สืบค้นงานวิจัย
ผลของการดัดแปรด้วยความร้อนชื่นต่อโครงสร้างและสมบัติทางเคมีกายภาพของแป้งพุทธรักษา
ญาณิกา วัชรเทวินทร์กุล - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชื่อเรื่อง: ผลของการดัดแปรด้วยความร้อนชื่นต่อโครงสร้างและสมบัติทางเคมีกายภาพของแป้งพุทธรักษา
ชื่อเรื่อง (EN): Effects of heat-moisture treatment on structure and physicochemical properties of canna starch
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ญาณิกา วัชรเทวินทร์กุล
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Yanika Wacharatewinkul
บทคัดย่อ: To, Tp, Tc) ของแป้งดัดแปรเพิ่มขึ้นเป็นลำดับตามความชื้นที่ใช้ในการดัดแปร เช่นเดียวกับค่า Water absorption capacity (WAC) ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นตามลำดับ โดยมีค่าสูงสุดใน แป้งดัดแปรที่ความชื้น 25% (93.5 g/100g ) การดัดแปรด้วยความร้อนขื้นไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยน แปลงโครงสร้างผลึกของแป้งพุทธรักษาจากชนิด B-type แต่ทำให้เกิดการลดลงของพีคที่ตำแหน่ง 5.7 ํ และการรวมกันของพีคที่ตำแหน่ง 22 ํ และ24 ํ โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมากขึ้นเมื่อ ความชื้นในการดัดแปรเพิ่มสูงขึ้น ผลการศึกษาโย Fourier transform infrared (FTIR) spectroscopy ของแป้งที่ไม่ผ่านการดัดแปรและแป้งดัดแปรที่ความชื้น 25% ยืนยันว่าการดัดแปรแป้ง ด้วยความร้อนชื้นไม่ทำให้เกิดการสร้างพันธะชนิดใหม่ขึ้นภายในเม็ดแป้ง การศึกษาลักษณะของเม็ด แป้งโดย Confocal laser scanning microscope (CLSM) แสดงให้เห็นการเคลื่อนย้ายตำแหน่งของ โปรตีนในเม็ดแป้ง โดยหลังจากการดัดแปรโปรตีนในเม็ดแป้งจะเคลื่อนที่จากบริเวณ growth ring ไป ยังพื้นผิวของเม็ดแป้งมากขึ้นซึ่งเห็นได้ชัดเจนที่สุดในแป้งดัดแปรที่ความชื้น 25% จากการศึกษาความคงตัวของแป้งดัดแปรต่อสภาพความเป็นกรดและแรงเฉือน โดยการ วิเคราะห์ความหนืดของแป้งในสภาวะเป็นกลาง (pH 7.2) และสภาวะที่เป็นกรด (pH 3.0-4.6) และ ตรวจสอบลักษณะของเจลที่ได้จาก RVA พบว่าแป้งที่ไม่ผ่านการดัดแปรมีความสามารถในการพอง ตัวสูงในสภาวะ pH 4.6 และ 7.2 แต่ในสถาวะที่มีความเป็นกรดสูง (pH 3.0) พบว่าเม็ดแป้งแตกออก เป็นชิ้นส่วนละเอียด ความสามารถในการพองตัวของเม็ดแป้งจะลดลงในแป้งดัดแปรที่ความชื้น 15%,18% และ 20% ตามลำดับ และในสภาวะที่มีความเป็นกรดสูง พบว่าแป้งดัดแปรที่ความชื้น 22% และ 25% ยังคงสภาพของเม็ดแป้งที่สมบูรณ์ การทดสอบความคงตัวของแป้งต่อแรงกวน (160, 240, 320 และ 480 rpm) ก็ให้ผลในทิศทางเดียวกัน คือแป้งดัดแปรที่ความชื้นสูงจะสามารถทนต่อแรงกวน ได้มากกว่าแป้งดัดแปรที่ความชื้นต่ำกว่า แป้งดัดแปรที่ความชื้น 22% และ 25% มีสมบัติด้านความ หนีดที่เทียบเคียงได้กับแป้งครอสลิงก์โดยโซเดียมไตรเมทาฟอสเฟตที่ความเข้มข้น 0.2% และ 0.5% การทดสอบการย่อยด้วยเอนไซม์ พบว่าความสามารถในการถูกย่อนด้วยเอนไซม์ของแป้งแต่ละชนิด เป็นไปตามลำดับดังนี้ แป้งดัดแปรที่ความชื้น 25%> แป้งดัดแปรที่ความชื้น 15% > แป้งดัดแปรที่ ความชื้น 18% ~ แป้งที่ไม่ผ่านการดัดแปร > แป้งดัดแปรที่ความชื้น %> แป้งดัดแปรที่ความชื้น 22% การศึกษาผลของเวลาในการให้ความร้อนต่อสมบัติด้านความหนืดของแป้งดัดแปร พบว่าเมื่อ ระยะเวลาในการดัดแปรเพิ่มขึ้น จะมีผลทำให้อุณหภูมิเริ่มเกิดความหนืดของแป้งเพิ่มขึ้นและความหนืด สูงสุดของแป้งลดลง โดยเวลาจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมากขึ้นเมื่อความชื้นที่ใช้ในการ ดัดแปรสูงขึ้น การดัดแปรแป้งที่มีความชื้นในระดับ 15-30% ร่วมกับการใช้เวลาในการให้ความร้อน ในช่วง 1-16 ชั่วโมง พบว่าทำให้ได้แป้งดัดแปรที่มีรูปแบบของความหนืดที่แตกต่างกัน เมื่อทำารดัดแปรแป้งโดยใช้สารละลายของพลาสติไซเซอร์ที่ความชื้น 10% แทนการใช้ น้ำในการปรับความชื้นของแป้งเป็น 25% โดยพลาสติไซเซอร์ที่ใช้คือ เอทธิลีนไกลคอล (2C:20H) กลีเซอรอล (2C:30H) และซอร์บิทอล (C:60H) เมื่อนำแป้งไปให้ความร้อนที่อุณหภูมิ 100 องศา เซลเซียส เป็นเวลา 16 ชั่วโมง พบว่าแป้งดัดแปรที่ปรับความชื้นโดยใช้สารละลายของซอร์บิทอลมี ลักษณะการเปลี่ยนแปลงของความหนืดที่ใกล้เคียงกับแป้งที่ใช้น้ำเป็นพลาสติไซเซอร์มาก ส่วนแป้งที่ ดัดแปรโดยใช้กลีเซอรอลจะมีความหนืดที่ต่ำกว่าแป้งที่ดัดแปรโดยใช้น้ำและแป้งที่ดัดแปรโดยใช้ เอทธิลีนไกลคอล จะมีความหนือต่ำสุด อุณหภูมิเริ่มเกิดความหนืดของแป้งที่ดัดแปรจะเพิ่มขึ้นตาม ชนิดของพลาสติไซเซอร์ที่ใช้ดังนี้: น้ำ (85.1 ํ C) < ซอร์บิทอล (85.9 ํ C )< กลีเซอรอล (91.5 ํ C)< เอทธิลีนไกลคอล (92.7 ํC ) ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าชนิดของพลาสติไซเซอร์ที่ใช้ในการดัดแปร ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสมบัติทางความหนือของแป้ง
บทคัดย่อ (EN): water (85.1 "C) < sorbitol (85.9 "C) < glycerol (91.5 "C) < ethylene glycol (92.7 "C).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=54&RecId=12782&obj_id=36573
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
คำสำคัญ (EN): Physicochemical Properties
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
รายละเอียด: To, Tp, Tc) ของแป้งดัดแปรเพิ่มขึ้นเป็นลำดับตามความชื้นที่ใช้ในการดัดแปร เช่นเดียวกับค่า Water absorption capacity (WAC) ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นตามลำดับ โดยมีค่าสูงสุดใน แป้งดัดแปรที่ความชื้น 25% (93.5 g/100g ) การดัดแปรด้วยความร้อนขื้นไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยน แปลงโครงสร้างผลึกของแป้งพุทธรักษาจากชนิด B-type แต่ทำให้เกิดการลดลงของพีคที่ตำแหน่ง 5.7 ํ และการรวมกันของพีคที่ตำแหน่ง 22 ํ และ24 ํ โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมากขึ้นเมื่อ ความชื้นในการดัดแปรเพิ่มสูงขึ้น ผลการศึกษาโย Fourier transform infrared (FTIR) spectroscopy ของแป้งที่ไม่ผ่านการดัดแปรและแป้งดัดแปรที่ความชื้น 25% ยืนยันว่าการดัดแปรแป้ง ด้วยความร้อนชื้นไม่ทำให้เกิดการสร้างพันธะชนิดใหม่ขึ้นภายในเม็ดแป้ง การศึกษาลักษณะของเม็ด แป้งโดย Confocal laser scanning microscope (CLSM) แสดงให้เห็นการเคลื่อนย้ายตำแหน่งของ โปรตีนในเม็ดแป้ง โดยหลังจากการดัดแปรโปรตีนในเม็ดแป้งจะเคลื่อนที่จากบริเวณ growth ring ไป ยังพื้นผิวของเม็ดแป้งมากขึ้นซึ่งเห็นได้ชัดเจนที่สุดในแป้งดัดแปรที่ความชื้น 25% จากการศึกษาความคงตัวของแป้งดัดแปรต่อสภาพความเป็นกรดและแรงเฉือน โดยการ วิเคราะห์ความหนืดของแป้งในสภาวะเป็นกลาง (pH 7.2) และสภาวะที่เป็นกรด (pH 3.0-4.6) และ ตรวจสอบลักษณะของเจลที่ได้จาก RVA พบว่าแป้งที่ไม่ผ่านการดัดแปรมีความสามารถในการพอง ตัวสูงในสภาวะ pH 4.6 และ 7.2 แต่ในสถาวะที่มีความเป็นกรดสูง (pH 3.0) พบว่าเม็ดแป้งแตกออก เป็นชิ้นส่วนละเอียด ความสามารถในการพองตัวของเม็ดแป้งจะลดลงในแป้งดัดแปรที่ความชื้น 15%,18% และ 20% ตามลำดับ และในสภาวะที่มีความเป็นกรดสูง พบว่าแป้งดัดแปรที่ความชื้น 22% และ 25% ยังคงสภาพของเม็ดแป้งที่สมบูรณ์ การทดสอบความคงตัวของแป้งต่อแรงกวน (160, 240, 320 และ 480 rpm) ก็ให้ผลในทิศทางเดียวกัน คือแป้งดัดแปรที่ความชื้นสูงจะสามารถทนต่อแรงกวน ได้มากกว่าแป้งดัดแปรที่ความชื้นต่ำกว่า แป้งดัดแปรที่ความชื้น 22% และ 25% มีสมบัติด้านความ หนีดที่เทียบเคียงได้กับแป้งครอสลิงก์โดยโซเดียมไตรเมทาฟอสเฟตที่ความเข้มข้น 0.2% และ 0.5% การทดสอบการย่อยด้วยเอนไซม์ พบว่าความสามารถในการถูกย่อนด้วยเอนไซม์ของแป้งแต่ละชนิด เป็นไปตามลำดับดังนี้ แป้งดัดแปรที่ความชื้น 25%> แป้งดัดแปรที่ความชื้น 15% > แป้งดัดแปรที่ ความชื้น 18% ~ แป้งที่ไม่ผ่านการดัดแปร > แป้งดัดแปรที่ความชื้น %> แป้งดัดแปรที่ความชื้น 22% การศึกษาผลของเวลาในการให้ความร้อนต่อสมบัติด้านความหนืดของแป้งดัดแปร พบว่าเมื่อ ระยะเวลาในการดัดแปรเพิ่มขึ้น จะมีผลทำให้อุณหภูมิเริ่มเกิดความหนืดของแป้งเพิ่มขึ้นและความหนืด สูงสุดของแป้งลดลง โดยเวลาจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมากขึ้นเมื่อความชื้นที่ใช้ในการ ดัดแปรสูงขึ้น การดัดแปรแป้งที่มีความชื้นในระดับ 15-30% ร่วมกับการใช้เวลาในการให้ความร้อน ในช่วง 1-16 ชั่วโมง พบว่าทำให้ได้แป้งดัดแปรที่มีรูปแบบของความหนืดที่แตกต่างกัน เมื่อทำารดัดแปรแป้งโดยใช้สารละลายของพลาสติไซเซอร์ที่ความชื้น 10% แทนการใช้ น้ำในการปรับความชื้นของแป้งเป็น 25% โดยพลาสติไซเซอร์ที่ใช้คือ เอทธิลีนไกลคอล (2C:20H) กลีเซอรอล (2C:30H) และซอร์บิทอล (C:60H) เมื่อนำแป้งไปให้ความร้อนที่อุณหภูมิ 100 องศา เซลเซียส เป็นเวลา 16 ชั่วโมง พบว่าแป้งดัดแปรที่ปรับความชื้นโดยใช้สารละลายของซอร์บิทอลมี ลักษณะการเปลี่ยนแปลงของความหนืดที่ใกล้เคียงกับแป้งที่ใช้น้ำเป็นพลาสติไซเซอร์มาก ส่วนแป้งที่ ดัดแปรโดยใช้กลีเซอรอลจะมีความหนืดที่ต่ำกว่าแป้งที่ดัดแปรโดยใช้น้ำและแป้งที่ดัดแปรโดยใช้ เอทธิลีนไกลคอล จะมีความหนือต่ำสุด อุณหภูมิเริ่มเกิดความหนืดของแป้งที่ดัดแปรจะเพิ่มขึ้นตาม ชนิดของพลาสติไซเซอร์ที่ใช้ดังนี้: น้ำ (85.1 ํ C) < ซอร์บิทอล (85.9 ํ C )< กลีเซอรอล (91.5 ํ C)< เอทธิลีนไกลคอล (92.7 ํC ) ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าชนิดของพลาสติไซเซอร์ที่ใช้ในการดัดแปร ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสมบัติทางความหนือของแป้ง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของการดัดแปรด้วยความร้อนชื่นต่อโครงสร้างและสมบัติทางเคมีกายภาพของแป้งพุทธรักษา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2553
ผลของความร้อนต่อสมบัติทางกายภาพของพลอยทับทิม การดัดแปรแป้งพุทธรักษากินได้ด้วยวิธีแอซิทิลเลชัน คุณลักษณะทางกายภาพและสมบัติทางความร้อนของเห็ดฟาง การดัดแปร, การศึกษาคุณลักษณะและการใช้ประโยชน์ของแป้งชนิด ผลของการปรับสภาพแป้งและสภาวะเอกซ์ทรูชันต่อสมบัติ ทางกายภาพ เคมีและดัชนีไกลซิมิคของแป้งถั่วเขียวขึ้นรูป ศักยภาพของแป้งดัดแปรที่ดัดแปรจากแป้งดิบชนิดต่างๆจากปฏิกิริยาไฮโดรอกซีโพรพิเลชันและคาร์บอกซีเมทธิเลชันในการเป็นสารก การพัฒนาฐานข้อมูลสมบัติเคมี การปรับปรุงคุณภาพแผ่นแป้งแหนมเนืองโดยการใช้แป้งผสมระหว่างแป้งข้าวเจ้ากับแป้งพุทธรักษา การศึกษาคุณสมบัติทางเคมีฟิสิกส์ของแป้งดัดแปรระหว่างปฏิกริยาครอสลิงและฟอสโฟรีเลชั่นในสภาวะกึ่งแห้ง ผลของอุณหภูมิและระยะเวลาการเก็บรักษาต่อคุณสมบัติทางกายภาพเคมี และเคมีกายภาพของข้าวสารพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก