สืบค้นงานวิจัย
พฤติกรรมการใช้สารเคมีในการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ต่อสุขภาพเด็ก
Olarn Chankham - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: พฤติกรรมการใช้สารเคมีในการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ต่อสุขภาพเด็ก
ชื่อเรื่อง (EN): Behavior of chemical application in orchid farms on child health
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Olarn Chankham
บทคัดย่อ: เก็บข้อมูล จากเด็กที่อาศัยอยู่กับครัวเรือนที่ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ และครัวเรือนที่ไม่ได้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ อายุ 0-9 ปี เขตหนอง แขม กรุงเทพมหานคร จำนวน 81 ราย และเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ จากผู้ดูแลเด็ก จำนวน 15 คน ของครัวเรือนที่ ปลูกเลี้ยง และไม่ได้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติร้อยละ การทดสอบไค-สแควร์ และการ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ผลการศึกษาพบว่าครัวเรือนที่ไม่มีเด็กอยู่ด้วยให้ความสำคัญเรื่องการจัดเก็บสารเคมีในการปลูกเลี้ยง กล้วยไม้มากกว่าครัวเรือนที่มีเด็กอยู่ด้วยเล็กน้อย แต่วิธีการที่ใช้มีความเสี่ยงต่อการที่สมาชิกในครัวเรือนจะได้รับ พิษของสารเคมีที่จัดเก็บไว้ในบ้าน ครัวเรือนที่มีเด็กอยู่ด้วยให้ความสำคัญ และระมัดระวังเรื่องการผสมสารเคมี และการกำจัดภาชนะบรรจุสารเคมีมากกว่าครัวเรือนที่ไม่มีเด็ก ส่วนการฉีดพ่นโดยการเดินเหนือลมทุกครั้งของ ครัวเรือนที่มีเด็กอยู่ด้วยและครัวเรือนที่ไม่มีเด็กอยู่ด้วยมีพฤติกรรมการใช้สารเคมีไม่แตกต่างกัน ความเสี่ยงสุขภาพ ของเด็กที่อาศัยอยู่กับครัวเรือนที่ประกอบอาชีพอื่นพบ 9 คนเป็นภูมิแพ้ หัวใจ 1 คน และผื่นคัน 1 คน ส่วนเด็กที่ อาศัยอยู่กับครัวเรือนปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ไม่พบอาการป่วย ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งนี้ คือ เสนอว่าครัวเรือนเกษตรผู้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ที่มีเด็กอาศัยอยู่ด้วยควร เพิ่มความตระหนัก และระมัดระวังในเรื่องของพฤติกรรมการใช้สารเคมี ครัวเรือนที่ไม่ได้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ควร หาวิธีป้องกันอันตรายจากการได้รับสารเคมีให้กับเด็ก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่เกษตร ผู้นำกลุ่มชุมชน ครูและนักเรียน ควรจัดให้มีการให้ความรู้เรื่องผลกระทบจากการใช้สารเคมีต่อ สุขภาพของเด็ก
บทคัดย่อ (EN): s houses are located close to orchid plantations. On the contrary, children from orchid farming households are found in a better health. These findings suggest that 1) households with children need to increase awareness and cautions on the behavior of chemical application, 2) non-orchid farm households have to protect their children from chemicals dispersed from the orchid farm households, and 3) all related agencies, particularly agricultural and public health officers, community leaders, students and teachers have to provide knowledge on the impact of chemical use in orchid farms on children health
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3418&obj_id=4937
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Orchid culture
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: เก็บข้อมูล จากเด็กที่อาศัยอยู่กับครัวเรือนที่ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ และครัวเรือนที่ไม่ได้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ อายุ 0-9 ปี เขตหนอง แขม กรุงเทพมหานคร จำนวน 81 ราย และเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ จากผู้ดูแลเด็ก จำนวน 15 คน ของครัวเรือนที่ ปลูกเลี้ยง และไม่ได้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติร้อยละ การทดสอบไค-สแควร์ และการ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ผลการศึกษาพบว่าครัวเรือนที่ไม่มีเด็กอยู่ด้วยให้ความสำคัญเรื่องการจัดเก็บสารเคมีในการปลูกเลี้ยง กล้วยไม้มากกว่าครัวเรือนที่มีเด็กอยู่ด้วยเล็กน้อย แต่วิธีการที่ใช้มีความเสี่ยงต่อการที่สมาชิกในครัวเรือนจะได้รับ พิษของสารเคมีที่จัดเก็บไว้ในบ้าน ครัวเรือนที่มีเด็กอยู่ด้วยให้ความสำคัญ และระมัดระวังเรื่องการผสมสารเคมี และการกำจัดภาชนะบรรจุสารเคมีมากกว่าครัวเรือนที่ไม่มีเด็ก ส่วนการฉีดพ่นโดยการเดินเหนือลมทุกครั้งของ ครัวเรือนที่มีเด็กอยู่ด้วยและครัวเรือนที่ไม่มีเด็กอยู่ด้วยมีพฤติกรรมการใช้สารเคมีไม่แตกต่างกัน ความเสี่ยงสุขภาพ ของเด็กที่อาศัยอยู่กับครัวเรือนที่ประกอบอาชีพอื่นพบ 9 คนเป็นภูมิแพ้ หัวใจ 1 คน และผื่นคัน 1 คน ส่วนเด็กที่ อาศัยอยู่กับครัวเรือนปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ไม่พบอาการป่วย ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งนี้ คือ เสนอว่าครัวเรือนเกษตรผู้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ที่มีเด็กอาศัยอยู่ด้วยควร เพิ่มความตระหนัก และระมัดระวังในเรื่องของพฤติกรรมการใช้สารเคมี ครัวเรือนที่ไม่ได้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ควร หาวิธีป้องกันอันตรายจากการได้รับสารเคมีให้กับเด็ก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่เกษตร ผู้นำกลุ่มชุมชน ครูและนักเรียน ควรจัดให้มีการให้ความรู้เรื่องผลกระทบจากการใช้สารเคมีต่อ สุขภาพของเด็ก
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

Olarn Chankham. "พฤติกรรมการใช้สารเคมีในการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ต่อสุขภาพเด็กBehavior of chemical application in orchid farms on child health". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2549

Olarn Chankham. "พฤติกรรมการใช้สารเคมีในการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ต่อสุขภาพเด็กBehavior of chemical application in orchid farms on child health". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2549. Print.



TARR Wordcloud:
พฤติกรรมการใช้สารเคมีในการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ต่อสุขภาพเด็ก
Olarn Chankham
มหาวิทยาลัยมหิดล
2549
การลดการใช้สารเคมีในการเกษตรที่มีผลต่อสุขภาพ พฤติกรรมการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกรผู้ปลูกผัก อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการเลี้ยงกุ้งกุลาดำด้วยวิธีการใช้สารเคมีและไม่ใช้สารเคมีในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ (ระยะโพสลาวา-ตัวเต็มวัย) ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการใช้และการป้องกันอันตรายจากการใช้สารกำจัดศัตรูพืชกับภาวะสุขภาพของผู้รับจ้างฉีดพ่นสารกำจัดศัตรูพืชในนาข้าว จังหวัดชัยนาท การประยุกต์ใช้จุลทรีย์ที่มีประสิทธิภาพในการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้สกุลหวาย กรณีศึกษาอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม การใช้สารเคมีเหนี่ยวนำการลงเกาะของลูกหอยหวาน การวิเคราะห์การใช้สารเคมีในกระบวนการผลิตลำไยโดยเทคนิคการประมวลผลภาพ พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของครัวเรือนเกษตรกร ในเขตอำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม พฤติกรรมการซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับสุนัขของผู้เลี้ยงสุนัขในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ผลของระดับแคลเซียมต่อการเจริญเติบโตของมะเขือเทศที่ปลูกในวัสดุปลูกไม่ใช้ดิน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair