สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการใช้ปุ๋ยเคมี และปุ๋ยอินทรีย์ ตามค่าวิเคราะห์ดินสำหรับข้าว
ปรารถนา ปลอดดี - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการใช้ปุ๋ยเคมี และปุ๋ยอินทรีย์ ตามค่าวิเคราะห์ดินสำหรับข้าว
ชื่อเรื่อง (EN): Study on fertilizer use through soil tests for rice
บทคัดย่อ: การศึกษาการใช้ปุ๋ยเคมี และปุ๋ยอินทรีย์ ตามค่าวิเคราะห์ดินสำหรับข้าว เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการจัดการปุ๋ยสำหรับข้าว ในพื้นที่ภาคกลาง 2 จังหวัด (พระนครศรีอยุธยา และ สิงห์บุรี) พื้นที่ภาคตะวันออก 1 จังหวัด (ฉะเชิงเทรา) พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด (นครราชสีมา บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ) พื้นที่ภาคเหนือ1 จังหวัด (เชียงใหม่) จากการทดลองในปีงบประมาณ 2556 ถึงปีงบประมาณ 2557 ในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรีพระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา นครราชสีมา และ จังหวัดศรีสะเกษที่มีการดำเนินงานวิจัยแบบแปลงทดลองในพื้นที่เกษตรกร โดยมีการแบ่งเป็นแปลงทดลองย่อยๆ โดยการทำคันนากั้นระหว่างตำหรับการทดลอง พบว่า การแตกกอ เปอร์เซ็นต์การติดเมล็ด น้ำหนักเมล็ดที่ความชื้น 14 เปอร์เซ็นต์ ของข้าว ทุกแปลงทดสอบ กรรมวิธีการปลูกแบบนาหว่าน อัตราเมล็ดพันธุ์ 30 กิโลกรัมต่อไร่ และกรรมวิธีการปลูกแบบนาดำ ระยะ ห่างระหว่างกอ 20x20 เซนติเมตร พบว่า ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ โดยพบว่าทุกตำหรับการทดลองผลของการแตกกอของข้าว เปอร์เซ็นต์การติดเมล็ดและน้ำหนักมล็ดที่ความชื้น 14 เปอร์เซ็นต์ ของข้าวมีค่าไม่แตกต่างกัน ผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 2558 ในรูปแบบของแปลงทดสอบในพื้นที่จริงของเกษตรกรเจ้าของแปลงและโดยให้เกษตรกรเจ้าของแปลงมีส่วนร่วมในการคิดร่วมกันกับนักวิชาการ ในพื้นที่ที่ทำแปลงทดสอบร่วมกับเกษตรกรในจังหวัดบุรีรัมย์และเชียงใหม่ สรุปได้ว่า ผลผลิตข้าวที่ปลูกบนดินกลุ่มชุดดิน 22 (ชุดดินสันทรายและชุดดินโนนแดง) มีเนื้อดินเป็นดินร่วนปนทราย ผลผลิตข้าวจะตอบสนองต่อการใส่อัตราปุ๋ยไนโตรเจนสูงสุดที่แนะนำโดยกรมวิชาการเกษตร ร่วมกับการปลูกพืชปุ๋ยสดปอเทือง 5 กิโลกรัมต่อไร่ และไถกลบปอเทืองระยะออกดอก (45-50 วัน หลังปลูก) มีแนวโน้มให้ผลผลิตข้าวสูงที่สุด ผลผลิตข้าวที่ปลูกบนดินกลุ่มชุดดิน 5 (ชุดดินหางดง) ซึ่งมีเนื้อดินเป็นดินร่วนเหนียวถึงดินเหนียว ดินมีเนื้อละเอียด ความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง ดินจะมีการตอบสนองน้อยต่อการใส่ปุ๋ยในปริมาณที่มากขึ้น เนื่องจากดินเหนียวจะมีการดูดยึดธาตุอาหารไว้ใน หลืบของแร่ดินเหนียวชนิด 2:1 และ 2:2:1 ทำให้ดินไม่สามารถปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืชได้หมดในทันที แต่จะค่อยๆ ปล่อยออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืชในภายหลัง (อัญชลี, 2553) ส่งผลให้ผลผลิตข้าวที่ปลูกในกลุ่มดินนี้มีแนวโน้มของผลผลิตที่เพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่จากการทำแปลงทดสอบพบว่าผลผลิตข้าวตอบสนองต่อการใส่อัตราปุ๋ยไนโตรเจนตามคำแนะนำจากโปรแกรมปุ๋ยรายแปลง มีแนวโน้มให้ผลผลิตข้าวสูงที่สุด รองลงมาคือการใส่ 0.5 เท่าของอัตราปุ๋ยไนโตรเจนตามคำแนะนำจากโปรแกรมปุ๋ยรายแปลง ส่วนผลผลิตข้าวที่ปลูกบนดินกลุ่มชุดดิน 33 (ชุดดินชำนิ) มีเนื้อดินเป็นดินร่วนปนทรายแป้ง เมื่อมีการดับแปลงสภาพพื้นที่เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำและทำนาได้ ข้าวจะตอบสนองต่อการใส่อัตราปุ๋ยไนโตรเจนสูงสุดที่แนะนำโดยกรมวิชาการเกษตรเช่นกัน และผลผลิตข้าวที่ปลูกบนดินกลุ่มชุดดิน 18 (ชุดดินพล) เป็นดินในกลุ่มดินซ้อนที่มีความไม่ต่อเนื่องทางธรณี (lithologic discontinuity) เป็นดินร่วน ดินร่วนปนทรายถึงดินร่วนเหนียวปนทราย ดินล่างเป็นดินร่วนเหนียวปนทราย จะมีการตอบสนองอัตราปุ๋ยไนโตรเจนตามคำแนะนำจากโปรแกรมปุ๋ยรายแปลง โดยข้าวจะให้ผลผลิตสูงสุด
บทคัดย่อ (EN): Study on chemical and organic fertilizers application according to the soil analysis for rice. For compare the management of fertilizer for rice. In the central region 2 provinces (Phra Nakhon Si Ayutthaya and Sing Buri), Eastern region 1 provinces (Chachoengsao), Northeastern region 3 provinces (Nakhon Ratchasima, Buriram and Sisaket), Northern region 1 provinces (Chiang Mai) The experiment was conducted in the fiscal year 2013 to the fiscal year 2014 in the areas of Sing Buri, Phranakhon Si Ayutthaya, Chachoengsao, Nakhon Ratchasima and Sisaket provinces. It is divided into a small experiment by the canal between the experiment. It was found that tiller, seeding percentage, grain yield at 14% of moisture content of all treatment. Seeds are sown on the puddled field by broadcasting method by seed rate of 30 kg / rai and Transplanting spacing of 20x20 cm was non significantly different at the 95% confidence interval. The results of the fiscal year 2015 are in the form of test plots in the actual area of the farmers plot and by the owner of the plots to participate in the common thinking with the academic. In conclusion, the yield of rice grown on soil group 22 (Sai and Ngd) had the texture of sandy loam the rices yields will respond to the highest recommended nitrogen fertilizer rates by the Department of Agriculture. In combination with the fresh manure, 5 kg /rai. The flowering period (45-50 days after planting) tended to yield the highest yield. The yield of rice grown on soil group 5 (Hd), which has the texture of clay loam to clay and moderate fertility. The soil will have less response to fertilizer application because clay is fixation a nutrients in inter layer of clay minerals type 2: 1 and 2: 2: 1 affected to unsuitable for nutrient release. (Suddhiprakarn, 2010). As a result, the yield of rice grown in this soil group is likely to increase. However, from the experimental plot, the rice yields were adjusted for the application of nitrogen fertilizer as recommended by the fertilizer application. The most likely rice yields secondly, 0.5 times the rate of nitrogen fertilizer recommended by the fertilizer application. The yield of rice cultivated on soil group 33 (Cni) had the texture of silt loam. The area was converted to allow water storage and farming. Rice will respond to the highest N fertilizer rates recommended by the Department of Agriculture as well.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ปุ๋ยเคมี
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาการใช้ปุ๋ยเคมี และปุ๋ยอินทรีย์ ตามค่าวิเคราะห์ดินสำหรับข้าว
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2558
การศึกษาการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ ตามค่าวิเคราะห์ดินสำหรับข้าวโพด การศึกษาการใช้ปุ๋ยเคมี และปุ๋ยอินทรีย์ ตามค่าวิเคราะห์ดินสำหรับอ้อย การศึกษาการใช้ปุ๋ยเคมี และปุ๋ยอินทรีย์ ตามค่าวิเคราะห์ดินสำหรับสับปะรด การศึกษาการใช้ปุ๋ยเคมี และปุ๋ยอินทรีย์ ตามค่าวิเคราะห์ดินสำหรับมันสำปะหลัง ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การสร้างต้นแบบการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด และมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติรวมทั้งความพึงพอใจของเกษตรกรในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดลองในพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดที่มีความเหมาะสมชั้น 2 ( การศึกษาวิธีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากเศษวัสดุอินทรีย์ที่ได้จากการตัดแต่งกิ่งไม้ ปัจจัยที่มีผลในการตัดสินใจของเกษตรกรที่มีต่อการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนปุ๋ยเคมีในการปลูกข้าว ชุดดินพัทลุง (กลุ่มชุดดินที่ 6) ทดสอบการจัดการดินที่เหมาะสมสำหรับปลูกข้าว โดยการไถกลบตอซังร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์น้ำและลดอัตราการใช้ปุ๋ยเคมี ในกลุ่มชุดดินที่ 3 ชุดดินบางกอก (Bk) ในเขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำปากพนัง โครงการเฉลิมพระเกียรติตามรอ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก