สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii, De Man 1879) ร่วมกับกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei, Boone 1931) ในอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี
นันทิชา สุรัตน์ - กรมประมง
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii, De Man 1879) ร่วมกับกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei, Boone 1931) ในอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี
ชื่อเรื่อง (EN): Production Model and Economics of Giant Freshwater Prawn Monoculture and Polyculture with Pacific White Shrimp in Ratchaburi Province
บทคัดย่อ: การศึกษาการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii, De Man 1879) ร่วมกับกุ้งขาววานาไม (Litopenaeus vannamei, Boone 1931) ในอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี นันทิชา สุรัตน์* กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด กรมประมง บทคัดย่อ การศึกษาการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii, De Man 1879) ร่วมกับกุ้งขาววานาไม(Litopenaeus vannamei, Boone 1931) ในอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ดำเนินการระหว่างเดือนตุลาคม 2557 ถึงธันวาคม 2558 โดยรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามร่วมกับกุ้งขาวในอำเภอบางแพ จำนวน 96 ราย เพื่อศึกษาลักษณะพื้นฐานครัวเรือนของเกษตรกร รูปแบบการเลี้ยงและการจัดการฟาร์ม ต้นทุนและผลตอบแทน ตลอดจนปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ปัญหาในการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามร่วมกับกุ้งขาววานาไม การศึกษาครั้งนี้ พบว่า ขนาดครัวเรือนของกลุ่มตัวอย่างเกษตรกรเป็นครัวเรือนขนาดเล็ก กลุ่มตัวอย่างเกษตรกรเป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 65.63 มีอายุเฉลี่ย 49 ปี จบการศึกษาระดับประถมศึกษา คิดเป็นร้อยละ 47.92 และมีแรงงาน ในครัวเรือน 1–2 คน คิดเป็นร้อยละ 87.50 เลี้ยงกุ้งก้ามกรามร่วมกับกุ้งขาววานาไมเป็นอาชีพหลัก เกษตรกรมีประสบการณ์เฉลี่ย 5-10 ปี ร้อยละ 50 เหตุผลที่เลี้ยงร่วมกันเพื่อเพิ่มรายได้ โดยมีรูปแบบการเลี้ยงร่วมกัน ดังนี้ 1) การซื้อลูกกุ้งก้ามกรามที่มีการอนุบาล จนมีขนาด 4–5 เซนติเมตร มาเลี้ยงร่วมกับกุ้งขาววานาไม 2) ซื้อลูกกุ้งก้ามกรามขนาด 1.50 เซนติเมตร มาอนุบาลในฟาร์มก่อนปล่อยกุ้งขาววานาไมเลี้ยง โดยนิยมปล่อยลูกพันธุ์กุ้งก้ามกราม 2,500–5,000 ตัวต่อไร่ ร้อยละ 51.04 และปล่อยลูกพันธุ์กุ้งขาววานาไม 15,000–25,000 ตัวต่อไร่ ร้อยละ 57.29 ของเกษตรกร ให้อาหารสำเร็จรูปโปรตีนเฉลี่ย 35-40 เปอร์เซ็นต์ วันละ 2 มื้อ มีระยะเวลาในการเลี้ยงร่วมกัน 90 วัน ร้อยละ 51.04 ปริมาณอาหารที่ใช้ในการเลี้ยงโดยเฉลี่ย 287.96 กิโลกรัมต่อไร่ต่อรุ่น การจำหน่ายกุ้งก้ามกรามนิยมแบบน็อคน้ำแข็ง ร้อยละ 53.13 กุ้งขาววานาไมนิยมน็อคน้ำแข็งทั้งหมดส่งจำหน่ายแพรับซื้อจังหวัดสมุทรสาคร ร้อยละ 66.66 ซึ่งผลผลิตกุ้งก้ามกรามและกุ้งขาวเฉลี่ย 86.93 และ 96.48 กิโลกรัมต่อไร่ต่อรุ่น ตามลำดับ โดยกุ้งก้ามกรามเพศผู้และเพศเมียมีน้ำหนักเฉลี่ย 43.48 และ 30.33 กรัมต่อตัว ตามลำดับ ส่วนกุ้งขาววานาไม มีน้ำหนักเฉลี่ย 10.75 กรัมต่อตัว ต้นทุนการผลิตแบบที่มีการอนุบาลเฉลี่ย 26,284.88 บาทต่อไร่ต่อรุ่น ราคาขายกุ้งก้ามกรามและกุ้งขาววานาไมเฉลี่ย 228.82 และ 126.68 บาทต่อกิโลกรัม รายได้ทั้งหมดเฉลี่ย 29,909.64 บาทต่อไร่ต่อรุ่น กำไรสุทธิเฉลี่ย 3,624.76 บาทต่อไร่ต่อรุ่น และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนร้อยละ 13.79 ส่วนต้นทุนการผลิตที่ไม่มีการอนุบาลเฉลี่ย 27,606.87 บาทต่อไร่ต่อรุ่น ที่ราคาขายกุ้งก้ามกรามและกุ้งขาววานาไมเฉลี่ย 225.23 และ 138.00 บาทต่อกิโลกรัม รายได้ทั้งหมดเฉลี่ย 29,993.31 บาทต่อไร่ต่อรุ่น กำไรสุทธิเฉลี่ย 2,386.44 บาทต่อไร่ต่อรุ่น และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนร้อยละ 8.64 สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการเลี้ยงเป็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม การขาดแคลนลูกพันธุ์ที่มีคุณภาพ ต้นทุนค่าอาหารสูง และบางครั้งเกิดโรคกุ้งระหว่างการเลี้ยง
บทคัดย่อ (EN): Study on Polyculture of Giant Freshwater Prawn (Macrobrachium rosenbergii, De Man 1879) and Pacific White Shrimp (Litopenaeus vannamei, Boone 1931) in Amphoe Bang Phae, Ratchaburi Province Nanticha Suratana* Inland Aquaculture Research and Development Division, Department of Fisheries. Study on Polyculture of Giant Freshwater Prawn (Macrobrachium rosenbergii, De Man 1879) and Pacific White Shrimp (Litopenaeus vannamei, Boone 1931) in Amphoe Bang Phae, Ratchaburi Province was carried out from October 2014–December 2015. An in-depth interview with 96 sampled farmers was used in this study. The objectives were to study on the characteristics of farmer households, patterns of culture and farm management, costs and returns, problems and obstacles in polyculture of Giant Freshwater Prawn (GFP) and Pacific White Shrimp (WS). The results found that the household size of sampled farmer was relatively small. Most (65.63%) of respondents were male with an average of 46 years old. There was 47.92% of sampled farmers graduated from primary school. Most (87.50%) of respondents having 1-2 household workers. The results revealed that the polyculture of Giant Freshwater Prawn (GFP) and White Shrimp (WS) was engaged as the main occupation. Half of sampled farmer (50%) had an average experience in polyculture of Giant Freshwater Prawn (GFP) and White Shrimp ranging from 5-10 years. The main reason of engaining in this polyculture was for increase income. There were two styles in this polyculture. The first style was started with buying 4-5 cm of GFP juvenile to raise with WS, and the sendond style was started with buying 1.5 cm of GFP juvenile to nurse in the farm before raising with WS. The study found that 51.04% of the farmer stocked GFP at 2,500–5,000 juvenile per rai and 57.29 % of farmer stocked WS at 15,000–25,000 juvenile per rai. About 57 % of sampled farmer used of 35-40% protein formulated feed for 2 times a day. It was found that 51.04% of sampled farmer having the same culture periods about 90 days. The average amount of feed used was 287.96 kg/rai /crop On saling, a total of 53.13% and 100% of the sampled farmer used the ice dipping method by GFP and WS, respectively. The study found that most of farmer sold prawn and shrimp (66.66%) to the buyers and the distributors at the fish landing site in Samut Sakhon province. The average production of GFP and WS were 86.93 and 96.48 kg/rai/crop, respectively. While the average weight of male and female GFP were 43.48 and 30.33 g/individual, respectively. The average weight of WS was 10.75 g/individual. The average cost of the 1th culture style was 26,284.88 baht/rai/crop, which the average market price of GFP and WS were 228.82 and 126.68 baht/kg, respectively. The average total income was 29,909.64 baht/rai/crop. The average net profit was 3,624.76 baht/rai/crop and the return of investment was 13.79%. For the 2nd culture style, the average cost of production was 27,606.87 baht/rai/crop at the average market price of GFP and WS were 225.23 and 138.00 baht/kg repectovely. The average total income was 29,993.31 baht/rai/crop. The average net profit was 2,386.44 baht/rai/crop and the return of investment was 8.64%. The study finding showed that the main ploblems and obstacles in rearing were the environment change, the poor quality seed, high feed cost and shrimp disease. Key words : Polyculture of Giant Freshwater Prawn and Pacific White Shrimp, Cost and return, Amphoe Bang Phae , Ratchaburi Province * 50 Phahol Yothin Road, Lat Yao, chatuchak, Bangkok, 10900. E-mail : inland.budgets@gmail.com
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมประมง
คำสำคัญ: การเลี้ยงแบบร่วม
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

นันทิชา สุรัตน์. "การศึกษาการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii, De Man 1879) ร่วมกับกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei, Boone 1931) ในอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรีProduction Model and Economics of Giant Freshwater Prawn Monoculture and Polyculture with Pacific White Shrimp in Ratchaburi Province". กรมประมง. 2558

นันทิชา สุรัตน์. "การศึกษาการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii, De Man 1879) ร่วมกับกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei, Boone 1931) ในอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรีProduction Model and Economics of Giant Freshwater Prawn Monoculture and Polyculture with Pacific White Shrimp in Ratchaburi Province". กรมประมง. 2558. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii, De Man 1879) ร่วมกับกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei, Boone 1931) ในอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี
นันทิชา สุรัตน์
กรมประมง
31 ธันวาคม 2558
กรมประมง
ผลของอุณหภูมิและความหนาแน่นของการลำเลียงลูกกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei) ลูกกุ้งกุลาดำ (Penaeus monodon) และกุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii) ระยะโพสลาวา ต่อการรอดตาย ความแข็งแรงและการเปลี่ยนแ การศึกษาจุลินทรีย์โปรไบโอติกจากบ่อเลี้ยงกุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii de Man) ในจังหวัดกาฬสินธุ์ การอนุบาลลูกกุ้งก้ามกราม Macrobrachium rosenbergii (de Man, 1879)ในน้ำทะเลสังเคราะห์ การปนเปื้อนของโคลิฟอร์มในแหล่งเลี้ยงกุ้งขาว(Litopenaeus vannamei Boone, 1931) จังหวัดพังงา การศึกษาโครงสร้างทางอณูวิทยาของ Complementary DNA (cDNA) และการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของยีน Anti-lipopolysaccharide factor ในกุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii de Man) การเปลี่ยนแปลงสรีระเคมีของกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei) ที่ขนาดต่าง ๆ ประสิทธิภาพการย่อยโปรตีนและพลังงานจากวัตถุดิบบางชนิดในกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei Boone,1931) ระดับวัตถุดิบจากพืชท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการใช้เป็นแหล่งโปรตีนหลักในอาหารสำหรับกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei Boone, 1931) และปลากะพงขาว (Lates calcarifer Bloch, 1790) การวัดการเจริญเติบโตของกุ้งขาว Litopenaeus vannamei ด้วยภาพถ่าย ผลของการเลี้ยงขุนพ่อพันธุ์กุ้งขาวแวนนาไม (Litopenaeus vannamei Boone, 1931)ด้วยอาหารต่างกันต่อความสมบูรณ์ของเซลล์สเปิร์ม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair