สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาการผลิตเอนไซม์อะไมเลสเซลลูเลส โปรติเอสและไซแลนเนสจากแบซิลลัสบนอาหารแข็ง
จุฑามาส สุวรรณประทีป - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาการผลิตเอนไซม์อะไมเลสเซลลูเลส โปรติเอสและไซแลนเนสจากแบซิลลัสบนอาหารแข็ง
ชื่อเรื่อง (EN): Development of amylase, cellulase, protease, and xylanase productions on solid state fermentation by Bacillus spp.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จุฑามาส สุวรรณประทีป
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Juthamas Suwanprateep
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้ศึกษาพัฒนาการหมักบนอาหารแข็งของ B. subtilis 5 สายพันธุ์ : KMP-BCD-1, KMPBIC-1, KMP-PCI-2, KMP-BCP-1, KMP-NOO1 และ B. licheniformis 2 สายพันธุ์ KMP-BB002 และ KMP-N5001 ของบริษัท เค.เอ็ม.พี ไบโอเทค จำกัด ที่ประกอบด้วยวัสดุทางการเกษตร เช่น รำข้าวสาลี กากถั่วเหลืองเป็นต้นและศึกษาการผลิตเอนไซม์อะไมเลส เซลลูเลส โปรติเอส และไซแลนเนสบนอาหารแข็งสูตรพัฒนา เพื่อสามารถนำไปใช้เป็นหัวเชื้อต้นทางในกระบวนการผลิตของบริษัทต่อไป ศึกษาการผลิตเอนไซม์บนอาหารสูตร PS-1,PS-2 และ XS-1 ที่อัตราส่วนอาหารแข็งต่อน้ำเป็น 1:0.5, 1:1, 1:1.5 และ 1:2 (w/v) ใน B. subtilis KMP-BCD-1 พบว่าอาหาร PS-2 ซึ่งประกอบด้วยกากถั่วเหลือง 300 กรัม แป้งสาลี 28.4 กรัม แป้งข้าวเจ้า 28.4 กรัม ปลาป่น 24 กรัม และรำข้าวสาลี 28.4 กรัม ที่อัตราส่วนอาหารแข็งต่อน้ำเป็น 1:2 (w/v) เป็นสูตรอาหารที่เหมาะสม พบการผลิตเอนไซม์อะ-ไมเลส เซลลูเลส โปรติเอส และไซแลนเนส สูงสุดที่ 56,881, 2,359 และ 56,393 U/gds ตามลำดับดังนั้นจึงเลือกอาหารวิจัยต่อไป ในการคัดเลือกสายพันธุ์ที่มีศักยภาพในการผลิตเอนไซร์บนอาหาร PS-2 (จำนวน 20 กรัม) ที่สัดส่วนความชื้นของอาหารแข็งต่อน้ำเป็น 1: 2 (w/v) ในแบซิลลัสทั้ง 7 สายพันธุ์ สรุปได้ว่า B.subtilis KMP-BCI-1เป็นสายพันธุ์ที่สามารถผลิตอะไมเลส ได้สูงสุดได้สุด คือ 71,402 และ 21,399 U/gds ตามลำดับในขณะที่ B. subtilis KMP-BCI-2 เป็นสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจที่สามารถผลิตเอนไซม์ทั้งสี่ชนิดได้สูงเป็นลำดับที่สองนอกจากนี้พบการผลิตอะไมเลส เซลลูเลส โปรติเอส และไซแลนเนส ได้สูงใน B.licheniformis-BB002 เป็นจำนวน 67,295, 17,480, 3,303 และ 75,643 U/gds ตามลำดับ เมื่อศึกษาการผลิตบนถาดสแตนเลสขนาด 24x34x4.8 ลบ.ซม. ปริมาตรอาหาร 200, 300, 400 และ 500 กรัม ที่ปริมาณหัวเชื้อร้อยละ 4 (v/w) ความชื้นอาหารแข็งต่อน้ำที่ 1:2 ใน B. subtilis KMP-BCI -1 และแม้จะพบกิจกรรมเอนไซร์อะไมเลส เซลลูเลส โปรติเอส และไซแลนเนสสูงสุด บนอาหาร 200 กรัมที่ ชม.ที่ 72 คือ 15,432, 7,770, 1,003 และ 39,210 U/gds ตามลำดับอย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาปริมาณเอนไซม์ที่อาหาร 300, 400 และ 500 กรัม ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นจึงเลือกการผลิตที่ปริมาตรอาหาร 500 กรัม ซึ่งพบกิจรรมอะไมเลส โปรติเอส และ ไซแลนเนสสูงสุดคือ 10,668, 5,659 และ 27,386 U/gds ตามลำดับซึ่งเป็นปริมาณที่เมาะสม และคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ในการเลือกผลิตระดับอุตสาหรรมต่อไป และเมื่อศึกษาปริมาณหัวเชื้อร้อยละ 2, 4 และ 10 (v/w) พบว่าปริมาณหัวเชื้อที่เหมาะสมคือร้อยละ 4(v/w) การเลี้ยงในถาดสแตนเลสที่ปิดด้วยพลาสติกพบว่า การเจาะรูพลาสติก เพื่อให้อากาศถ่ายเท จะช่วยทำให้การผลิตเอนไซม์ทั้งสี่ชนิดเพิ่มขึ้น ไม่มีความจำเป็นต้องคลุกกวนทันที่หลังจากปลูกเชื้อลงในอาหารแข็ง แต่ควรคลุกหลังการเลี้งเชื้อ 24 ซม. โดยวิธีนี้จะทำให้ได้การผลิตเอนไซม์อะไมเลส เซลลูเลส โปรติเอส และ ไซแลนเนส สูงถึง 45,296, 18,322 และ 62,717 U/gds ในการเลี้ยงบนอาหาร PS-2 โดยB. subtilis KMP-BCD-1 สำหรับการประมาณค่ากิจกรรมเอนไซม์ที่เหลือในขั้นตอนการผลิตหัวเชื้อต้นทาง (Primary mix) ซึ่งต้องผ่านการอบแห้ง และเหลือกิจกรรมเอนไซม์ประมาณร้อยละ 45 จากกิจกรรมเดิม พบว่า สูตร อาหารประกอบด้วย B.subtilis KMP-BCI -1 BCI-1, BCI-1, BCI-2 และ B.licheniformis KMP-BB002 บนอาหาร PS-2 ที่ความชื้น 1:2 ได้ปริมาณเอนไซม์อะไมเลส เซลลูเลสและไซแลนเนสในผลิตภัณฑ์ 1.8x10 the power of 7, 7.2x10 ยกกำลัง 6 และ2.4x10 ยกกำลัง 7 U/kg ตามลำดับ ซึ่งเป็นตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของโรงงาน ยกเว้นเอนไซม์โปรติเอส ที่ตำกว่ามาตรฐาน โดยเกณฑ์มาตรฐานอะไมเลสเซลลูเลส โปรติเอส และไซแลนเนสในผลิตภัณฑ์ของโรงงานคือ 10.0 x10 ยกกำลัง 6, 5.0x10 ยกกำลัง 6, 5.0x10 ยกกำลัง 6และ 10.0x10 ยกกำลัง 6 ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): amylase, cellulase, protease and xylanase, inspite of not the highest one. Furthermore, high amylase, cellulase, protease and xylanase activity were produced by B. licheniformis KMP-BB002 at 67,295 U/gds, 17,480 U/gds, 3,303 U/gds and 75,643 U/gds, respectively. The large scale production on stainless tray, size 24x34x4.8 cm3, at the medium size of 200, 300, 400 and 500 g, inoculums size 4% (v/w) on PS-2 medium with moisture ratio of 1:2 (w/v) by B. subtilis KMP-BCI-1 revealed that the maximum amylase, cellulase, protease and xylanase activities were found on 200 g medium size at 15,432 U/gds, 7,770 U/gds, 1,003 U/gds and 39,210 U/gds, respectively at 72 hours. However, the activities of enzymes on medium size at 300, 400 and 500 g were comparable. Therefore, 500 g medium size was suggested on highly feasible production medium in industry, which resulted in amylase, cellulase, protease and xylanase at 10,668, 5.604, 659 and 27,386 U/gds, respectively. The inoculums sizes at 2%, 4% and 10% (v/w) were investigated and found that the 4% (v/w) inoculum size was optimal for large scale production. Cultivation on stainless tray covered with plastic wrap together with perforated holes for aeration increased enzyme activity. The mixing after inoculation was not necessary, nonetheless, mixing after 24 hour increased enzyme production. By the proposed cultivating method, the amylase, cellulase, protease and xylanase production obtained were 45,296 U/gds, 18,322 U/gds, 1,798 U/gds and 62,717 U/gds, respectively, on PS-2 medium at moisture ratio of 1:2 (w/v) by B. subtilis KMP-BCD-1 . For estimating enzyme activity for primary mix product, 45% remaining activity after drying process was presumed. It was concluded that averaged enzyme activity of B. subtilis KMP-BCD-1, BC1-1 , BC[-2 and B. licheniformis KMP-BB002 on PS-2 medium at moisture ratio of 1:2 (w/v) for amylase, cellu lase, protease and xylanase in primary mix product were 1.8 x 107 U/kg, 7.2 x 106 U/kg, 1.0 x 106 U/kg and 2.4 x 1Q7 U/kg, respectively, which still achieved the standard enzyme in finished product, except protease providing that standard of amylase, cellulase, protease and xylanase in finished products of the factory are 10.0x10 6 U/kg, 5.0x10 6 U/kg, 5.0x10 6 U/kg and 10.0x10 6 U/kg, respectively.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=54&RecId=13112&obj_id=37312
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
คำสำคัญ (EN): Amylase
เจ้าของลิขสิทธิ์: โครงการพัฒนาเครือข่ายระบบห้องสมุดในประเทศไทย
รายละเอียด: งานวิจัยนี้ศึกษาพัฒนาการหมักบนอาหารแข็งของ B. subtilis 5 สายพันธุ์ : KMP-BCD-1, KMPBIC-1, KMP-PCI-2, KMP-BCP-1, KMP-NOO1 และ B. licheniformis 2 สายพันธุ์ KMP-BB002 และ KMP-N5001 ของบริษัท เค.เอ็ม.พี ไบโอเทค จำกัด ที่ประกอบด้วยวัสดุทางการเกษตร เช่น รำข้าวสาลี กากถั่วเหลืองเป็นต้นและศึกษาการผลิตเอนไซม์อะไมเลส เซลลูเลส โปรติเอส และไซแลนเนสบนอาหารแข็งสูตรพัฒนา เพื่อสามารถนำไปใช้เป็นหัวเชื้อต้นทางในกระบวนการผลิตของบริษัทต่อไป ศึกษาการผลิตเอนไซม์บนอาหารสูตร PS-1,PS-2 และ XS-1 ที่อัตราส่วนอาหารแข็งต่อน้ำเป็น 1:0.5, 1:1, 1:1.5 และ 1:2 (w/v) ใน B. subtilis KMP-BCD-1 พบว่าอาหาร PS-2 ซึ่งประกอบด้วยกากถั่วเหลือง 300 กรัม แป้งสาลี 28.4 กรัม แป้งข้าวเจ้า 28.4 กรัม ปลาป่น 24 กรัม และรำข้าวสาลี 28.4 กรัม ที่อัตราส่วนอาหารแข็งต่อน้ำเป็น 1:2 (w/v) เป็นสูตรอาหารที่เหมาะสม พบการผลิตเอนไซม์อะ-ไมเลส เซลลูเลส โปรติเอส และไซแลนเนส สูงสุดที่ 56,881, 2,359 และ 56,393 U/gds ตามลำดับดังนั้นจึงเลือกอาหารวิจัยต่อไป ในการคัดเลือกสายพันธุ์ที่มีศักยภาพในการผลิตเอนไซร์บนอาหาร PS-2 (จำนวน 20 กรัม) ที่สัดส่วนความชื้นของอาหารแข็งต่อน้ำเป็น 1: 2 (w/v) ในแบซิลลัสทั้ง 7 สายพันธุ์ สรุปได้ว่า B.subtilis KMP-BCI-1เป็นสายพันธุ์ที่สามารถผลิตอะไมเลส ได้สูงสุดได้สุด คือ 71,402 และ 21,399 U/gds ตามลำดับในขณะที่ B. subtilis KMP-BCI-2 เป็นสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจที่สามารถผลิตเอนไซม์ทั้งสี่ชนิดได้สูงเป็นลำดับที่สองนอกจากนี้พบการผลิตอะไมเลส เซลลูเลส โปรติเอส และไซแลนเนส ได้สูงใน B.licheniformis-BB002 เป็นจำนวน 67,295, 17,480, 3,303 และ 75,643 U/gds ตามลำดับ เมื่อศึกษาการผลิตบนถาดสแตนเลสขนาด 24x34x4.8 ลบ.ซม. ปริมาตรอาหาร 200, 300, 400 และ 500 กรัม ที่ปริมาณหัวเชื้อร้อยละ 4 (v/w) ความชื้นอาหารแข็งต่อน้ำที่ 1:2 ใน B. subtilis KMP-BCI -1 และแม้จะพบกิจกรรมเอนไซร์อะไมเลส เซลลูเลส โปรติเอส และไซแลนเนสสูงสุด บนอาหาร 200 กรัมที่ ชม.ที่ 72 คือ 15,432, 7,770, 1,003 และ 39,210 U/gds ตามลำดับอย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาปริมาณเอนไซม์ที่อาหาร 300, 400 และ 500 กรัม ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นจึงเลือกการผลิตที่ปริมาตรอาหาร 500 กรัม ซึ่งพบกิจรรมอะไมเลส โปรติเอส และ ไซแลนเนสสูงสุดคือ 10,668, 5,659 และ 27,386 U/gds ตามลำดับซึ่งเป็นปริมาณที่เมาะสม และคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ในการเลือกผลิตระดับอุตสาหรรมต่อไป และเมื่อศึกษาปริมาณหัวเชื้อร้อยละ 2, 4 และ 10 (v/w) พบว่าปริมาณหัวเชื้อที่เหมาะสมคือร้อยละ 4(v/w) การเลี้ยงในถาดสแตนเลสที่ปิดด้วยพลาสติกพบว่า การเจาะรูพลาสติก เพื่อให้อากาศถ่ายเท จะช่วยทำให้การผลิตเอนไซม์ทั้งสี่ชนิดเพิ่มขึ้น ไม่มีความจำเป็นต้องคลุกกวนทันที่หลังจากปลูกเชื้อลงในอาหารแข็ง แต่ควรคลุกหลังการเลี้งเชื้อ 24 ซม. โดยวิธีนี้จะทำให้ได้การผลิตเอนไซม์อะไมเลส เซลลูเลส โปรติเอส และ ไซแลนเนส สูงถึง 45,296, 18,322 และ 62,717 U/gds ในการเลี้ยงบนอาหาร PS-2 โดยB. subtilis KMP-BCD-1 สำหรับการประมาณค่ากิจกรรมเอนไซม์ที่เหลือในขั้นตอนการผลิตหัวเชื้อต้นทาง (Primary mix) ซึ่งต้องผ่านการอบแห้ง และเหลือกิจกรรมเอนไซม์ประมาณร้อยละ 45 จากกิจกรรมเดิม พบว่า สูตร อาหารประกอบด้วย B.subtilis KMP-BCI -1 BCI-1, BCI-1, BCI-2 และ B.licheniformis KMP-BB002 บนอาหาร PS-2 ที่ความชื้น 1:2 ได้ปริมาณเอนไซม์อะไมเลส เซลลูเลสและไซแลนเนสในผลิตภัณฑ์ 1.8x10 the power of 7, 7.2x10 ยกกำลัง 6 และ2.4x10 ยกกำลัง 7 U/kg ตามลำดับ ซึ่งเป็นตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของโรงงาน ยกเว้นเอนไซม์โปรติเอส ที่ตำกว่ามาตรฐาน โดยเกณฑ์มาตรฐานอะไมเลสเซลลูเลส โปรติเอส และไซแลนเนสในผลิตภัณฑ์ของโรงงานคือ 10.0 x10 ยกกำลัง 6, 5.0x10 ยกกำลัง 6, 5.0x10 ยกกำลัง 6และ 10.0x10 ยกกำลัง 6 ตามลำดับ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนาการผลิตเอนไซม์อะไมเลสเซลลูเลส โปรติเอสและไซแลนเนสจากแบซิลลัสบนอาหารแข็ง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2553
การผลิตอัลคาไลน์โปรติเอสโดย Aspergillus oryzae U1521 การหาภาวะที่เหมาะสมในการผลิตนิวทรัลโปรติเอสทนร้อนจาก Bacillus cereus และลักษณะสมบัติของเอนไซม์ที่บริสุทธิ์บางส่วน การผลิตอัลคาไลน์โปรติเอสของ Aspergillus Oryzae U1521 ในการเลี้ยงแบบ 2 ขั้นตอน การทำให้เอนไซม์ไคติเนสบริสุทธิ์และการศึกษาคุณสมบัติของเอนไซม์จากเชื้อ escherichia coli ที่ การแสดงออกและลักษณะสมบัติของตัวยับยั้งเซรีนโปรติเนสจากกุ้งกุลาดำ Penaeus monodon ผลของการทำ Seed Priming กับเมล็ดพันธุ์แตงกวาต่อการงอกและกิจกรรมของเอนไซม์อะไมเลสและเบตากาแลกโตไซเดส กิจกรรมและรูปแปรทางพันธุกรรมของเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสและพาราออกซอนเนสในเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ การผลิตและศึกษาคุณสมบัติของเอนไซม์อะไมเลสจาก alkaliphilic Bacillus firmus K-1 โปรติโอมิกส์ของพิษงู วิธีที่รวดเร็วสำหรับการผลิตซีสเทอีนโปรติเอสและ ไคติเนสบริสุทธ์จากยางมะละกอ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก