สืบค้นงานวิจัย
วิจัยการใช้จุลินทรีย์เพื่อย่อยสลายตะกอนอินทรีย์ในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา
วุฒิชัย จันทรสมบัติ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: วิจัยการใช้จุลินทรีย์เพื่อย่อยสลายตะกอนอินทรีย์ในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา
ชื่อเรื่อง (EN): Research on effective microorganisms for degrading organic sediment in Songkla lake
บทคัดย่อ: แผนงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพในการย่อยสลายตะกอนอินทรีย์ ศึกษาการผลิตผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ในการย่อยสลายตะกอนอินทรีย์ และศึกษาอัตราและวิธีการใช้ผลิตผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ในการย่อยสลายตะกอนอินทรีย์พื้นที่ทะเลสาบสงขลา โดยดำเนินการทดลองในห้องปฏิบัติการกองเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน กรมพัฒนาที่ดิน และ พื้นที่ทะเลสาบสงขลา ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ดำเนินการระหว่างปี 2557-2560 ประกอบด้วย 3 โครงการ ได้แก่ การคัดเลือกจุลินทรีย์ย่อยสลายสารอินทรีย์ในตะกอนอินทรีย์ ในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา โครงการศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการเจริญของจุลินทรีย์เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ย่อยสลายตะกอนอินทรีย์ และโครงการศึกษาอัตราและวิธีการใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตะกอนอินทรีย์ ผลการทดลองโครงการที่ 1 พบว่า จากการเก็บตัวอย่างน้ำและตะกอนในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา จำนวน 45 ตัวอย่าง สามารถแยกคัดเลือกแบคทีเรียย่อยสลายเซลลูโลส ได้ 118 ไอโซเลต และแบคทีเรียสังเคราะห์แสงได้ 66 ไอโซเลท แบคทีเรียย่อยเซลลูโลสที่มีกิจกรรมการสร้างเอนไซม์เซลลูโลสได้สูงสุด คือ Bacillus sp. มีกิจกรรมเอนไซม์สูงสุด 24 m unit/ml ที่ระยะเวลาการเลี้ยงเชื้อ 6 วัน รองลงมาคือ Bacillus thuringiensis กิจกรรมเอนไซม์สูงสุด 12 m unit/ml ที่ระยะเวลาการเลี้ยงเชื้อ 3 วัน สำหรับแบคทีเรียสังเคราะห์แสงสามารถคัดเลือกลุ่มที่เป็นแบคทีเรียสังเคราะห์แสงสีม่วงไม่สะสมซัลเฟอร์ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีประสิทธิภาพในการบำบัดสารอินทรีย์ในสภาพไม่มีออกซิเจนหรืออกซิเจนน้อย 2 สายพันธุ์ คือ Rhodobacter aphaeroides strain S3W10 และRhodobacter sp. และเชื้อผสม 4 สายพันธุ์เมื่อนำมาทดสอบประสิทธิภาพการย่อยสลายสารอินทรีย์ในตะกอนอินทรีย์ในสภาพห้องปฏิบัติการสามารถ ย่อยสลายอินทรีย์คาร์บอน จาก 2.6 เปอร์เซ็นต์ เป็น 1.7 เปอร์เซ็นต์ ในระยะเวลา 15 วัน ผลการศึกษาโครงการที่ 2 สภาวะที่เหมาะสมในการเจริญของจุลินทรีย์เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ย่อยสลายตะกอนอินทรีย์ พบว่า แบคทีเรียย่อยเซลลูโลสและแบคทีเรียสังเคราะห์แสง เจริญเติบโตได้ที่ความเข้มข้นของโซเดียมคลอไรด์ 1-5 เปอร์เซ็นต์ โดยแบคทีเรียย่อยเซลลูโลส เจริญได้ดีสูงสุดที่ 24 ชั่วโมง มีปริมาณเชื้ออยู่ในช่วง 10.62-12.09 log 10 CFU/ml ประสิทธิภาพการย่อยสลายเซลลูโลสในช่วงเวลา 7 วัน มีค่าระหว่าง 17.99-96.52 Unit/ml แบคทีเรียสังเคราะห์แสงเชื้อเจริญสูงสุดในช่วง 4-6 วัน มีปริมาณเชื้ออยู่ในช่วง 3.23-4.89 log 10 CFU/ml และรูปแบบผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ที่ดีที่สุด 3 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบที่ 1 แบบแห้ง ผลิตภัณฑ์เพอร์ไลต์ที่ผสมเชื้อระหว่างแบคทีเรียย่อยเซลลูโลสและแบคทีเรียสังเคราะห์แสง มีชีวิตรอดได้นาน 7 เดือน แบคทีเรียย่อยเซลลูโลสมีปริมาณเชื้อระหว่าง 6.85-13.67 log10CFU/ml และแบคทีเรียสังเคราะห์แสงเชื้อคงความมีชีวิตรอดได้นาน 1 เดือน มีปริมาณเชื้อระหว่าง 7.84-9.20 log10CFU/ml และรูปแบบที่ 2 แบบเหลวเชื้อเดียว ส่วนผสมประกอบด้วย กากถั่วเหลือง 20 กรัม/ลิตร กากน้ำตาล 3 กรัมต่อลิตร และไดโพแทสเซียมฟอสเฟต (K2HPO4) 0.5 กรัม/ลิตร ผลิตภัณฑ์แบคทีเรียย่อยเซลลูโลสชนิดเหลวมีชีวิตรอดได้นาน 9 เดือน มีปริมาณเชื้อระหว่าง 6.86-11.95 log10CFU/ml และผลิตภัณฑ์แบคทีเรียสังเคราะห์แสงชนิดเหลว มีชีวิตรอดได้นาน 3 เดือน มีปริมาณเชื้อระหว่าง 5.94-9.05 log10CFU/ml และรูปแบบที่ 3 ตรึงเซลล์จุลินทรีย์ในแอลจิเนตแบบเชื้อเดียว โดยผลิตภัณฑ์แบคทีเรียย่อยเซลลูโลส มีชีวิตรอดได้นาน 11 เดือน มีปริมาณเชื้อระหว่าง 7.54-12.25 log10CFU/ml และผลิตภัณฑ์แบคทีเรียสังเคราะห์แสง มีชีวิตรอดได้นาน 8 เดือน มีปริมาณเชื้อระหว่าง 2.16-8.54 log10CFU/ml ผลการศึกษาประสิทธิภาพของจุลินทรีย์ย่อยสลายตะกอนอินทรีย์ในทะเลสาบสงขลา พบว่า การใช้ผลิตภัณฑ์แห้งปุ๋ยหมักร่วมกับไข่ไก่ อัตรา 6 มิลลิลิตรต่อลิตร เหมาะสมที่สุดในการขยายเพื่อเพิ่มปริมาณแบคทีเรียย่อยเซลลูโลสและแบคทีเรียสังเคราะห์แสง และการใช้ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยหมักแห้งแบบขยายในไข่ไก่อัตรา 30 ลิตรต่อไร่ ทุกๆ 4 เดือน สามารถลดปริมาณอินทรีย์คาร์บอน และลดระดับตะกอนอินทรีย์ได้สูงสุด
บทคัดย่อ (EN): The objective of this research were to select effective microorganisms using for degrading organic substance in Sonklha Lake area and study the production and application rate of microbial products The experiment was conducted during 2014-2017 in Laboratory at Division of Soil Biotechnology, Land Development Department and Sonklha Lake, Hat Yai Distric, Sonklha province. The project was devided into 3 subprojects. There were selection of effective microorganisms for degrading organic sediment in Songkhla Lake, study on suitable conditions of microbial growth for production and formulation of microbial degrading organic sediment product and study on application rate of microbial degrading organic sediment. The resulted of the first subproject found that cellulolytic bacteria and photosynthetic bacteria were isolated from a total number of 45 water and soil sediment which were collected from Sonklha Lake in the south of Thailand. A total of 118 cellulolytic bacteria and 66 photosynthetic bacteria were isolated for those samples. Activities of celluluolytic bacteria were measured as cellulase enzyme. The result showed that the maximum cellulae activities was 24 Uunit/ml producing from Bacillus sp. Moreover Bacillus thuringiensis produced cellulase 12 Uunit/ml. Two species of purple non-sulfur photosynthetic bacteria were selected from sediment including Rhodobacter aphaeroides strain S3W10 and Rhodobacter sp. Moreover mix culture of 2 cellullytic bacteria and 2 photosynthetic could decompose organic carbon in sediment. Organic carbon content decreased from 2.6 % to 1.7% within 15 days in laboratory. The result of the second projects was cellulolytic bacteria and photosynthetic bacteria were grown on culture media with sodium chloride at 1-5% concentration. The maximum population of cellulolytic bacteria and photosynthetic bacteria were 10.62-12.09 log10CFU/ml at 24 hr. and 3.23-4.89 log10CFU/ml during 4-6 days, respectively. The efficiency of cellulose degradation values within 7 days by cellulolytic bacteria were between 17.99-96.52 Unit/ml. The three best microbial formulation consisted of 1) dry powder formulation including perlite mixed with cellulolytic bacteria and photosynthetic bacteria. Each type of bacteria could survive for 7 months at number of 6.85-13.67 log10CFU/ml and 1 month at number of 7.84-9.20 log10CFU/ml, respectively. 2) Mono-strain liquid formulation including 20 g/l Soybean meal, 3g/l molasses and 0.5 g/l K2HPO4 . Cellulolytic bacteria could survive for 9 months at number of 6.86-11.95 log10CFU/ml. While No. photosynthetic bacteria to survival was between 5.94-9.05 log10CFU/ml for 3 months. 3) Mono-strain bead formulation Cellulolytic bacteria could survive for 9 months at number of. 7.54-12.25 log10CFU/ml. While number of photosynthetic bacteria to survival was between 2.16-8.54 log10 CFU/ml, for 8 months. The result of effective microorganisms for degrading organic substance in Sonklha Lake. found that the use of eggs for cultivate microbial from microbial dried products using compost as carrier was the suitable method the application rate of 30 liter per rai that microbial could reduce the amount of organic carbon and level of organic sediment with in 4 months.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ทะเลสาบสงขลา
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
วิจัยการใช้จุลินทรีย์เพื่อย่อยสลายตะกอนอินทรีย์ในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2564
ศึกษาอัตราและวิธีการใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตะกอนอินทรีย์พื้นที่ทะเลสาบสงขลา การคัดเลือกจุลินทรีย์ย่อยสลายสารอินทรีย์ในตะกอนอินทรีย์ พื้นที่ทะเลสาบสงขลา ศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการเจริญของจุลินทรีย์เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ย่อยสลายตะกอนอินทรีย์ การใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์ในการควบคุมทางชีวภาพ การวิจัยและพัฒนาการเพิ่มคุณค่าทางโภชนะของทางใบปาล์มน้ำมันโดยใช้การหมักย่อยของจุลินทรีย์เป็นอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง ประสิทธิภาพการย่อยสลายหินฟอสเฟตด้วยจุลินทรีย์ในสารเร่ง พด.9 การคัดแยกจุลินทรีย์ที่สามารถย่อยสลายสารกลุ่มไกลโฟเสทและBipyridiliums เพื่อใช้ฟื้นฟูดินและแหล่งน้ำทางการเกษตรที่มีการปนเปื้อนสารกำจัดวัชพืช ศึกษาอัตราและวิธีการใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตะกอนอินทรีย์ในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา การวิจัยและพัฒนาโมเดลการพลิกฟื้นนาร้างเพื่อความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืนในพื้นที่ขนาดเล็กภายใต้บริบทสังคมและวิถีชีวิตลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา การลดจำนวนจุลินทรีย์ในเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์โดยการใช้สารอินทรีย์ที่ไม่มีอันตรายทดแทนสารเคมีที่ใช้ฆ่าเชื้อในกระบวนการผลิต (ระยะที่ 1)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก