สืบค้นงานวิจัย
การประยุกต์ใช้เทคนิคการผสมในน้ำมันในการเตรียมยาที่ไม่ละลายน้ำในรูปของแข็งเม็ดเล็ก
Santi Chunthatul - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การประยุกต์ใช้เทคนิคการผสมในน้ำมันในการเตรียมยาที่ไม่ละลายน้ำในรูปของแข็งเม็ดเล็ก
ชื่อเรื่อง (EN): Application of oil incorporating technique in formulation of hydrophobic drug microencapsulated beads
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Santi Chunthatul
บทคัดย่อ: การเตรียมของแข็งเม็ดเล็ก(บีด)ด้วยวิธีอิโอโนโทรปิคเจลเลชั่นระหว่างโซเดียมอัลจิเนท และแคลเซียมคลอไรด์เป็นตำ รับที่รู้จักกันเป็นอย่างดี การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ในการใช้ เทคนิคการผสมในนํ้ามันโดยนำ ตัวยามาละลายในนํ้ามันซึ่งเป็นวัตภาคภายในของอิมัลชั่น ก่อนผสมต่อด้วยสารละลายโซเดียมอัลจิเนทและนำ ไปไขว้เชื่อมด้วยสารละลายแคลเซียมคลอ ไรด์ได้เป็นแคลเซียมอัลจิเนทเจลบีด เบ็นโซเคนเป็นตัวยาต้นแบบที่ชอบละลายในไขมันซึ่ง ใช้ในการวิจัยนี้ ศึกษาผลของปัจจัยที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนการเตรียมอิมัลชั่น (เช่น ความเข้มข้น ของโซเดียมอัลจิเนท ความเข้มข้นของโพลีไวนิลแอลกอฮอล์ และอัตราส่วนของนํ้ามัน) และ ขั้นตอนการเตรียมเจลของแข็งเม็ดเล็ก(บีด) (เช่น ความเข้มข้นของแคลเซียมคลอไรด์ เวลาใน การไขว้เชื่อม และอุณหภูมิในการไขว้เชื่อมของสารละลายแคลเซียมคลอไรด์) ความเข้มข้น ของโซเดียมอัลจิเนทและอัตราส่วนของนํ้ามันมีอิทธิผลต่อคุณสมบัติต่างๆของอิมัลชั่นเนื่อง จากทั้งสองปัจจัยนี้มีผลต่อความหนืดของอิมัลชั่น คุณลักษณะบีดที่เตรียมได้ขึ้นกับทุกๆปัจจัย ที่เกี่ยวข้องทั้งสองขั้นตอน ตัวยาปลดปล่อยออกจากบีดทันทีเนื่องจากขีดการละลายของเบ็นโซ เคนขึ้นกับความเป็นกรด-ด่าง ผนังที่บางและรูพรุนเป็นจำ นวนมากของแคลเซียมอัลจิเนทเจล โพลิเมอร์ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นถึงความไม่คงตัวของของแข็งเม็ดเล็ก(บีด)หลังจากเพิ่ม เวลาและอุณหภูมิในการเก็บรักษา แต่การเตรียมตำ รับโดยใช้ความเข้มข้นของโซเดียมอัลจิเนท ความเข้มข้นของโพลีไวนิลแอลกอฮอล์ และอัตราส่วนของนํ้ามันระดับสูง และใช้เวลาในการ ไขว้เชื่อม อุณหภูมิในการไขว้เชื่อมของสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ และความเข้มข้นของ แคลเซียมคลอไรด์ระดับตํ่าพบว่ามีความเป็นไปได้ในการเพิ่มความคงตัวของของแข็งเม็ดเล็ก (บีด)
บทคัดย่อ (EN): Microencapsulated bead formulation prepared by using an ionotropic gelation method between sodium alginate and calcium chloride is a common technique. The technique proposed by this thesis, the oil incorporating technique, was to dissolve the drug in an oil internal phase of the emulsion prior to mixing with sodium alginate and subsequently cross-linking with calcium chloride solution to form calcium alginate gel beads. Benzocaine was selected to be a model lipophilic drug. The effect of involving factors in the emulsion preparation process (i.e., sodium alginate concentration, polyvinyl alcohol concentration, and oil ratio) and gel bead formation process (i.e., calcium chloride concentration, cross-linking time and cross-linking temperature of calcium chloride solution) on the properties of the formulation were investigated. The properties of emulsion were mainly influenced by sodium alginate concentration and oil ratio due to an effect on the emulsion viscosity. The characteristics of the microencapsulated beads were dependent on all factors from both processes. The release of the drug from the bead was an immediate release, which could be due to pH-dependent solubility of benzocaine, thin wall, and numerous pores of calcium alginate gel polymer. The bead instability occurred according to an increase in storage time and temperature. However, the bead stability may be improved by applying a high level of sodium alginate concentration, polyvinyl alcohol concentration, and oil ratio in the formulation and a low cross-linking time, cross-linking temperature, and level of calcium chloride concentration
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=2095&obj_id=1496
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Beads
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การเตรียมของแข็งเม็ดเล็ก(บีด)ด้วยวิธีอิโอโนโทรปิคเจลเลชั่นระหว่างโซเดียมอัลจิเนท และแคลเซียมคลอไรด์เป็นตำ รับที่รู้จักกันเป็นอย่างดี การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ในการใช้ เทคนิคการผสมในนํ้ามันโดยนำ ตัวยามาละลายในนํ้ามันซึ่งเป็นวัตภาคภายในของอิมัลชั่น ก่อนผสมต่อด้วยสารละลายโซเดียมอัลจิเนทและนำ ไปไขว้เชื่อมด้วยสารละลายแคลเซียมคลอ ไรด์ได้เป็นแคลเซียมอัลจิเนทเจลบีด เบ็นโซเคนเป็นตัวยาต้นแบบที่ชอบละลายในไขมันซึ่ง ใช้ในการวิจัยนี้ ศึกษาผลของปัจจัยที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนการเตรียมอิมัลชั่น (เช่น ความเข้มข้น ของโซเดียมอัลจิเนท ความเข้มข้นของโพลีไวนิลแอลกอฮอล์ และอัตราส่วนของนํ้ามัน) และ ขั้นตอนการเตรียมเจลของแข็งเม็ดเล็ก(บีด) (เช่น ความเข้มข้นของแคลเซียมคลอไรด์ เวลาใน การไขว้เชื่อม และอุณหภูมิในการไขว้เชื่อมของสารละลายแคลเซียมคลอไรด์) ความเข้มข้น ของโซเดียมอัลจิเนทและอัตราส่วนของนํ้ามันมีอิทธิผลต่อคุณสมบัติต่างๆของอิมัลชั่นเนื่อง จากทั้งสองปัจจัยนี้มีผลต่อความหนืดของอิมัลชั่น คุณลักษณะบีดที่เตรียมได้ขึ้นกับทุกๆปัจจัย ที่เกี่ยวข้องทั้งสองขั้นตอน ตัวยาปลดปล่อยออกจากบีดทันทีเนื่องจากขีดการละลายของเบ็นโซ เคนขึ้นกับความเป็นกรด-ด่าง ผนังที่บางและรูพรุนเป็นจำ นวนมากของแคลเซียมอัลจิเนทเจล โพลิเมอร์ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นถึงความไม่คงตัวของของแข็งเม็ดเล็ก(บีด)หลังจากเพิ่ม เวลาและอุณหภูมิในการเก็บรักษา แต่การเตรียมตำ รับโดยใช้ความเข้มข้นของโซเดียมอัลจิเนท ความเข้มข้นของโพลีไวนิลแอลกอฮอล์ และอัตราส่วนของนํ้ามันระดับสูง และใช้เวลาในการ ไขว้เชื่อม อุณหภูมิในการไขว้เชื่อมของสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ และความเข้มข้นของ แคลเซียมคลอไรด์ระดับตํ่าพบว่ามีความเป็นไปได้ในการเพิ่มความคงตัวของของแข็งเม็ดเล็ก (บีด)
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การประยุกต์ใช้เทคนิคการผสมในน้ำมันในการเตรียมยาที่ไม่ละลายน้ำในรูปของแข็งเม็ดเล็ก
Santi Chunthatul
มหาวิทยาลัยมหิดล
2547
การเตรียมและการประเมินฟิล์มอัลจิเนต อิมัลชั่นโดยใช้เทคนิคการผสมในน้ำมันเพื่อใช้ในระบบนำส่งยา การประยุกต์ใช้เทคนิค FMEA ในการปรับปรุงกระบวนการออกแบบและพัฒนาแม่พิมพ์ขึ้นรูปแก้วที่ใช้บนโต๊ะอาหาร การวิเคราะห์สมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กที่ใช้น้ำมันผสมดีเซลและมะเยาหินในรูปอิมัลชันเป็นเชื้อเพลิง การประยุกต์ใช้เบต้า-กลูแคนที่เตรียมจากยีสต์ใช้แล้วในอุตสาหกรรมการผลิตเบียร์เพื่อเป็นสารทดแทนไขมันในมายองเนส การผลิตน้ำผลไม้ผสมเข้มข้นโดยใช้เทคนิคการทำเข้มข้นแบบแช่เยือกแข็ง การทำนายสมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กที่ใช้น้ำมันผสมของน้ำมันพืช/น้ำ/ดีเซลเป็นเชื้อเพลิงด้วยแบบจำลองการถ่ายเทมวลอย่างง่าย การเตรียมและประเมินแลคโทสสำหรับใช้ในตำรับยาสูดพ่นชนิดผง ทางเลือกในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการบำบัดน้ำเสียจากสถานีบริการน้ำมัน การพัฒนาโมดูลซ่อมบำรุงรักษาตามสภาพด้วยเทคนิค FMECA และการประยุกต์ใช้ในรถไฟฟ้า การผลิตก๊าซชีวภาพจากเศษผักและผลไม้ผสมกับมูลโคโดยการใช้ถังย่อยสลายแบบไม่ใช้อากาศประเภทปริมาณของแข็งต่ำ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก