สืบค้นงานวิจัย
โครงการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานพลุสารดูดความชื้น สูตร “แคลเซียมคลอไรด์” เพื่อใช้เสริมการปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น
รัชนีวรรณ ตาฬุมาศสวัสดิ์ - กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
ชื่อเรื่อง: โครงการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานพลุสารดูดความชื้น สูตร “แคลเซียมคลอไรด์” เพื่อใช้เสริมการปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รัชนีวรรณ ตาฬุมาศสวัสดิ์
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ดำเนินการโครงการความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีฝนหลวง ร่วมกับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ และศูนย์วิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการบินและ อวกาศ กองทัพอากาศ ในแผนงานพัฒนาสารฝนหลวงและอุปกรณ์ในการปฏิบัติการ ฝนหลวง โครงการวิจัยและพัฒนา พลุสารดูดความชื้น สูตรแดลเซียมคลอไรด์ เพื่อเสริมการปฏิบัติการ ฝนหลวงเมฆอุ่นปี 2552 โดยได้ทำการทดสอบในพื้นที่ ปฏิบัติการจริงในภาคอากาศ ณ กองบิน 4 อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 1-30 มิถุนายน 2552 โดยใช้เครื่องบินโจมตีธุรการแบบที่ 2 (AU-23A) ของกองทัพอากาศในการปฏิบัติการฝนหลวง ซึ่งในการทดสอบนี้มี วัตถุประสงค์เพื่อทดสอบผลของพสุสารดูดความชื้น สูตรแคลเซียมคลอไรด์ที่มีต่อการเพิ่มปริมาณและการกระจายของฝน เพื่อใช้เสริมการปฏิบัติการ ฝนหลวงเมฆอุ่นในประเทศไทย และเมื่อวันที่ 27-28 มิถุนายน 2552 ได้มีการสรุปผลการ ทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานของพสุสารดูดความชื้นที่ติดตั้งกับเครื่องบิน AU-23A ของกองทัพอากาศ เพื่อใช้ทำฝนใน สภาวะ เมฆอุ่นของประเทศไทย โดยนายวราวุธ ขันติยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ประธานที่ ประชุมฯ และพลอากาศตรีสมศักดิ์ ไทยเพ็ชร รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการบินและอวกาศ กองทัพอากาศ พร้อมนักวิชาการฝนหลวง นักบินฝนหลวง นักบินกองทัพอากาศ และผู้เกี่ยวข้อง โดยร่วมกันสรุปผลการ ทดสอบพสุสารดูดความชื้นแคลเซียมคลอไรด์ ณ กองบิน 4 สรุปได้ดังนี้ 1) สามารถสรุปแนวทางการดำเนินงานและข้อบกพร่องที่จะต้องปรับปรุงให้การปฏิบัติการทำฝนเมฆอุ่นมี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งผลการปฏิบัติการกับกลุ่มเมฆตัวอย่างที่อยู่ในเกณฑ์หน่วยทดลองทำฝนเมฆอุ่น โดยการจุดพลุใต้ฐาน เมฆที่ระดับความสูงเฉลี่ย 4,000 ฟุต สามารถบินปฏิบัติการได้ทั้งหมด 15 วัน จำนวน 24 เที่ยวบิน ปฏิบัติการทำฝนกับกลุ่ม เมฆทดลอง 23 กลุ่มเมฆ ในการคัดเลือกกลุ่มเมมทดลองโดยใช้เครื่องบิน SKA-350 ตรวจวัดเมฆฟิสิกส์ จำนวน 14 เที่ยวบิน ปฏิบัติการทำฝนกับกลุ่มมฆทดลอง 11 กลุ่มเมฆ เพื่อจะได้วิเคราะห์เปรียบเทียบก่อนและหลังปฏิบัติการทำฝน 2) การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ โดยการใช้พลุสารดูดความชื้น (Zlygroscopic Fare) ในการปฏิบัติการฝน หลวง อนุกาคของสารที่ผาไหม้ (ควัน) ที่ได้จากการจุดพลุสารดูดความชื้น มีอนุกาคจำนวน 8.582X1023 อนุกาค และเนื้อ พลูน้ำหนัก อ00 กรัมต่อนัด จะให้สการแคลเซียมคลอไรดำขนาดอนุกาคเฉลี่ย 07 ไมครอน โดยที่พลูสารดูดควนมขึ้น 1 นัด จะเทียบทำกับปริมาณการใช้สารแดลเซียมคลอไรด์ที่เป็นผง 150 กิโลกรัม ซึ่งในการทดสอบครั้งนี้ ใช้พลุสารดูดความชื้น แคลเรียมคลอไรด์ จำนวน 85 นัด (จากจำนวนพลุที่จุด 97 นัด ประสิทธิภาพในการใช้งานได้ของพลุฯ คิดเป็นร้อยละ 90 และสามารถกำหนดจำนวนพลุที่เหมาะสมในการทำฝนเมฆอุ่น 3 นัดต่อ 1 ยอดเมฆ และมีรูปแบบการยิงครั้งละนัด โดยพลุใช้ระยะเวลาในการเผาไหม้ เฉลี่ยนัดละ 6 นาที 3) การปฏิบัติการในแต่ละวัน นักวิชาการฝนหลวง นักบินฝนหลวง นักบินกองทัพอากาศ และผู้เกี่ยวข้อง จะร่วมกันวางแผนการปฏิบัติงาน โดยประสานกับนักวิชาการเมผฟิสิกส์และนักวิชาการเรดาร์ เพื่อหาพิกัด ของกลุ่มเมฆเป้าหมายที่จะขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง จากนั้นนักวิชาการบนเครื่องบิน SKA-350 จะดัดเลือกกลุ่มเมฆทดลองที่ อยู่ในเกณฑ์การทำฝน และกำหนดพิกัดการทำฝนร่วมกัน และช่างเครื่องบินจะทำการติดตั้งพลุสารดูดความชื้นแดลเรียม คลอไรด์ที่บริเวณปีกทั้งสองข้างของเครื่องบิน AU-23A ซึ่งเมื่อไปถึงกลุ่มเมฆเป้าหมาย เครื่องบิน SKA-350 จะต้องทำการ ตรวจวัดเมฆฟิสิกส์ของกลุ่มเมฆในรูปแบบ Cloud Base Spectra (ที่ระดับเหนือฐานเมฆ 500 ฟุต) และบันทึกข้อมูลไว้ รวมทั้งถ่ายภาพกลุ่มเมฆทดลองก่อนปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อจะได้นำมาเปรียบเทียบกับกลุ่มมฆทดลองหลังจากที่ทำการจุด พลุสารดูดความชื้นฯ เข้าไปในกลุ่มเมฆ จากนั้นนักบินเครื่องบิน AU-23A จะเป็นผู้ทำการกดสวิทช์ เพื่อทำการจุดพสุฯใต้ ฐานเมฆ โดยระหว่างที่มีการจุดพสุฯ ออกไปแล้วนั้น เรดาร์ตรวจกลุ่มฝนของผ่นหลวงจะทำการบันทึกการเปลี่ยนแปลง ของกลุ่มเมฆเป้าหมาย ซึ่งทำให้นักวิชาการสามารถนำข้อมูลมาเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงานของพสุฯ ได้อย่างแม่นย่ และในการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ เครื่องบิน AU-23A สามารถใช้งานได้ดี 4) การดำเนินโครงการและปฏิบัติภารกิจในภาคอากาศจริง สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ จึงทำให้ ทราบว่าการปฏิบัติการทำฝนโดยนำศักยภาพของแต่ละหน่วยงานมาบูรณาการร่วมกัน ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน มากขึ้น นักวิชาการฝนหลวงบนเครื่องบิน AU-23A และการวิเคราะห์ข้อมูลเรดาร์ฝนหลวง สามารถสรุปผลได้ว่าการทดสอบปฏิบัติการฝนหลวงด้วยพลุสารดูดความชื่นฯ ในสภาวะเมฆอุ่น สามารถเพิ่มปริมาณน้ำฝนและเพิ่มพื้นที่ของการ เกิดฝนได้ มีกลุ่มเมฆที่เข้าเงื่อนไขการทำฝนเมฆอุ่น จำนวน 23 ตัวอย่าง ในช่วงกลางฤดูฝนจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตก เฉียงใต้ ปี 2552 มีพื้นที่ฝนตกมากที่สุดที่ได้จากการปฏิบัติการฝนหลวงนี้ ตั้งแต่ 14,375 ไร่ ถึง 110,000 ไร่ ครอบคลุม พื้นที่บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์, ชัยภูมิ, นครสวรรค์, ชัยนาท, อุทัยธานี และลพบุรี
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://164.115.23.116:8060/Frontend/download?DocumentID=37&fileIndex=0&originalFileName=17%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%20%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%20%E2%80%9C%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B9%8C%E2%80%9D%20%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9D%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%86%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99.pdf
เผยแพร่โดย: กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
คำสำคัญ: ฝนหลวงเมฆอุ่น
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานพลุสารดูดความชื้น สูตร “แคลเซียมคลอไรด์” เพื่อใช้เสริมการปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
โครงการปฏิบัติการวิจัยพลุสารดูดความชื้นเสริมการปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น ปี 2557 การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี โครงการประยุกต์ผลการวิจัยฝนหลวงในการปฏิบัติการฝนหลวงของศูนย์ฝนหลวงประจำภาค โครงการวิจัยและพัฒนาพลุสารดูดความชื้นเพื่อใช้เสริมการปฏิบัติการเมฆอุ่น สูตร “โซเดียมคลอไรด์” โครงการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานพลุสารดูดความชื้น สูตร “แคลเซียมคลอไรด์" และ "โซเดียมคลอไรด์" เพื่อใช้เสริมการปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น โครงการการใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม SMMS เพื่อการปฏิบัติการฝนหลวง ของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง การใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม SMMS เพื่อการปฏิบัติการฝนหลวงของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง โครงการการพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ลุ่มน้ำวิกฤต กรณีศึกษา ลุ่มน้ำภาคตะวันออก โครงการย่อยที่ 5 โครงการวิเคราะห์ปริมาณสาร THC ในเฮมพ์ โครงการศึกษาและทดสอบกุหลาบสายพันธุ์ใหม่
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก