สืบค้นงานวิจัย
การใช้กระบวนการ AIC ในการปรับปรุงสภาพและสิ่งแวดล้อมการทำงานเพื่อลดความเมื่อยล้าของกลุ่มจักสานผักตบชวา
Sirinthip Thongsuk - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การใช้กระบวนการ AIC ในการปรับปรุงสภาพและสิ่งแวดล้อมการทำงานเพื่อลดความเมื่อยล้าของกลุ่มจักสานผักตบชวา
ชื่อเรื่อง (EN): An application of AIC process to improve the working conditions and environment for reduction of working fatigue in the water-hyacinth handicraft group
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Sirinthip Thongsuk
บทคัดย่อ: value = 0.139) และท่าทางการทำงานนั้นไม่มีความแตกต่างเช่นกันแต่สิ่งแวดล้อมใน การทำงานนั้นพบว่ามีค่าเฉลี่ยที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ภายหลังปรับสภาพการทำงานแล้ว ประเมินความรู้สึกเมื่อยล้าทางด้านร่างกายนั้นพบว่าอวัยวะส่วนที่มีการเคลื่อนไหวได้น้อย ได้แก่ คอ สันหลัง ส่วนบนและส่วนล่าง แขนท่อนล่างทั้งซ้ายและขวาที่มีค่าเฉลี่ยความเมื่อยล้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ 0.05 ด้านจิตใจพบว่าหลังการทดลองกลุ่มแม่บ้านมีความรู้สึกต่อความเหนื่อยล้า ท้อแท้ต่องาน ต้องการ พักผ่อน และความรู้สึกว่างานที่ทำนั้นซ้ำซากลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และเพื่อให้การปรับ สภาพการทำงานและสิ่งแวดล้อมยั่งยืนต่อไป กลุ่มจักสานต้องการให้มีการจัดประชุมให้ความรู้เกี่ยวกับการ ปรับสภาพการทำงานอีก และควรมีคณะกรรมการติดตามผลการปรับสภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพราะใน การจะปรับนั้นต้องใช้เวลา และบางคนอาจมีข้อจำกัด สรุปได้ว่าการใช้กระบวนการ AIC นั้นสามารถให้กลุ่ม จักสานนั้นมีส่วนร่วมในการนำเสนอแนวคิดในการแก้ไขปัญหา แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่นอนว่าสามารถ ปรับสภาพการทำงานกลุ่มจักสานผักตบชวาได้ เพราะในการจะปรับปรุงนั้นต้องใช้เวลา บางคนอาจมีข้อจำกัด และอาจมีปัจจัยอื่นเข้ามามีอิทธิในการที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรม ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะว่าควรพัฒนา ทักษะและประสบการณ์ของผู้อำนวยการประชุมและควรมีการศึกษาทัศนคติต่อการปรับสภาพการทำงานของ กลุ่มตัวอย่างก่อนเพื่อจัดกิจกรรมได้เหมาะสม ให้กลุ่มตัวอย่างมีส่วนร่วมในการวางแผนและนำแผนไปสู่การ ปฏิบัติเพื่อพัฒนา และแก้ปัญหาได้สำเร็จตามเป้าหมาย
บทคัดย่อ (EN): June 22, 2004 by questionnaires and experiment. Descriptive statistics used were frequency , percentage, arithmetic mean, standard deviation, and analytical statistics used t- test. Results of the study showed that after experiment, the handicraft group has opinions on participation and problem solving together by using AIC process and gotten three projects, to improve working conditions included working posture, work hours,and working environment. It was found that working hours and working posture were not different between before and after experiment ( pvalue = 0.139). The mean score of environment was different between before and after experiment (p-value < 0.05). Bodily fatigue on neck, upper and lower back, forearm both side had decreased significantly (p-value<0.05) The results of this study suggest that, the handicraft group want to meeting about improve the working conditions again and may be follow up result of work continuosly. The improvement the working conditions will use long time, limit factor that may be influence for changing behavior. So have to be development the skill, experience of leader group and study about attitude befor the experiment for appropriate activity and the member have to be participation in action plan and bring it to operate for development and problem solve to reach goal.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=2689&obj_id=1885
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Psychological aspects
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: value = 0.139) และท่าทางการทำงานนั้นไม่มีความแตกต่างเช่นกันแต่สิ่งแวดล้อมใน การทำงานนั้นพบว่ามีค่าเฉลี่ยที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ภายหลังปรับสภาพการทำงานแล้ว ประเมินความรู้สึกเมื่อยล้าทางด้านร่างกายนั้นพบว่าอวัยวะส่วนที่มีการเคลื่อนไหวได้น้อย ได้แก่ คอ สันหลัง ส่วนบนและส่วนล่าง แขนท่อนล่างทั้งซ้ายและขวาที่มีค่าเฉลี่ยความเมื่อยล้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ 0.05 ด้านจิตใจพบว่าหลังการทดลองกลุ่มแม่บ้านมีความรู้สึกต่อความเหนื่อยล้า ท้อแท้ต่องาน ต้องการ พักผ่อน และความรู้สึกว่างานที่ทำนั้นซ้ำซากลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และเพื่อให้การปรับ สภาพการทำงานและสิ่งแวดล้อมยั่งยืนต่อไป กลุ่มจักสานต้องการให้มีการจัดประชุมให้ความรู้เกี่ยวกับการ ปรับสภาพการทำงานอีก และควรมีคณะกรรมการติดตามผลการปรับสภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพราะใน การจะปรับนั้นต้องใช้เวลา และบางคนอาจมีข้อจำกัด สรุปได้ว่าการใช้กระบวนการ AIC นั้นสามารถให้กลุ่ม จักสานนั้นมีส่วนร่วมในการนำเสนอแนวคิดในการแก้ไขปัญหา แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่นอนว่าสามารถ ปรับสภาพการทำงานกลุ่มจักสานผักตบชวาได้ เพราะในการจะปรับปรุงนั้นต้องใช้เวลา บางคนอาจมีข้อจำกัด และอาจมีปัจจัยอื่นเข้ามามีอิทธิในการที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรม ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะว่าควรพัฒนา ทักษะและประสบการณ์ของผู้อำนวยการประชุมและควรมีการศึกษาทัศนคติต่อการปรับสภาพการทำงานของ กลุ่มตัวอย่างก่อนเพื่อจัดกิจกรรมได้เหมาะสม ให้กลุ่มตัวอย่างมีส่วนร่วมในการวางแผนและนำแผนไปสู่การ ปฏิบัติเพื่อพัฒนา และแก้ปัญหาได้สำเร็จตามเป้าหมาย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การใช้กระบวนการ AIC ในการปรับปรุงสภาพและสิ่งแวดล้อมการทำงานเพื่อลดความเมื่อยล้าของกลุ่มจักสานผักตบชวา
Sirinthip Thongsuk
มหาวิทยาลัยมหิดล
2548
การปรับปรุงบริเวณที่ทำงานเพื่อลดความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อและความรู้สึกไม่สบาย ในกลุ่มอาชีพช่างแกะลายหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผา การลดต้นทุนในกระบวนการผลิตอาหารกระป๋องโดยใช้เทคโนโลยีสะอาด การประยุกต์ใช้เทคนิค FMEA ในการปรับปรุงกระบวนการออกแบบและพัฒนาแม่พิมพ์ขึ้นรูปแก้วที่ใช้บนโต๊ะอาหาร การศึกษากระบวนการฝึกอบรมของกลุ่มอาชีพหัตกรรมผักตบชวา อ. เมือง จ. พะเยา การลดค่าซีโอดีในน้ำเสียจากกระบวนการผลิตผลไม้กระป๋องโดยใช้ยีสต์ การศึกษาปริมาณการใช้น้ำของผักตบชวา จอก และแหน การลดการใช้สารเคมีในการเกษตรที่มีผลต่อสุขภาพ การลดเวลานำในกระบวนการจัดเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์โดยใช้เทคนิคการผลิตแบบลีน การลดผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่องในกระบวนการผลิตเมมเบรนสวิตช์ โดยการประยุกต์ใช้แนวทางซิกส์ ซิกมา ผลของซัลเฟตต่อประสิทธิภาพการทำงานของถังปฏิกรณ์แบบไม่ใช้อากาศ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก