สืบค้นงานวิจัย
การประเมินการได้รับสัมผัสสารเคมีแพร่จากวัสดุสัมผัสอาหารในประเทศไทย
รองศาสตราจารย์งามทิพย์ ภู่วโรดม - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การประเมินการได้รับสัมผัสสารเคมีแพร่จากวัสดุสัมผัสอาหารในประเทศไทย
ชื่อเรื่อง (EN): Exposure assessment of chemicals migrating from food contact materials in Thailand
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รองศาสตราจารย์งามทิพย์ ภู่วโรดม
บทคัดย่อ:  สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ได้ให้การสนับสนุนทุนวิจัยโครงการ “การประเมินการได้รับสัมผัสสารเคมีแพร่จากวัสดุสัมผัสอาหารในประเทศไทย” แก่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการได้รับสัมผัสสารบีสฟีนอลเอ (Bisphenol A หรือ BPA) และ Bisphenol A diglycidyl ether (BADGE) จากการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องของผู้บริโภคในประเทศไทย ศึกษาไมเกรชันของ BPA และ BADGE จากแลกเกอร์เคลือบกระป๋อง ศึกษาการบริโภคอาหารกระป๋องและเครื่องดื่มภายในประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานรัฐในการกำกับดูแลความปลอดภัยของกระป๋องบรรจุอาหาร และสร้างความเชื่อมั่นต่อคุณภาพของอาหารและเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องในประเทศซึ่งสาร BPA เป็นสารตั้งต้นในการผลิตแลกเกอร์เคลือบกระป๋องหากมีการปนเปื้อนของสารดังกล่าวในปริมาณที่มากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กทารกและระบบฮอร์โมนในผู้ใหญ่ จึงมีความพยายามในการควบคุมปริมาณ BPA ปนเปื้อนในอาหารในหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป           จากการศึกษาการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องภายในประเทศ พบว่า มีการผลิตกระป๋องสำหรับบรรจุอาหารและเครื่องดื่มประมาณ 14,700 ล้านกระป๋องต่อปี โดยแบ่งเป็น การผลิตอาหารและเครื่องดื่มกระป๋องที่ส่งออก 11,000 ล้านกระป๋องต่อปี และจำหน่ายในประเทศ 3,700 ล้านกระป๋องต่อปี แสดงว่า อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มกระป๋องยังพึ่งพาการส่งออกมากกว่าการบริโภคในประเทศ และจากการวิเคราะห์แลกเกอร์เคลือบกระป๋องโดยใช้เทคนิค Fourier Transform Infared Spectroscopy หรือ FTIR พบว่า กระป๋องทุกชนิด ตรวจพบ BADGE 0.0029-0.8063 mg/kg และ BPA 0.0002-0.1088 mg/kg ซึ่งต่ำกว่าค่าที่สหภาพยุโรปกำหนด คือ ไมเกรชันจำเพาะรวมของ Hydrolysis BADGE ต้องไม่เกิน 9 mg/kg, Chlorohydroxy BADGE ต้องไม่เกิน 1 mg/kg และ ไมเกรชันจำเพาะของ BPA ต้องไม่เกิน 6 mg/kg แสดงให้เห็นว่า กระป๋องเคลือบแลกเกอร์ผลิตในประเทศไทยที่ใช้สำหรับบรรจุอาหารและเครื่องดื่มเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของสหภาพยุโรป แต่อาหารทะเลบางตัวอย่างเช่น แมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ มีความเข้มข้นของ BPA สูงกว่า 0.01 mg/kg อาจทำให้มีปัญหาเมื่อจะส่งออกสินค้าดังกล่าวไปจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากสมาคมผู้ผลิตกระป๋องในประเทศญี่ปุ่นกำหนดค่าไมเกรชันของ BPA ต้องไม่เกิน 0.01 mg/kg ในอาหาร และไม่เกิน 0.005 mg/kg ในเครื่องดื่ม           ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการนี้คือ ได้ข้อมูล องค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบไมเกรชันรวมถึงการประเมินการได้รับสัมผัสสาร BPA และ BADGE จากอาหารและเครื่องดื่มกระป๋อง ซึ่งหน่วยงานของรัฐสามารถนำไปพิจารณาในการกำกับดูแลความปลอดภัยของอาหารและวัสดุสัมผัสอาหาร อีกทั้งใช้ในการวางแผนนโยบายเชิงรุกให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในการกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัยภาชนะบรรจุอาหารสำหรับประเทศสมาชิกในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคต และภาคอุตสาหกรรมได้มีข้อมูลสำหรับการพัฒนาคุณภาพสินค้า การเจรจาการค้าและเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบของประเทศคู่ค้า
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: ไมเกรชัน
คำสำคัญ (EN): migration
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การประเมินการได้รับสัมผัสสารเคมีแพร่จากวัสดุสัมผัสอาหารในประเทศไทย
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
31 สิงหาคม 2557
การประเมินการได้รับสัมผัสสารเคมีแพร่จากวัสดุสัมผัสอาหารในประเทศไทย การประเมินการได้รับสัมผัสสารเคมีแพร่จากวัสดุสัมผัสอาหารในประเทศไทย (ต่อยอดจากปี 2556) พื้นฐานของเนื้อสัมผัสอาหารที่เป็นนวัตกรรมใหม่ อาหารบำรุงสมอง ระบบอิมัลชันในอาหารและความคงตัว แอพพลิเคชั่นสารอาหารไทย ผลงานนำเสนอประชุมวิชาการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครั้งที่ 25 เรื่อง การประเมินการได้รับสัมผัสกรดเบนโซอิก และกรดซอร์บิกในน้ำพริกพร้อมบริโภคต่อคนไทยปีงบประมาณ พ.ศ.2555-2558 การประเมินความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติด้านความปลอดภัยอาหารของผู้สัมผัสอาหารในโรงอาหาร อาหารสำหรับสายตา ความชุกและชนิดของพันธุกรรมเชื้อ Cryptosporidium spp. ที่สัมพันธ์กับความหลากหลายของสัตว์ฟันแทะในประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก