สืบค้นงานวิจัย
ผลของขมิ้นชันซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระต่อเม็ดเลือดแดงของผู้ป่วยเบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอี
Praphaiphit Insain - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ผลของขมิ้นชันซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระต่อเม็ดเลือดแดงของผู้ป่วยเบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอี
ชื่อเรื่อง (EN): The antioxidant effect of curcumin in red blood cells of beta-thalassemia/HbE patients
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Praphaiphit Insain
บทคัดย่อ: เบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอีเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดหนึ่งที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมที่พบได้ บ่อยในประเทศไทย เป็นผลมาจากความผิดปกติในการสร้างสายแอลฟ่าและเบต้าโกลบินไม่เท่ากัน ก่อให้เกิด อนุมูลอิสระซึ่งนำไปสู่ภาวะออกซิเดทีฟสเตรสเพิ่มสูงขึ้นและเป็นเหตุให้เกิดการทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงของคน ไข้ จึงได้ทำการวัดภาวะออกซิเดทีฟสเตรสในเม็ดเลือดแดงของผู้ป่วยเบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอีก่อนและ หลังได้รับประทานขมิ้นชันแคปซูลซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในผู้ป่วย ผู้ป่วยเบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอีจำนวน 24 คน ได้รับขมิ้นชันเป็นประจำวันละ 500 มิลลิกรัม เป็น เวลา 6 เดือน และหยุดทานยานี้อีก 3 เดือน และมีคนไข้อีกกลุ่มจำนวน 8 คนได้รับยาหลอกเป็นเวลา 2 เดือน จากผลการทดลอง พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับขมิ้นชันเป็นเวลา 6 เดือน จะมีปริมาณมาลอนไดอัลดีไฮด์ลดลง 30.73% ในขณะที่แอคติวิตี้ของเอนไซม์ซุปเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเตสและเอนไซม์กลูตาไธโอนเปอร์ออกซิเดสลดลง 15.30% และ 18.91% ตามลำดับ ปริมาณกลูตาไธโอนเพิ่มขึ้น 19.48% แสดงว่าขมิ้นชันเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระ เพราะในโครงสร้างของขมิ้นชันมีกลุ่มฟีโนลิคและเบต้าไดคีโตน และเมื่อหยุดยาเป็นเวลา 3 เดือน ปริมาณออกซิเดทีฟ สเตรสและสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ได้กลับสู่ภาวะเริ่มต้น นอกจากนี้พบว่า ในกลุ่มผู้ป่วย ที่ได้รับยาหลอก ภาวะออกซิเดทีฟสเตรสไม่เปลี่ยนแปลงและมีระดับเท่ากับเมื่อเริ่มต้น จากการสำรวจคุณภาพชีวิตโดยการตอบแบบสอบถามของผู้ป่วยหลังจากได้รับยาขมิ้นชัน พบว่าคุณภาพชีวิต ของผู้ป่วยดีขึ้นกว่าก่อนได้รับขมิ้นชันเล็กน้อย ในขณะที่กลุ่มที่ได้รับยาหลอกมีคุณภาพชีวิตไม่เปลี่ยนแปลง จากการทดลองสรุปได้ว่า การให้สารต้านอนุมูลอิสระขมิ้นชันในผู้ป่วยเบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอี สามารถช่วยลดภาวะออกซิเดทีฟสเตรสในเม็ดเลือดแดงของผู้ป่วยได้ นอกจากนี้อาจสรุปได้ว่าการได้รับขมิ้นชัน เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในระหว่างรักษาดีขึ้น
บทคัดย่อ (EN): s quality of life.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=1826&obj_id=1968
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Curcumin
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: เบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอีเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดหนึ่งที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมที่พบได้ บ่อยในประเทศไทย เป็นผลมาจากความผิดปกติในการสร้างสายแอลฟ่าและเบต้าโกลบินไม่เท่ากัน ก่อให้เกิด อนุมูลอิสระซึ่งนำไปสู่ภาวะออกซิเดทีฟสเตรสเพิ่มสูงขึ้นและเป็นเหตุให้เกิดการทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงของคน ไข้ จึงได้ทำการวัดภาวะออกซิเดทีฟสเตรสในเม็ดเลือดแดงของผู้ป่วยเบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอีก่อนและ หลังได้รับประทานขมิ้นชันแคปซูลซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในผู้ป่วย ผู้ป่วยเบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอีจำนวน 24 คน ได้รับขมิ้นชันเป็นประจำวันละ 500 มิลลิกรัม เป็น เวลา 6 เดือน และหยุดทานยานี้อีก 3 เดือน และมีคนไข้อีกกลุ่มจำนวน 8 คนได้รับยาหลอกเป็นเวลา 2 เดือน จากผลการทดลอง พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับขมิ้นชันเป็นเวลา 6 เดือน จะมีปริมาณมาลอนไดอัลดีไฮด์ลดลง 30.73% ในขณะที่แอคติวิตี้ของเอนไซม์ซุปเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเตสและเอนไซม์กลูตาไธโอนเปอร์ออกซิเดสลดลง 15.30% และ 18.91% ตามลำดับ ปริมาณกลูตาไธโอนเพิ่มขึ้น 19.48% แสดงว่าขมิ้นชันเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระ เพราะในโครงสร้างของขมิ้นชันมีกลุ่มฟีโนลิคและเบต้าไดคีโตน และเมื่อหยุดยาเป็นเวลา 3 เดือน ปริมาณออกซิเดทีฟ สเตรสและสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ได้กลับสู่ภาวะเริ่มต้น นอกจากนี้พบว่า ในกลุ่มผู้ป่วย ที่ได้รับยาหลอก ภาวะออกซิเดทีฟสเตรสไม่เปลี่ยนแปลงและมีระดับเท่ากับเมื่อเริ่มต้น จากการสำรวจคุณภาพชีวิตโดยการตอบแบบสอบถามของผู้ป่วยหลังจากได้รับยาขมิ้นชัน พบว่าคุณภาพชีวิต ของผู้ป่วยดีขึ้นกว่าก่อนได้รับขมิ้นชันเล็กน้อย ในขณะที่กลุ่มที่ได้รับยาหลอกมีคุณภาพชีวิตไม่เปลี่ยนแปลง จากการทดลองสรุปได้ว่า การให้สารต้านอนุมูลอิสระขมิ้นชันในผู้ป่วยเบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอี สามารถช่วยลดภาวะออกซิเดทีฟสเตรสในเม็ดเลือดแดงของผู้ป่วยได้ นอกจากนี้อาจสรุปได้ว่าการได้รับขมิ้นชัน เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในระหว่างรักษาดีขึ้น
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

Praphaiphit Insain. "ผลของขมิ้นชันซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระต่อเม็ดเลือดแดงของผู้ป่วยเบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอีThe antioxidant effect of curcumin in red blood cells of beta-thalassemia/HbE patients". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2547

Praphaiphit Insain. "ผลของขมิ้นชันซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระต่อเม็ดเลือดแดงของผู้ป่วยเบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอีThe antioxidant effect of curcumin in red blood cells of beta-thalassemia/HbE patients". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2547. Print.



TARR Wordcloud:
ผลของขมิ้นชันซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระต่อเม็ดเลือดแดงของผู้ป่วยเบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอี
Praphaiphit Insain
มหาวิทยาลัยมหิดล
2547
การศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมของยีน ZHX2 ในผู้ป่วยเบต้าธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอี ผลของขมิ้นชันต่อระดับมาลอนไดอัลดีฮัยน์ในเลือดของผู้ป่วยบีต้าธาลัสซีเมีย การวิเคราะห์การแสดงออกของโปรตีนในเม็ดเลือดปูทะเลที่ติดโรคไวรัสตัวแดงดวงขาว การศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากผักเชียงดาต่อการป้องกัน การแตกตัวของเม็ดเลือดแดงและการเสียหายของดี การศึกษาลักษณะระดับโมเลกุลของยีน AML1 ในโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวสายมัยอีลอยด์ชนิดเฉียบพลัน ผลเชิงเปรียบเทียบของสารสกัดจากสมุนไพรต่อการป้องกันเซลล์เม็ดเลือดแดงแตกจากภาวะออกซิเดทีฟสเตรส ความหลากหลายทางพันธุกรรมของ cyclin D1 และการแสดงออกทางคลิกนิกของผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดลิมโฟบลาสต์ การวิเคราะห์การแสดงออกของโปรตีนในเม็ดเลือดแดงของกุ้งขาวซึ่งติดเชื้อไวรัสทอร่าซอนโดรมในเชิงโปรติโอม ความคงตัวของสารต้านอนุมูลอิสระของน้ำลูกยอในระหว่างกระบวนการแปรรูปและการเก็บรักษา การศึกษา pharmacodynamic ของขมิ้นชันในอาสาสมัครปกติ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair