจัย
การเปรียบเทียบดัชนีชี้วัด 4 ชนิดในการประเมินกลุ่มผู้สัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรัง
Suparat Chaikittiporn - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การเปรียบเทียบดัชนีชี้วัด 4 ชนิดในการประเมินกลุ่มผู้สัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรัง
ชื่อเรื่อง (EN): The comparison of four indices to evaluate the manganese chronic exposures
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Suparat Chaikittiporn
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาภาคตัดขวางในกลุ่มพนักงานโรงงานผลิตถ่านไฟฉายแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการใช้สารแมงกานีสในกระบวนการผลิต การสำรวจทางด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรมได้กระทำขึ้นเพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาพการทำงานและพฤติกรรมของคนงานในด้านความปลอดภัย ในการศึกษาครั้งนี้ได้ทำการคัดเลือกกลุ่มคนที่สัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรังจำนวน 9 คน และกลุ่มคนที่ไม่สัมผัสแมงกานีสอีก 9 คน ดัชนีชี้วัดสี่ดัชนีที่ใช้ในการประเมินการสัมผัสแมงกานีสประกอบด้วย การตรวจวัดระดับของแมงกานีสในอากาศ ระดับของแมงกานีสในปัสสาวะ แบบทดสอบโปรเกรสซีพเมตริก(SPM) และ CFF เป็นเครื่องมือในการประเมินภาวะเสี่ยงของกลุ่มสัมผัส จากการสำรวจทางด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรมพบว่า กลุ่มคนงานที่ทำงานสัมผัสกับแมงกานีสมี 3 แผนก คือ แผนกผสม แผนกอัดก้อนถ่าน และแผนกประกอบ ดัชนีชี้วัดแสดง ให้เห็นว่า ระดับของแมงกานีสในอากาศเกินค่ามาตรฐาน 1 ค่า และระดับของแมงกานีสในปัสสาวะมีค่าที่สูงเกินมาตรฐาน 2 ค่า การเปรียบเทียบดัชนีชี้วัดทั้ง 4 ดัชนี สรุปได้ว่า การตรวจวัดระดับของแมงกานีสในอากาศและปัสสาวะ นับว่ามีความเหมาะสมในการประเมินกลุ่มผู้สัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรัง เนื่องจากค่าเฉลี่ยของระดับความเข้มข้นของแมงกานีสในอากาศ และปัสสาวะในกลุ่มผู้สัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรังสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ระดับคะแนน SPM ในกลุ่มสัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรังมีต่ำกว่าในกลุ่มควบคุม และค่า CFF ในกลุ่มตัวอย่างพบว่าไม่มีทิศทางที่แน่นอน สรุปได้ว่า การตรวจวัดระดับของแมงกานีสในอากาศมีความเหมาะสมที่สุดในการประเมินการสัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรัง การวัดระดับความเข้มข้นของแมงกานีสในปัสสาวะยังไม่น่าเชื่อถือเพียงพอ เนื่องจากแมงกานีสมีค่าครึ่งชีวิตสั้น สำหรับคะแนน SPM และค่า CFF ไม่เหมาะสมที่จะใช้ในการทดลองนี้ เนื่องจากมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมากเกินไป
บทคัดย่อ (EN): This study was cross-sectional analytical research conducted in a dry-cell battery plant where manganese was used. The industrial hygiene survey was performed in order to get details of working conditions and safety behaviors. The nine manganese chronic exposures were selected to be the subjects of this study and compared with the control group. Four indices which were the air concentration, the urine concentration, the SPM and the CFF values for evaluation of manganese exposures were used to identify the risk status of exposures. The results of the industrial hygiene survey showed that there were three working sections exposed to manganese i.e. mixing, tamping and processing. The indices of chronic exposures revealed that there was one subject which showed excess value in urine index and two excess values in air index. When comparing the four indices, it was found that the air and the urine indices are quite suitable because the mean of the air and the urine concentration in chronic exposure group was higher than the control group with a significant difference at p < 0.001. The SPM scores in chronic exposure group were lower than the control group, and the CFF values showed uncertain significances. The results also confirmed that the air concentration was appropriate for evaluation of manganese chronic exposures. The urine concentration may not be reliable because its half-life was too short. Also the SPM and the CFF values were not appropriate for this experiment because of various affecting factors.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=4145&obj_id=4146
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Environmental Pollutants
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาภาคตัดขวางในกลุ่มพนักงานโรงงานผลิตถ่านไฟฉายแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการใช้สารแมงกานีสในกระบวนการผลิต การสำรวจทางด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรมได้กระทำขึ้นเพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาพการทำงานและพฤติกรรมของคนงานในด้านความปลอดภัย ในการศึกษาครั้งนี้ได้ทำการคัดเลือกกลุ่มคนที่สัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรังจำนวน 9 คน และกลุ่มคนที่ไม่สัมผัสแมงกานีสอีก 9 คน ดัชนีชี้วัดสี่ดัชนีที่ใช้ในการประเมินการสัมผัสแมงกานีสประกอบด้วย การตรวจวัดระดับของแมงกานีสในอากาศ ระดับของแมงกานีสในปัสสาวะ แบบทดสอบโปรเกรสซีพเมตริก(SPM) และ CFF เป็นเครื่องมือในการประเมินภาวะเสี่ยงของกลุ่มสัมผัส จากการสำรวจทางด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรมพบว่า กลุ่มคนงานที่ทำงานสัมผัสกับแมงกานีสมี 3 แผนก คือ แผนกผสม แผนกอัดก้อนถ่าน และแผนกประกอบ ดัชนีชี้วัดแสดง ให้เห็นว่า ระดับของแมงกานีสในอากาศเกินค่ามาตรฐาน 1 ค่า และระดับของแมงกานีสในปัสสาวะมีค่าที่สูงเกินมาตรฐาน 2 ค่า การเปรียบเทียบดัชนีชี้วัดทั้ง 4 ดัชนี สรุปได้ว่า การตรวจวัดระดับของแมงกานีสในอากาศและปัสสาวะ นับว่ามีความเหมาะสมในการประเมินกลุ่มผู้สัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรัง เนื่องจากค่าเฉลี่ยของระดับความเข้มข้นของแมงกานีสในอากาศ และปัสสาวะในกลุ่มผู้สัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรังสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ระดับคะแนน SPM ในกลุ่มสัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรังมีต่ำกว่าในกลุ่มควบคุม และค่า CFF ในกลุ่มตัวอย่างพบว่าไม่มีทิศทางที่แน่นอน สรุปได้ว่า การตรวจวัดระดับของแมงกานีสในอากาศมีความเหมาะสมที่สุดในการประเมินการสัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรัง การวัดระดับความเข้มข้นของแมงกานีสในปัสสาวะยังไม่น่าเชื่อถือเพียงพอ เนื่องจากแมงกานีสมีค่าครึ่งชีวิตสั้น สำหรับคะแนน SPM และค่า CFF ไม่เหมาะสมที่จะใช้ในการทดลองนี้ เนื่องจากมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมากเกินไป
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

Suparat Chaikittiporn. "การเปรียบเทียบดัชนีชี้วัด 4 ชนิดในการประเมินกลุ่มผู้สัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรังThe comparison of four indices to evaluate the manganese chronic exposures". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2550

Suparat Chaikittiporn. "การเปรียบเทียบดัชนีชี้วัด 4 ชนิดในการประเมินกลุ่มผู้สัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรังThe comparison of four indices to evaluate the manganese chronic exposures". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2550. Print.



TARR Wordcloud:
การเปรียบเทียบดัชนีชี้วัด 4 ชนิดในการประเมินกลุ่มผู้สัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรัง
Suparat Chaikittiporn
มหาวิทยาลัยมหิดล
2550
การเปรียบเทียบประโยชน์ทางคลินิกและเศรษฐศาสตร์ก่อนและหลังการแนะนำการให้ยาต้านจุลชีพชนิดฉีดตามด้วยชนิดรับประทาน การศึกษาการผสมเกสร การติดเมล็ด และการงอกของเมล็ดพืชในกลุ่มขมิ้น (Curcuma) ที่ผสมภายในชนิดเดียวกันและต่างชนิดกัน การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความแปรผันของยีน CTLA-4. TAB2 และโรคเบาหวานชนิดชนิดที่ 1 ในประชากรไทย สครับไทฟัสชนิดรุนแรง : ตัวชี้วัดพยากรณ์ เกณฑ์ทำนายทางคลินิกและการตรวจสอบ กายวิภาคเปรียบเทียบของพืชสกุล Cassia บางชนิดในประเทศไทย การพัฒนาดัชนีชี้วัดปริมาณไนโตรเจนในใบของข้าวโพด การเปรียบเทียบตัวประมาณค่าดัชนีความหลากหลายของ shannon ภายใต้ตัวอย่างที่พบไม่ครบทุกชนิด : ศึกษาในเห็ดราขนาดให พฤติกรรมของโลหะหนักบางชนิดในแม่น้ำบางปะกง ผลของโลหะหนักต่อการเจริญของแพลงก์ตอนพืชบางชนิด การศึกษาชนิดและปริมาณของน้ำตาลและกรดอินทรีย์บางชนิดในสารที่หลั่งจากราก (root exudate) ของข้าว 5 พันธุ์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair