สืบค้นงานวิจัย
สำรวจการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมของสวนยางขนาดเล็กในภาคใต้
วันเพ็ญ พฤกษ์วิวัฒน์ - การยางแห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง: สำรวจการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมของสวนยางขนาดเล็กในภาคใต้
ชื่อเรื่อง (EN): Survey of the Selection on suitable Technology in Southern Rubber plantation
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วันเพ็ญ พฤกษ์วิวัฒน์
บทคัดย่อ: สำรวจการใช้เทคโนโลยีในสวนยางขนาดเล็กในพื้นที่ปลูกยาง 9 จังหวัดของภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และนราธิวาส จากเจ้าของสวน จำนวน 2,869 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุอยู่ในช่วง 41-60 ปี การศึกษาระดับประถมศึกษา จำนวนสมาชิกในครอบครัวระหว่าง 3-5 คน รายได้รวมต่อเดือน ตั้งแต่ 3,000-6,000 บาท เป็นผู้ครอบครองสวนยาง ซึ่งส่วนใหญ่ผ่านการขอสงเคราะห์ ต้นยางอยู่ในช่วงให้ผลผลิตในเปลือกเดิม มีอายุตั้งแต่ 7-15 ปี เนื้อที่สวนไม่เกิน 20 ไร่ ลักษณะของเนื้อดินส่วนใหญ่เป็นดินร่วนเหนียว และดินร่วนทราย ในภาพรวมพบว่า เทคโนโลยีที่เกษตรกรปฏิบัติตามแนวทางคำแนะนำได้แก่ การปลูกยาง การใช้พันธุ์ยาง การกำจัดวัชพืชในสวนยาง การผลิตยางแผ่นดิบ และการจำหน่ายผลผลิต ส่วนเทคโนโลยีที่เกษตรกรไม่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำในบางประเด็น ได้แก่ การปลูกพืชร่วมยางเพื่อเสริมรายได้ มีการปลูกร้อยละ 9.7 โดยปลูกไม้ผลและผักพื้นบ้านเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ร้อยละ 85.7 ไม่มีการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างระหว่างแถวยางหลังเปิดกรีด การผสมปุ๋ยเคมีใช้เองเพื่อลดต้นทุนการผลิต มีการใช้เพียงร้อยละ 8.9 โดยเกษตรกรนิยมใช้ปุ๋ยเคมีเม็ดสำเร็จรูปถึงร้อยละ 91.1 ส่วนปุ๋ยอินทรีย์มีการใช้ร้อยละ 15.4 การป้องกันกำจัดโรค เมื่อประสบปัญหาการระบาดของโรคที่สำคัญเกษตรกรร้อยละ 61.0 จะปล่อยตามธรรมชาติ ที่เหลือมีการใช้สารเคมีและการตัดแต่ง การใช้ระบบกรีด เกษตรกรใช้ระบบกรีดหนึ่งในสามของต้น 3 วันเว้น 1 วัน มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 52.3 รองลงมาระบบกรีดหนึ่งในสามของต้นทุกวัน ร้อยละ 27.0 สำหรับระบบกรีดตามคำแนะนำ คือ กรีดครึ่งต้น วันเว้นวัน มีการใช้เพียงร้อยละ 3.5 เท่านั้น ช่วงฤดูแล้งยางผลัดใบ เกษตรกรส่วนใหญ่จะหยุดกรีด 1-2 เดือน ประเด็นปัญหาที่เกษตรไม่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำทางวิชาการนี้ เกิดจากมีข้อจำกัดต่างๆ กัน ได้แก่ การขาดแคลนแรงงานในครอบครัว การขาดการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และความจำเป็นทางเศรษฐกิจของเกษตรกรที่ต้องการมีรายได้ทุกวัน นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยีของเจ้าของสวน ซึ่งประกอบด้วย ความสนใจและการยอมรับของเจ้าของสวน สภาพเศรษฐกิจและชุมชนของเจ้าของสวน ศักยภาพของหน่วยถ่ายทอดเทคโนโลยี การมีส่วนร่วมของเจ้าของสวน และการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของเจ้าของสวน โดยเรียงลำดับปัจจัยที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย เทคโนโลยีที่เกษตรกรให้ความสนใจสูงสุด คือ พันธุ์ยาง ซึ่งมีการปลูกพันธุ์ RRIM 600 มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 75.7 รองลงมาเป็นพันธุ์ BPM 24 , PB 235 และ สงขลา 36 คิดเป็นร้อยละ 14.3 , 2.2 และ 1.5 ตามลำดับ โดยการเลือกพันธุ์ยางเกษตรกรพิจารณาจากผลผลิตน้ำยางเป็นหลักและปริมาณเนื้อไม้เป็นรอง คิดเป็นร้อยละ 54.4 กลุ่มที่พิจารณาเฉพาะผลผลิตเท่านั้น มีร้อยละ 43.2 และส่วนที่พิจารณาปริมาณไม้ยางเป็นหลัก มีเพียงร้อยละ 2.4
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: การยางแห่งประเทศไทย
คำสำคัญ: ยางพารา
คำสำคัญ (EN): Rubber plantation
เจ้าของลิขสิทธิ์: การยางแห่งประเทศไทย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
สำรวจการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมของสวนยางขนาดเล็กในภาคใต้
การยางแห่งประเทศไทย
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
การพัฒนาระบบกรีดที่เหมาะสมกับเจ้าของสวนยางขนาดเล็ก ทดสอบการกรีดยางสำหรับสวนยางขนาดเล็ก การตลาดยางของชาวสวนยางรายย่อยในเขตภาคใต้ตอนบน ต้นทุนการผลิตยางของสวนยางขนาดเล็ก สำรวจการเลี้ยงสัตว์ในสวนยางภาคใต้ ศึกษาการยอมรับเทคโนโลยีการผลิตยางพารา ปาล์มน้ำมัน และผักอนามัยของเกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง สภาพการใช้สื่อของเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลในภาคใต้ การพัฒนาการผลิตข้าวไร่ในพื้นที่สวนยางพาราและปาล์มน้ำมันภาคใต้ฝั่งตะวันตก ศักยภาพการผลิตยางของสวนยางก่อนโค่นในภาคตะวันออก ศักยภาพการผลิตยางของสวนยางก่อนเปิดกรีดในภาคตะวันออก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก