สืบค้นงานวิจัย
การหารูปแบบทางพันธุกรรมที่จำเพาะต่อปริมาณแป้งในมันสำปะหลัง
Weeradej Khonsuntia - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การหารูปแบบทางพันธุกรรมที่จำเพาะต่อปริมาณแป้งในมันสำปะหลัง
ชื่อเรื่อง (EN): using microsatellite and AFLP markers
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Weeradej Khonsuntia
บทคัดย่อ: มันสำปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างหนึ่งของประเทศไทย ในปัจจุบันความต้องการ ในการใช้ประโยชน์จากแป้งมันสำปะหลังเพื่อใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่างๆมีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการประยุกต์ใช้เครื่องหมายพันธุกรรมเพื่อใช้ในการคัดเลือกสายพันธุ์มันสำปะหลังจึงเป็น แนวทางหนึ่งในการพัฒนาพันธุ์มันสำปะหลังที่มีปริมาณแป้งสูงได้ ในการวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อ สร้างแผนที่พันธุกรรมและหาเครื่องหมายดีเอ็นเอที่มีรูปแบบพันธุกรรมสอดคล้องกับปริมาณแป้ง ของมันสำปะหลังโดยใช้เครื่องหมายชนิดไมโครแซทเทลไลท์และ AFLP จากการวิเคราะห์รูปแบบ พันธุกรรมโดยใช้ไพร์เมอร์เพื่อเพิ่มจำนวนดีเอ็นเอเครื่องหมายชนิดไมโครแซทเทลไลท์จำนวน 43 คู่ไพรเมอร์และชนิดAFLP จำนวน 8 คู่ไพร์เมอร์ กับตัวอย่างดีเอ็นเอของลูกผสม F1 ที่เกิดจากการ ผสมระหว่างมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 90 และพันธุ์ระยอง 5 จำนวน 58 ตัวอย่าง นำมาสร้างเป็น แผนที่พันธุกรรมของมันสำปะหลัง โดยจัดกลุ่มลิงค์เกจของเครื่องหมายดีเอ็นที่อยู่กลุ่มเดียวกันจาก พันธุ์ระยอง 90 ได้ 7 กลุ่มลิงค์เกจ และจากระยอง 5 ได้จำนวน 8 กลุ่มลิงค์เกจ ระยะทางทั้งหมดคิด เป็น 338 cM เมื่อวิเคราะห์การถดถอยเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบพันธุกรรมของ เครื่องหมายดีเอ็นเอกับปริมาณแป้งพบว่ามีเครื่องหมายดีเอ็นเอชนิดไมโครแซทเทลไลท์จำนวน 5 เครื่องหมายและเครื่องหมายดีเอ็นเอชนิด AFLP จำนวน 2 เครื่องหมายมีความสอดคล้องกับ ปริมาณแป้งอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p<0.05 เมื่อนำเครื่องหมายพันธุกรรมเหล่านี้ไปวิเคราะห์ การถดถอยพหุพบว่าสามารถใช้เครื่องหมายพันธุกรรม 4 เครื่องหมายได้แก่ SSRY25, SSRY175a, SSRY35a, and E51M19a ร่วมกันในการทำนายปริมาณแป้งในมันสำปะหลังได้ ร้อยละ 29.6%
บทคัดย่อ (EN): Cassava is one of the most important crops of Thailand. At present, the need for using cassava starch in several industrial applications is increasing. Applying marker assisted selection into cassava breeding programs is one way to improve the development of a new cassava variety with high starch. This study aims to construct molecular genetic maps and identify markers associated with starch content using microsatellite and Amplified Fragment Length Polymorphism (AFLP) markers. A total of 43 microsatellite primer pairs and 8 combinations of AFLP were used to genotype F1 population comprising of 58 progeny from a cross of Rayong 90 (female) and Rayong 5 (male). The cassava genetic linkage map reported here spans 388 cM, has 7 linkage groups in the female-derived map, and 8 linkage groups in the malederived map, and is estimated to cover 25% of the cassava genome. In an association study between markers and starch content using a simple linear regression analysis, 7 markers were significantly associated with starch content (p<0.05). These markers were further analyzed by multiple regressions. The combination of 4 markers (SSRY25, SSRY175a, SSRY35a, and E51M19a) is be able to explain 29.6% of the variation of starch content in cassava
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3435&obj_id=4954
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Microsatellite Repeats
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: มันสำปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างหนึ่งของประเทศไทย ในปัจจุบันความต้องการ ในการใช้ประโยชน์จากแป้งมันสำปะหลังเพื่อใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่างๆมีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการประยุกต์ใช้เครื่องหมายพันธุกรรมเพื่อใช้ในการคัดเลือกสายพันธุ์มันสำปะหลังจึงเป็น แนวทางหนึ่งในการพัฒนาพันธุ์มันสำปะหลังที่มีปริมาณแป้งสูงได้ ในการวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อ สร้างแผนที่พันธุกรรมและหาเครื่องหมายดีเอ็นเอที่มีรูปแบบพันธุกรรมสอดคล้องกับปริมาณแป้ง ของมันสำปะหลังโดยใช้เครื่องหมายชนิดไมโครแซทเทลไลท์และ AFLP จากการวิเคราะห์รูปแบบ พันธุกรรมโดยใช้ไพร์เมอร์เพื่อเพิ่มจำนวนดีเอ็นเอเครื่องหมายชนิดไมโครแซทเทลไลท์จำนวน 43 คู่ไพรเมอร์และชนิดAFLP จำนวน 8 คู่ไพร์เมอร์ กับตัวอย่างดีเอ็นเอของลูกผสม F1 ที่เกิดจากการ ผสมระหว่างมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 90 และพันธุ์ระยอง 5 จำนวน 58 ตัวอย่าง นำมาสร้างเป็น แผนที่พันธุกรรมของมันสำปะหลัง โดยจัดกลุ่มลิงค์เกจของเครื่องหมายดีเอ็นที่อยู่กลุ่มเดียวกันจาก พันธุ์ระยอง 90 ได้ 7 กลุ่มลิงค์เกจ และจากระยอง 5 ได้จำนวน 8 กลุ่มลิงค์เกจ ระยะทางทั้งหมดคิด เป็น 338 cM เมื่อวิเคราะห์การถดถอยเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบพันธุกรรมของ เครื่องหมายดีเอ็นเอกับปริมาณแป้งพบว่ามีเครื่องหมายดีเอ็นเอชนิดไมโครแซทเทลไลท์จำนวน 5 เครื่องหมายและเครื่องหมายดีเอ็นเอชนิด AFLP จำนวน 2 เครื่องหมายมีความสอดคล้องกับ ปริมาณแป้งอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การหารูปแบบทางพันธุกรรมที่จำเพาะต่อปริมาณแป้งในมันสำปะหลัง
Weeradej Khonsuntia
มหาวิทยาลัยมหิดล
2549
ปริมาณการสะสมคาร์บอนในมันสำปะหลังและยางพารา จังหวัดระยอง การค้นหากลุ่มยีนที่เกี่ยวข้องในวิถีการสังเคราะห์แป้งในมันสำปะหลังด้วยเทคนิค Suppression subtractive hybridization. ผลของพันธุ์และอายุเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังต่อปริมาณการใช้น้ำในการสกัดแป้งของหน่วยสกัด การผลิตเอทานอลจากเหง้ามันสำปะหลัง การปรับปรุงคุณภาพแผ่นแป้งแหนมเนืองโดยการใช้แป้งผสมระหว่างแป้งข้าวเจ้ากับแป้งพุทธรักษา การศึกษาผลกระทบของการปรับเปลี่ยนความยาวของเครื่องกรองแบบตะแกรงโค้งต่อประสิทธิภาพของการแยกแป้งมันสำปะหลังออกจากกากอ่อนมันสำปะหลัง การศึกษาทางพันธุศาสตร์โมเลกุลของโปรตีนที่แสดงออกในช่วงการพัฒนาของหัวมันสำปะหลัง การตรวจอย่างรวดเร็วเพื่อหาปริมาณละอองฝอยของเชื้อลีเจียนแนร์ โดยใช้เทคนิคการเก็บอากาศผ่านน้ำร่วมกับวิธีเพิ่มปริมาณ การพัฒนาเครื่องหมายพันธุกรรมที่จำเพาะต่อการเจริญเติบโตของกุ้งกุลาดำ การหาลักษณะจำเพาะของยีนเซลลูเลสและไซลาเนสจากแบคทีเรีย ในกระเพาะหมักของวัว
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก