สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาเปรียบเทียบการเรียงลำดับนิวคลีโอไทด์บริเวณ ITS2 ของไรโบโซมัลดีเอ็นเอของแมลงริ้นดำในประเทศไทย
Aunchalee Thanwisai - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ศึกษาเปรียบเทียบการเรียงลำดับนิวคลีโอไทด์บริเวณ ITS2 ของไรโบโซมัลดีเอ็นเอของแมลงริ้นดำในประเทศไทย
ชื่อเรื่อง (EN): from Thailand
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Aunchalee Thanwisai
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้ได้ศึกษาลำดับนิวคลีโอไทด์บริเวณ ITS2 ของไรโซมัลดีเอ็นเอของแมลงริ้นดำ ในประเทศไทยจำนวน 40 ชนิด ซึงจัดอยู่ใน 4 สกุลย่อย ของสกุล Simulium ได้แก่สกุลย่อย Gomphostilbia จำนวน 12 ชนิด สกุลย่อย Nevermannia จำนวน 5 ชนิด สกุลย่อย Simulium จำนวน 21 ชนิด และที่ยังไม่ทราบสกุลย่อยอีก 1 ชนิด คือ Simulium baimaii ผลการศึกษา พบว่าแมลงริ้นดำที่ศึกษาทั้งหมดมีความยาวของลำดับนิวคลีโอไทด์บริเวณ ITS2 ระหว่าง 247 ถึง 308 คู่เบส และมีเบสอะดีนีนและไทมีนค่อนข้างสูง โดยมีค่าระหว่าง 71 ถึง 83.3% ซึ่งสูงกว่า ที่พบในยุงชนิดต่างๆ นอกจากนี้พบว่าริ้นดำจำนวน 13 ชนิดมีความแปรผันของลำดับนิวคลีโอ ไทด์ระหว่างโคลนภายในตัวเดียวกัน โดยมีค่าความแปรผันระหว่าง 0.3-1.1% จากการศึกษา เปรียบเทียบลำดับนิวคลีโอไทด์ของ ITS2 ภายในริ้นดำชนิดเดียวกัน พบว่ามีความหลากหลาย ของการเรียงลำดับนิวคลีโอไทด์บริเวณ ITS2 ระหว่าง Simulium feuerborni แต่ละตัวที่เก็บมา จากแหล่งเดียวกัน (โครงการหลวง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่) และต่าง แหล่งกันที่อยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่และอุทยานแห่งชาติภู กระดึง จังหวัดเลย ซึ่งความแตกต่างภายในประชากรและระหว่างประชากรของ S. feuerborni มีค่าระหว่าง 0-2.2% และ 0.7-2.6% ตามลำดับ ความแปรผันทางพันธุกรรมของริ้นดำจำนวน 40 ชนิด มีค่าระหว่าง 10-39% และมีค่าถึง 95.2% เมื่อเปรียบเทียบกับแมลงชนิดอื่นที่ใช้เป็นตัว เปรียบเทียบนอกกลุ่ม ได้แก่ แมลงชนิด Phlebotomus perniciosus, Chironomus annularius และ Drosophila melanogaster ในการศึกษาความสัมพันธ์ทางสายวิวัฒนาการระหว่างริ้นดำ เหล่านี้ ได้ทำการศึกษาวิเคราะห์โดยวิธี maximum parsimony และ neighbor-joining ของ โปรแกรม PAUP (version 4.0b10) พบว่าการวิเคราะห์ทั้งสองแบบสามารถแบ่งริ้นดำออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ประกอบด้วยริ้นดำในสกุลย่อย Gomphostilbia และ Nevermannia + Montisimulium ส่วนกลุ่มที่ 2 ประกอบด้วยริ้นดำในสกุลย่อย Simulium และริ้นดำชนิด S. baimaii ซึ่งยังไม่ทราบว่าจำแนกอยู่ในสกุลย่อยใด ในการศึกษานี้ยังไม่สามารถอธิบาย ความสัมพันธ์ทางสายวิวัฒนาการของริ้นดำภายในสกุลย่อย Gomphostilbia ได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามพบว่าการศึกษาสายสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการระดับโมเลกุลโดยการเปรียบเทียบการ เรียงลำดับนิวคลีโอไทด์บริเวณ ITS2 ของไรโบโซมัลดีเอ็นเอของแมลงริ้นดำมีความสอดคล้องกับ การศึกษาสายสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการที่ศึกษาโดยใช้ข้อมูลทางสัณฐานวิทยา
บทคัดย่อ (EN): The sequence of secondary internal transcribed spacer II (ITS2) of ribosomal DNA (rDNA) were determined from forty black fly species in Thailand belonging to 4 subgenera of the genus Simulium: Gomphostilbia (12 species), Nevermannia (5 species), Simulium (21 species) and one unknown subgenus (Simulium baimaii). The length of the ITS2 ranged from 247 to 308 bp. All black fly species had high AT content which ranged from 71 to 83.3%, these values were higher than those found in other mosquito species. Clonal variation within individuals occurred in thirteen species and ranged from 0.3 to 1.1%. Intraspecific sequence comparisons revealed variation among S. feuerborni individuals collected from the same location (Royal Project at Doi Inthanon National Park, Chiang Mai) and different locations at Doi Inthanon National Park, Chiang Mai and Phu Kradung National Park, Loei. Intrapopulation and interpopulation variations in S. feuerborni ranged from 0 to 2.2% and 0 to 3.4%, respectively. The sequence divergence among forty black fly species ranged from 1.0 to 39% and up to 95.2% between black fly species and their outgroup species, Phlebotomus perniciosus, Chironomus annularius and Drosophila melanogaster. The phylogenetic relationships among the members of the black fly species in Thailand were inferred by maximum parsimony and neighbor-joining analyses of the PAUP program (version 4.0b10). Both trees obtained were almost identical in a topology that revealed two major monophyletic groups. The first monophyletic group consisted of Gomphostilbia and Nevermannia + Montisimulium. The second monophyletic group consisted of the subgenus Simulium and one species of an unknown subgenus (Simulium baimaii). Phylogenetic relationship the representatives in the members of subgenus Gomphostilbia were unresolved. However, molecular phylogeny in the present study generally agrees with existing morphology-based phylogenies
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=2060&obj_id=1469
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Simulium
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: งานวิจัยนี้ได้ศึกษาลำดับนิวคลีโอไทด์บริเวณ ITS2 ของไรโซมัลดีเอ็นเอของแมลงริ้นดำ ในประเทศไทยจำนวน 40 ชนิด ซึงจัดอยู่ใน 4 สกุลย่อย ของสกุล Simulium ได้แก่สกุลย่อย Gomphostilbia จำนวน 12 ชนิด สกุลย่อย Nevermannia จำนวน 5 ชนิด สกุลย่อย Simulium จำนวน 21 ชนิด และที่ยังไม่ทราบสกุลย่อยอีก 1 ชนิด คือ Simulium baimaii ผลการศึกษา พบว่าแมลงริ้นดำที่ศึกษาทั้งหมดมีความยาวของลำดับนิวคลีโอไทด์บริเวณ ITS2 ระหว่าง 247 ถึง 308 คู่เบส และมีเบสอะดีนีนและไทมีนค่อนข้างสูง โดยมีค่าระหว่าง 71 ถึง 83.3% ซึ่งสูงกว่า ที่พบในยุงชนิดต่างๆ นอกจากนี้พบว่าริ้นดำจำนวน 13 ชนิดมีความแปรผันของลำดับนิวคลีโอ ไทด์ระหว่างโคลนภายในตัวเดียวกัน โดยมีค่าความแปรผันระหว่าง 0.3-1.1% จากการศึกษา เปรียบเทียบลำดับนิวคลีโอไทด์ของ ITS2 ภายในริ้นดำชนิดเดียวกัน พบว่ามีความหลากหลาย ของการเรียงลำดับนิวคลีโอไทด์บริเวณ ITS2 ระหว่าง Simulium feuerborni แต่ละตัวที่เก็บมา จากแหล่งเดียวกัน (โครงการหลวง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่) และต่าง แหล่งกันที่อยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่และอุทยานแห่งชาติภู กระดึง จังหวัดเลย ซึ่งความแตกต่างภายในประชากรและระหว่างประชากรของ S. feuerborni มีค่าระหว่าง 0-2.2% และ 0.7-2.6% ตามลำดับ ความแปรผันทางพันธุกรรมของริ้นดำจำนวน 40 ชนิด มีค่าระหว่าง 10-39% และมีค่าถึง 95.2% เมื่อเปรียบเทียบกับแมลงชนิดอื่นที่ใช้เป็นตัว เปรียบเทียบนอกกลุ่ม ได้แก่ แมลงชนิด Phlebotomus perniciosus, Chironomus annularius และ Drosophila melanogaster ในการศึกษาความสัมพันธ์ทางสายวิวัฒนาการระหว่างริ้นดำ เหล่านี้ ได้ทำการศึกษาวิเคราะห์โดยวิธี maximum parsimony และ neighbor-joining ของ โปรแกรม PAUP (version 4.0b10) พบว่าการวิเคราะห์ทั้งสองแบบสามารถแบ่งริ้นดำออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ประกอบด้วยริ้นดำในสกุลย่อย Gomphostilbia และ Nevermannia + Montisimulium ส่วนกลุ่มที่ 2 ประกอบด้วยริ้นดำในสกุลย่อย Simulium และริ้นดำชนิด S. baimaii ซึ่งยังไม่ทราบว่าจำแนกอยู่ในสกุลย่อยใด ในการศึกษานี้ยังไม่สามารถอธิบาย ความสัมพันธ์ทางสายวิวัฒนาการของริ้นดำภายในสกุลย่อย Gomphostilbia ได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามพบว่าการศึกษาสายสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการระดับโมเลกุลโดยการเปรียบเทียบการ เรียงลำดับนิวคลีโอไทด์บริเวณ ITS2 ของไรโบโซมัลดีเอ็นเอของแมลงริ้นดำมีความสอดคล้องกับ การศึกษาสายสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการที่ศึกษาโดยใช้ข้อมูลทางสัณฐานวิทยา
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ศึกษาเปรียบเทียบการเรียงลำดับนิวคลีโอไทด์บริเวณ ITS2 ของไรโบโซมัลดีเอ็นเอของแมลงริ้นดำในประเทศไทย
Aunchalee Thanwisai
มหาวิทยาลัยมหิดล
2547
การศึกษาเซลล์พันธุศาสตร์ของแมลงริ้นดำกลุ่ม Tuberosum (diptera : simuliidae) ในประเทศไทย ความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการของกุ้งสกุล Metapenaeus บางชนิดที่พบทางภาคตะวันออกของประเทศไทยโดยการวิเคราะห์ลำดับนิวคลีโอไทด์ของยีน 16S rRNA และ COI บนไมโทคอนเดรีย ในประเทศไทย การโคลนและการหาลำดับนิวคลีโอไทด์ของยีนไคทิเนสจาก Burkholderia cepacia TU09 การทำนายชาติพันธุ์ของประชากรในภาคเหนือของไทย โดยใช้ข้อมูลภาวะพหุสัณฐานของ นิวคลีโอไทด์เดี่ย ความหลากหลายทางพันธุกรรมของชันโรง (Apidae: Meliponinae) ในประเทศไทย ตรวจสอบโดย PCR-RFLP ของไมโทคอนเตรียดีเอ็นเอ ความผันแปรของโครโมโซมเอ็กซ์ วาย และดีเอ็นเอไมโทคอนเดรียของกลุ่มชนที่พูดภาษาตระกูลไทในภาคเหนือของประเทศไทย สำหรับประเทศไทย ที่ดื้อต่อยาไรแฟมพิซินในประเทศไทย การวิเคราะห์ปริมาณเคลนบูเทรอลและซัลบูทามอลในเนื้อสุกร และการวิเคราะห์ปริมาณไรโบฟลาวิน ฟลาวินอะดีนินไดนิวคลีโอไทด์ และฟลาวินโมโนนิวคลีโอไทด์ในเบียร์ โดยเทคนิคไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ลิควิดโครมาโทกราฟี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก