สืบค้นงานวิจัย
สภาพการผลิตปอแก้วของเกษตรกรในจังหวัดอุบลราชธานี
ทิน รั้งกลาง - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: สภาพการผลิตปอแก้วของเกษตรกรในจังหวัดอุบลราชธานี
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ทิน รั้งกลาง
บทคัดย่อ: การศึกษาสภาพการผลิตปอแก้วของเกษตรกรในจังหวัดอุบลราชธานีครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกร สภาพการผลิตปอแก้วและปัญหาการผลิตปอแก้วของเกษตรกรในจังหวัดอุบลราชธานี โดยประชากรที่ทำการศึกษานั้นเป็นเกษตรกรผู้ปลูกปอแก้วปี 2543 ในจังหวัดอุบลราชธานีจำนวน 12,249 คน รวม 13 อำเภอ ซึ่งคัดเลือกตัวอย่างโดยวิธี Multistage Sampling มี 3 ขั้นตอนดังนี้ สุ่มตัวอย่างในจังหวัดโดยเลือกสุ่มเฉพาะอำเภอที่มีพื้นที่ปลูกปอแก้วปี 2543 มากกว่า 500 ไร่ขึ้นไป สุ่มตำบลในอำเภอโดยสุ่มเลือกเฉพาะตำบลที่มีพื้นที่ปลูกปอแก้วมากที่สุด และสุ่มเกษตรกรในแต่ละตำบลรวมจำนวนเกษตรกรที่ถูกสัมภาษณ์ทั้งหมด 200 คน จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์โปรแกรม SPSS for Windows สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าสูงสุด ค่าต่ำสุด ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่าเกษตรกรที่ทำการศึกษาร้อยละ 88.5 เป็นเพศชาย มีอายุเฉลี่ย 44 ปี จบการศึกษาระดับประถมศึกษาตอนต้นร้อยละ 73.5 มีจำนวนสมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ย 5.0 คน แยกเป็นแรงงานในครัวเรือนเฉลี่ย 3.0 คน เกษตรกรมีพื้นที่ทำการเกษตรเฉลี่ยครัวเรือนละ 22.32 ไร่ โดยมีพื้นที่เป็นของตนเองร้อยละ 99.5 เกษตรกรตัวอย่างทุกคนประกอบอาชีพทั้งทำนาและทำไร่ ส่วนอาชีพนอกภาคการเกษตรร้อยละ 67.5 ประกอบอาชีพรับจ้าง โดยมีรายได้จากอาชีพด้านการเกษตรและนอกภาคการเกษตรทั้งหมดเฉลี่ย 35,674.80 บาทต่อปี เป็นสมาชิกลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรร้อยละ 52.0 แหล่งเงินทุนที่ใช้ปลูกปอแก้วร้อยละ 78.5 ใช้ทุนตนเองเกษตรกรร้อยละ 70.5ปลูกปอแก้วเนื่องจากปลูกง่ายและดูแลรักษาง่าย เกษตรกรมีประสบการณ์ ในการปลูกปอแก้วเฉลี่ย 10.99 ปี โยได้รับความรู้คำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรร้อยละ 74.5 มีพื้นที่ปลูกปอแก้วเฉลี่ย 5.79 ไร่ ร้อยละ 81.5 ปลูกสภาพพื้นที่ไร่ โดยใช้ปอแก้วพันธุ์โนนสูง 2 ปลูกร้อยละ 85.0 ซื้อเมล็ดพันธุ์จากพ่อค้ามาปลูกร้อยละ 37.0 อัตราเมล็ดพันธุ์ที่ใช้ปลูกเฉลี่ยไร่ละ 2.10กิโลกรัม ร้อยละ 91.5 เกษตรกรเตรียมดินและปลูกปอแก้วโดยไถด้วยรถแทรกเตอร์หรือรถไถเดินตามแล้วหยอดเมล็ด ปลูกปอแก้วเดือนมีนาคมร้อยละ 42.5 ส่วนวิธีการปลูกปอแก้วเกษตรกรปลูกแบบหยอดเป็นหลุมร้อยละ 72.5 หลังปลูกแล้วไม่มีการถอนแยกร้อยละ 72.5 มีการกำจัดวัชพืชร้อยละ 76.0 และใส่ปุ๋ยเคมีหลังปลูกร้อยละ 92.5 สำหรับโรคปอแก้วระบาดเกษตรกรไม่พบร้อยละ 55.0 ส่วนที่พบโรคปอแก้วร้อยละ 45.0 เกษตรกรไม่ได้กำจัดร้อยละ 38.5 ส่วนที่พบแมลงระบาดร้อยละ 65.0 ส่วนมากเกษตรกรไม่ได้กำจัดร้อยละ 57.0 ช่วงระยะเวลาตัดปอแช่ฟอกเกษตรกรตัดปลายเดือนกันยายนร้อยละ 31.5 ส่วนการตัดสินใจตัดปอเพื่อนำไปแช่ฟอกเนื่องจากปริมาณน้ำในแหล่งแช่ฟอกพอเพียงร้อยละ 73.5 เมื่อตัดปอแล้วก่อนนำไปแช่ฟอกส่วนมากทิ้งต้นปอไว้ไห้ใบร่วงร้อยละ 62.5 และนำปอที่ตัดแล้วไปแช่ฟอกในแหล่งน้ำของตนเองร้อยละ 48.5 โดยใช้ดินทับคิดเป็นร้อยละ 55.5 ใช้เวลาในการแช่ฟอกปอเฉลี่ย 19.18 วัน โดยเกษตรกรล้างเส้นใยปอแก้วเพียงอย่างเดียวไม่ฟาดร้อยละ 66.0 และตากเส้นใยปอฟอกเฉลี่ย 2 วัน ผลผลิตปอฟอกที่ได้เฉลี่ย 235.70 กก./ไร่โดยเกษตรกรนำผลผลิตปอฟอกไปจำหน่ายให้แก่พ่อค้าท้องถิ่นคิดเป็นร้อยละ 51.5 ราคาที่จำหน่ายกิโลกรัมละ 9.79 บาท สาเหตูในการขายผลผลิตปอฟอกเนื่องจากต้องการใช้เงินด่วนร้อยละ 51.5 การใช้ประโยชน์จากแกนปอร้อยละ 70.5 เกษตรกรนำไปใช้ประโยชน์เช่น ทำเอเพลิง ทำรั้วแปลงผัก ทำค้างถั่วและค้างแตง เกษตรกรร้อยละ 56.0 ไม่ได้เก็บต้นปอไว้สำหรับผลิตผลิตเมล็ดพันธุ์ และร้อยละ 71.5 พบว่าเกษตรกรได้รับการติดตามคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ส่วนการขยายพื้นที่ปลูกปอแก้วในปีต่อไปร้อยละ 55.5 จะขยายพื้นที่ปลูกปอแก้วเพิ่มขึ้น สำหรับปัญหาในการผลิตปอแก้วมีปัญหาระดับมากในเรื่องการขาดการรวบรวมผลผลิตจำหน่าย ไม่มีมาตรฐานการรับซื้อ ขาดเงินทุนในการปลูกปอแก้ว พ่อค้ากดราคา เมล็ดพันธุ์ปอมีราคาแพงและราคาผลผลิตต่ำ ข้อเสนอแนะในการศึกษา ควรมีการถ่ยทอดความรู้ด้านการทำแปลงเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ไปสู่เกษตรกรตลอดจนให้คำแนะนำวิธีการผลิตพันธุ์ปอแก้วพันธุ์ดีในไร่ จัดให้มีการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการป้องกันกำจัดโรคโคนเน่าและเพลี้ยจักจั่นของปอแก้วไปสู่เกษตรกร รณรงค์เร่งรัดให้เกษตรกรผู้ปลูกปอแก้วตัดปอแก้วตามคำแนะนำ ส่งเสริมให้เกษตรกรรวมตัวเป็นกลุ่มในรูปกลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตรเพื่อรับความรู้ในการผลิตปอฟอกไปขายยังโรงงานผู้ผลิตกระสอบโดยตรง และสนับสนุนให้มีการซื้อขายผลผลิตตามเกรดคุณภาพโดยมีราคาเป็นสิ่งจูงใจพร้อมทั้งจัดทำมาตรฐานการรับซื้ออย่างชัดเจน การศึกษาครั้งต่อไปควรศึกษาเกี่ยวกับต้นทุนการผลิตปอแก้วในจังหวัดอุบลราชธานี
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: จังหวัดอุบลราชธานี
หมวดหมู่:
  1. TARR::พืช::พืชเส้นใย::ปอแก้ว
  2. 43
หมวดหมู่ AGRIS:
  1. F พืชศาสตร์ และการผลิต (Plant production)
  2. 32
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ทิน รั้งกลาง. "สภาพการผลิตปอแก้วของเกษตรกรในจังหวัดอุบลราชธานี". กรมส่งเสริมการเกษตร. 2545

ทิน รั้งกลาง. "สภาพการผลิตปอแก้วของเกษตรกรในจังหวัดอุบลราชธานี". กรมส่งเสริมการเกษตร. 2545. Print.



TARR Wordcloud:
สภาพการผลิตปอแก้วของเกษตรกรในจังหวัดอุบลราชธานี
ทิน รั้งกลาง
กรมส่งเสริมการเกษตร
2545
สภาพการผลิตพริกของเกษตรกรในจังหวัดอุบลราชธานี สภาพการผลิตข้าวอินทรีย์ของเกษตรกร ในอำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี สภาพการผลิตพริกของเกษตรกรอำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี สภาพการผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 ของเกษตรกร ในอำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี สภาพการผลิตการตลาดมะขามเปรี้ยวของเกษตรกรอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี สภาพการผลิตยางพาราของเกษตรกรในอำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี การผลิตพริกของเกษตรกรอำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี สภาพการผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 ของเกษตรกร ในกิ่งอำเภอท่าศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี สภาพการผลิตข้าวอินทรีย์ของเกษตรกรกิ่งอำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี สภาพการผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 ของเกษตรกร อำเภอดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair