สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาวิจัย เรื่อง การบริหารจัดการน้ำแบบผสมผสาน กรณีศึกษาลุ่มน้ำย่อยลำเซบาย
อนุชา เพียรชนะ - มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
ชื่อเรื่อง: การศึกษาวิจัย เรื่อง การบริหารจัดการน้ำแบบผสมผสาน กรณีศึกษาลุ่มน้ำย่อยลำเซบาย
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: อนุชา เพียรชนะ
บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ ศึกษาสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บทบาทของประชาชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเชิงบูรณาการ บริเวณลุ่มน้ำย่อยลำเซบาย เพื่อหาแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำโดยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดยโสธร จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี วิธีการศึกษาวิจัยด้านทรัพยากรทางกายภาพใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ทั้งข้อมูลเชิงพื้นที่และข้อมูลเชิงบรรยาย ได้ใช้โปรแกรม Arcview 3.2 เป็นโปรแกรมหลักในการดำเนินงาน การศึกษาคุณภาพน้ำใช้วิธี Standard Methods for the examination of water and Wastewater (AWWA) การสำรวจพืช ใช้การสำรวจแบบจำแนกชั้น โดยการสำรวจโดยตรงและโดยอ้อม และการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบมีส่วนร่วมของประชาชนโดยใช้วิธีการประชุม สัมมนาปฏิบัติการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และใช้แบบสอบถาม ผลการศึกษาทางด้านสถานภาพของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่าทรัพยากรป่าไม้อยู่ในระดับเตือนภัย ซึ่งแสดงว่าสภาพป่าไม้ไม่สมบูรณ์ มีพื้นที่ป่าเหลือเฉพาะบริเวณรอบลำน้ำ สำหรับด้านคุณภาพน้ำลำเซบาย ทั้งทางด้านกายภาพ เคมี และชีวภาพ พบว่า คุณภาพน้ำในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ำผิวดินประเภท 3 ที่กำหนดโดยกรมควบคุมมลพิษ (2547) สำหรับคุณภาพน้ำด้านเคมีคุณภาพน้ำอยู่ในภาวะเสี่ยงภัยถึงวิกฤติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าความสกปรกในรูป BOD และโลหะหนัก ได้แก่ ตะกั่ว (Pb) แคดเมียม (Cd) โครเมียม (Cr) เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานคุณภาพน้ำผิวดินสำหรับประเทศไทย ส่วนคุณภาพน้ำทางชีวภาพได้ใช้ดัชนีด้านโคลิฟอร์มแบคทีเรีย พบว่าอยู่ในสถานภาพปกติ จึงมีความจำเป็นต้องคอยเฝ้าระวังและตรวจประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ ด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน พบว่า ประชากรกลุ่มตัวอย่าง มีอายุเฉลี่ย 45 ปี การศึกษาของประชากรส่วนใหญ่จบการศึกษาในระดับประถมศึกษา ร้อยละ 81.60 อาชีพหลักทำนา ทำไร่ และทำสวน ร้อยละ 84.20 ส่วนใหญ่มีที่ดินทำกิจของตนเอง ร้อยละ 98.80 มีรายได้รวมเฉลี่ยต่อปี เท่ากับ 900,000 บาท รายจ่ายรวมเฉลี่ยต่อปี เท่ากับ 1,000,000 บาท ซึ่งแสดงว่ามีสภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ไม่ดี มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ส่วนมากการเก็บหาของป่าและไม้ฟืน และใช้ในครัวเรือนเป็นส่วนใหญ่ในระดับมาก ด้านความรู้เรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและกฎหมายป่าไม้ ประชาชนมีความรู้ในระดับมาก ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และเข้าร่วมกิจกรรมระดับน้อย แต่มีความต้องการในการร่วมวางแผนร่วมปฏิบัติการ ร่วมติดตามประเมินผลและร่วมประชาสัมพันธ์ในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับปานกลาง สำหรับด้านสุขภาพอนามัยโดยภาพรวมมีสุขภาพกายอยู่ในเกณฑ์ดี และพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความเอื้ออาทรต่อกัน จากการจัดประชุมเวทีประชาคมทั้ง 6 เวที พบว่า จังหวัดยโสธรเป็นพื้นที่เหมาะสมในการเป็นเจ้าภาพจัดตั้งเครือข่ายการบริหารจัดการคุณภาพน้ำ โดยมีจังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานีเป็นลูกข่าย โดยกระทำพร้อม ๆ กันทุกภาคส่วน เมื่อพิจารณาความเหมือนของแนวคิดจากการประชุมร่วมในส่วนคณะผู้วิจัยกับตัวแทนท้องถิ่นในลุ่มน้ำย่อยลำเซบายได้โครงการเพื่อเป็นแนวทางในการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งสิ้น 34 โครงการ แบ่งออกเป็น โครงการเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 15 โครงการ โครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 10 โครงการ และโครงการเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 9 โครงการ The purposes of this research were to study about the conditions of natural resources and environment along the Lum Say Bai Sub Basin and to study the roles of people in the integral administration and management of natural resources and environment along the Lum Say Bai Sub Basin in order to seek for the ways to administer and to manage water resources which are co-operated by every sector covering Yasothorn Province, Amnatcharoen province, and Ubonratchathani Povince. According to the conditions of natural resources and environment, the conditions of forest resources are at an alarming level, which means forests are not fertile, as evidenced by forests left around the basin only. As for the physical, chemical and biological conditions of water in the Lum Say Bai Sub Basin, its general quality is at an average level, which meets the standardized criteria of the quality of ground water type 3, which is set by the Department of Pollution Control (2004). As for the chemical conditions of water, the quality is risky to critical level, especially the level of BOD and heavy metals like lead (Pb), cadmium (Cd) and Cromium (Cr) when being compared to the standardized criteria of the quality of ground water of Thailand. The biological quality of ground water, coliform bacteria is normal level, this biological quality needs to constant surveillance, monitoring and evaluation. Regarding the cooperation of people present the average age is 45. Most of 81.60% finish primary school. 84.20% of them run paddy fields, farms and gardens. Most of them, 98.80%, own lands. Their average annual earning is 900,000 baht and their average annual expense is 1,000,000 baht, which present that their economy condition is not good. They use the natural resources, mostly by forest products and firewood which are mostly and highly used in their household. Regarding their knowledge, people have the knowledge of the preservation of natural resources and of the forest law at a high level. Their knowledge and understanding of the participation in the management of natural resources and their participation in activities are at a low level However, their eagerness to participate in planning, operating, evaluating, and promoting the administration and the management of natural resources and environment is at an average level. As for their health in general, they are healthy. It is also found that most people are still kind to each other. From 6 communal meetings, it is found that Yasothorn Province is the most appropriate for being the leader that organizes a network of the administration and the management of water quality, having Amnatchareon province and Ubonratchathani province as its branches. The operation in all sections would be conducted together. The similar ideas of the researchers and the representatives from the communities along the Lum Say Bai Sub Basin result in 34 projects that lead to the administration of the basin: 15 projects regarding the use of natural resources and environment, 10 projects regarding the preservation of natural resources and environment, and 9 projects regarding the administration of natural resources and environment.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.ubru.ac.th/Research/Anucha_2550/title.pdf
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
คำสำคัญ: 333.911 อ187ก
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
รายละเอียด: วัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ ศึกษาสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บทบาทของประชาชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเชิงบูรณาการ บริเวณลุ่มน้ำย่อยลำเซบาย เพื่อหาแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำโดยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดยโสธร จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี วิธีการศึกษาวิจัยด้านทรัพยากรทางกายภาพใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ทั้งข้อมูลเชิงพื้นที่และข้อมูลเชิงบรรยาย ได้ใช้โปรแกรม Arcview 3.2 เป็นโปรแกรมหลักในการดำเนินงาน การศึกษาคุณภาพน้ำใช้วิธี Standard Methods for the examination of water and Wastewater (AWWA) การสำรวจพืช ใช้การสำรวจแบบจำแนกชั้น โดยการสำรวจโดยตรงและโดยอ้อม และการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบมีส่วนร่วมของประชาชนโดยใช้วิธีการประชุม สัมมนาปฏิบัติการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และใช้แบบสอบถาม ผลการศึกษาทางด้านสถานภาพของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่าทรัพยากรป่าไม้อยู่ในระดับเตือนภัย ซึ่งแสดงว่าสภาพป่าไม้ไม่สมบูรณ์ มีพื้นที่ป่าเหลือเฉพาะบริเวณรอบลำน้ำ สำหรับด้านคุณภาพน้ำลำเซบาย ทั้งทางด้านกายภาพ เคมี และชีวภาพ พบว่า คุณภาพน้ำในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ำผิวดินประเภท 3 ที่กำหนดโดยกรมควบคุมมลพิษ (2547) สำหรับคุณภาพน้ำด้านเคมีคุณภาพน้ำอยู่ในภาวะเสี่ยงภัยถึงวิกฤติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าความสกปรกในรูป BOD และโลหะหนัก ได้แก่ ตะกั่ว (Pb) แคดเมียม (Cd) โครเมียม (Cr) เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานคุณภาพน้ำผิวดินสำหรับประเทศไทย ส่วนคุณภาพน้ำทางชีวภาพได้ใช้ดัชนีด้านโคลิฟอร์มแบคทีเรีย พบว่าอยู่ในสถานภาพปกติ จึงมีความจำเป็นต้องคอยเฝ้าระวังและตรวจประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ ด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน พบว่า ประชากรกลุ่มตัวอย่าง มีอายุเฉลี่ย 45 ปี การศึกษาของประชากรส่วนใหญ่จบการศึกษาในระดับประถมศึกษา ร้อยละ 81.60 อาชีพหลักทำนา ทำไร่ และทำสวน ร้อยละ 84.20 ส่วนใหญ่มีที่ดินทำกิจของตนเอง ร้อยละ 98.80 มีรายได้รวมเฉลี่ยต่อปี เท่ากับ 900,000 บาท รายจ่ายรวมเฉลี่ยต่อปี เท่ากับ 1,000,000 บาท ซึ่งแสดงว่ามีสภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ไม่ดี มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ส่วนมากการเก็บหาของป่าและไม้ฟืน และใช้ในครัวเรือนเป็นส่วนใหญ่ในระดับมาก ด้านความรู้เรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและกฎหมายป่าไม้ ประชาชนมีความรู้ในระดับมาก ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และเข้าร่วมกิจกรรมระดับน้อย แต่มีความต้องการในการร่วมวางแผนร่วมปฏิบัติการ ร่วมติดตามประเมินผลและร่วมประชาสัมพันธ์ในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับปานกลาง สำหรับด้านสุขภาพอนามัยโดยภาพรวมมีสุขภาพกายอยู่ในเกณฑ์ดี และพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความเอื้ออาทรต่อกัน จากการจัดประชุมเวทีประชาคมทั้ง 6 เวที พบว่า จังหวัดยโสธรเป็นพื้นที่เหมาะสมในการเป็นเจ้าภาพจัดตั้งเครือข่ายการบริหารจัดการคุณภาพน้ำ โดยมีจังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานีเป็นลูกข่าย โดยกระทำพร้อม ๆ กันทุกภาคส่วน เมื่อพิจารณาความเหมือนของแนวคิดจากการประชุมร่วมในส่วนคณะผู้วิจัยกับตัวแทนท้องถิ่นในลุ่มน้ำย่อยลำเซบายได้โครงการเพื่อเป็นแนวทางในการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งสิ้น 34 โครงการ แบ่งออกเป็น โครงการเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 15 โครงการ โครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 10 โครงการ และโครงการเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 9 โครงการ The purposes of this research were to study about the conditions of natural resources and environment along the Lum Say Bai Sub Basin and to study the roles of people in the integral administration and management of natural resources and environment along the Lum Say Bai Sub Basin in order to seek for the ways to administer and to manage water resources which are co-operated by every sector covering Yasothorn Province, Amnatcharoen province, and Ubonratchathani Povince. According to the conditions of natural resources and environment, the conditions of forest resources are at an alarming level, which means forests are not fertile, as evidenced by forests left around the basin only. As for the physical, chemical and biological conditions of water in the Lum Say Bai Sub Basin, its general quality is at an average level, which meets the standardized criteria of the quality of ground water type 3, which is set by the Department of Pollution Control (2004). As for the chemical conditions of water, the quality is risky to critical level, especially the level of BOD and heavy metals like lead (Pb), cadmium (Cd) and Cromium (Cr) when being compared to the standardized criteria of the quality of ground water of Thailand. The biological quality of ground water, coliform bacteria is normal level, this biological quality needs to constant surveillance, monitoring and evaluation. Regarding the cooperation of people present the average age is 45. Most of 81.60% finish primary school. 84.20% of them run paddy fields, farms and gardens. Most of them, 98.80%, own lands. Their average annual earning is 900,000 baht and their average annual expense is 1,000,000 baht, which present that their economy condition is not good. They use the natural resources, mostly by forest products and firewood which are mostly and highly used in their household. Regarding their knowledge, people have the knowledge of the preservation of natural resources and of the forest law at a high level. Their knowledge and understanding of the participation in the management of natural resources and their participation in activities are at a low level However, their eagerness to participate in planning, operating, evaluating, and promoting the administration and the management of natural resources and environment is at an average level. As for their health in general, they are healthy. It is also found that most people are still kind to each other. From 6 communal meetings, it is found that Yasothorn Province is the most appropriate for being the leader that organizes a network of the administration and the management of water quality, having Amnatchareon province and Ubonratchathani province as its branches. The operation in all sections would be conducted together. The similar ideas of the researchers and the representatives from the communities along the Lum Say Bai Sub Basin result in 34 projects that lead to the administration of the basin: 15 projects regarding the use of natural resources and environment, 10 projects regarding the preservation of natural resources and environment, and 9 projects regarding the administration of natural resources and environment.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาวิจัย เรื่อง การบริหารจัดการน้ำแบบผสมผสาน กรณีศึกษาลุ่มน้ำย่อยลำเซบาย
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
2550
เรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไท-ยวน กรณีศึกษา : การจัดการน้ำเพื่อการเกษตร ตำบลคูบัว อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี การศึกษาศักยภาพของลำน้ำด้านปริมาณ คุณภาพ การจัดการของชุมชนและการส่งเสริมการจัดการแบบมีส่วนร่วม : ศึกษากรณีลำน้ำเสียวใหญ่ จังหวัดมหาสารคาม รายงานการวิจัย การอนุรักษ์และการจัดการทรัพยากรน้ำบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำสบมูล-ชี จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี โครงการการศึกษาตัวแบบการจัดการแหล่งน้ำแบบยั่งยืน กรณีศึกษาบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ : รายงานฉบับสมบูรณ์ รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาสูตรอาหารที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ฟีโลเดนดรอนมูนไลท์ รายงานการวิจัย การผลิตและควบคุมสารออกฤทธิ์เคอร์คูมินอยด์และน้ำมันหอมระเหยของสมุนไพรว่านชักมดลูก ภายใต้การจัดการแสง ชนิด และอัตราปุ๋ย การบริหารจัดการพัฒนาพื้นที่ต้นน้ำแบบบูรณาการ กรณีศึกษาการสร้างแบบจำลองฝายต้นน้ำร่วมกับการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ รายงายผลการวิจัยฉบับสมบูรณ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่เค็มไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบวนการจัดการความรู้ในการผลิตลำไยนอกฤดูด้วยวิธีการตัดแต่งกิ่งของเกษตรกร ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาอัตราส่วนความเข้มข้นของน้ำสกัดชีวภาพที่มีผลของการเจริญเติบโตของผักกวางตุ้งฮ่องเต้
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก