สืบค้นงานวิจัย
ความแตกต่างระหว่างผู้นำทางการเกษตรและผู้ที่มิใช่ผู้นำในเรื่องแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ พฤติกรรมกล้าเสี่ยง และพฤติกรรมแพร่ขยาย
นาถ พันธุมนาวิน - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: ความแตกต่างระหว่างผู้นำทางการเกษตรและผู้ที่มิใช่ผู้นำในเรื่องแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ พฤติกรรมกล้าเสี่ยง และพฤติกรรมแพร่ขยาย
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นาถ พันธุมนาวิน
บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ของการวิจัยเรื่องนี้ มีดังนี้ 1) เพื่อหาผู้นำทางการเกษตรด้วยวิธีสังคมมิติ 2) เพื่อศึกษาหาข้อแตกต่างระหว่างผู้นำทางการเกษตรกับผู้ที่มิใช่ผู้นำในเรื่องแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ พฤติกรรมกล้าเสี่ยงในสถานการณ์ต่าง ๆ พฤติกรรมแพร่ขยาย และลักษณะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 3) เพื่อศึกษาว่าความสัมพันธ์ของลักษณะและพฤติกรรมต่าง ๆ ของผู้นำทางการเกษตร จะแตกต่างจากของผู้ที่มิใช่ผู้นำอย่างไร การศึกษาภาคสนามนี้ แบ่งการเก็บข้อมูลเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกเป็นการสัมภาษณ์หัวหน้าครัวเรือนที่สุ่มมา จำนวน 98 คน เพื่อหาผู้นำทางการเกษตรด้วยวิธีสังคมมิต และในช่วงที่สองเป็นการศึกษาหาความแตกต่างระหว่างผู้นำทางการเกษตร กับผู้ที่มิใช่ผู้นำ รวมทั้งสิ้นจำนวน80 คน ในเรื่องแรงจุงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ความกล้าเสี่ยง การแพร่ขยาย และลักษณะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ผลการวิจัยที่สำคัญมีดังนี้คื ผู้นำทางการเกษตรมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ความกล้าเสี่ยงในสถานการณ์ที่อาศัยความชำนาญ พฤติกรรมแพร่ขยาย ความสุขุมรอบคอบ และการปรับตัวมากกว่าผู้ที่มิใช่ผู้นำ ส่วนผู้ที่มิใช่ผู้นำนั้นมีความกล้าเสี่ยงในสถานการณ์ที่อาศัยโชค และมีอารมณ์เครียดในสถานการณ์นี้มากกว่าผู้ที่เป็นผู้นำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในระดับที่เชื่อมั่นได้ ผลส่วนนี้สอดคลัองกับสมมติฐาน 4 ข้อแรกของการวิจัยนี้ ส่วนการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะและพฤติกรรมต่าง ๆ ของผู้นำทางการเกษตร เพื่อเปรียบเทียบกับของผู้ที่มิใช่ผู้นำ พบผลที่สำคัญคือ ในกลุ่มผู้นำทางการเกษตร แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์มีความสัมพันธ์ในทางลบกับพฤติกรรมกล้าเสี่ยงในสถานการณ์ที่อาศัยความชำนาญ และพฤติกรรมแพร่ขยายมีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมกล้าเสี่ยงในสถานการณ์ที่อาศัยโชค อย่างมีน้ยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนในกลุ่มผู้ที่มิใช่ผู้นำนั้น ไม่พบความสัมพันธ์ดังที่กล่าวมาแล้ว แต่ปรากฏว่า พฤติกรรมกล้าเสี่ยงของผู้ที่มิใช่ผู้นำในทั้งสองสถานการณ์นั้น มีความสัมพันธ์กันในทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จึงสรุปได้ว่าผลการวิจัยส่วนนี้สนับสนุนสมมติฐานที่ 5 จึงสรุปได้ว่าผู้นำทางการเกษตรแตกจากผู้ที่มิใช่ผู้นำในปริมาณแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ความกล้าเสี่ยง และพฤติกรรมแพร่ขยาย ซึ่งเป็นลักษณะที่จะส่งเสริมให้ผู้นำทางการเกษตรเป็นผู้ที่เหมาะสมที่จะได้รับการส่งเสริมการเกษตร มากกว่าผู้ที่มิใช่ผู้นำ
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: พฤติกรรมแพร่ขยาย
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมส่งเสริมการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ความแตกต่างระหว่างผู้นำทางการเกษตรและผู้ที่มิใช่ผู้นำในเรื่องแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ พฤติกรรมกล้าเสี่ยง และพฤติกรรมแพร่ขยาย
กรมส่งเสริมการเกษตร
2518
การยอมรับวิทยาการแผนใหม่กับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ความกล้าเสี่ยงและความวิตกกังวลของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดใน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พฤติกรรมการรับข่าวสารของผู้อ่านหนังสือพิมพ์ข่าวเกษตร พฤติกรรมการใช้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของนักศึกษา คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ แรงจูงใจในการประกอบอาชีพเกษตรในอนาคตของสมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่นในจังหวัดอุดรธานี การศึกษาปลาฉลามกบ (Chiloscyllium punctatum) ในระบบการเลี้ยงที่แตกต่างกัน การบริหารจัดการโครงการประชารัฐด้านการเกษตรของกองทุนหมู่บ้านในอำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ การแพร่กระจายและอัตราการสะสมของโลหะหนักในสัตว์น้ำ บริเวณแม่น้ำเพชรบุรี บทบาทและหน้าที่ของเกษตรกรผู้นำตามความหวังของเกษตรกร เกษตรตำบล และเกษตรกรผู้นำ ในจังหวัดนครปฐม พฤติกรรมการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชผักของเกษตรกรในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมตาจีโนมิคส์ของจุลินทรีย์ดินเพื่อการประยุกต์ใช้ทางการเกษตรอุตสาหกรรม และการแพทย์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก