สืบค้นงานวิจัย
การจัดการน้ำภายหลังการติดผล เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาอาการเนื้อแก้วของผลมังคุด
คณพล จุฑามณี - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การจัดการน้ำภายหลังการติดผล เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาอาการเนื้อแก้วของผลมังคุด
ชื่อเรื่อง (EN): Water management after fruit set to avoid translucent flesh disorder in mangosteen (Garcinia mangostana L.).
บทคัดย่อ: อาการเนื้อแก้วและยางไหลเป็นลักษณะผิดปกติทางสรีรวิทยาที่เกี่ยวเนื่องกับการเคลื่อนที่ของน้ำภายในผลมังคุด ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อคุณภาพของผลมังคุดเพื่อการส่งออก การทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากลไกการไหลออกของน้ำจากผลมังคุด เพื่อความเข้าใจกลไกการเกิดและความสัมพันธ์กับอาการเนื้อแก้วและยางไหลที่เกิดขึ้นภายในผลมังคุด โดยจัดการให้มังคุดได้รับน้ำในช่วง 0 ถึง -50 Kpa ทำการวัดอัตราการคายน้ำซึ่งบ่งถึงอัตราการไหลออกและสูญเสียน้ำที่ผลและศึกษาลักษณะปากใบที่ผิวผลซึ่งแสดงถึงค่านำไหลในการเคลื่อนที่ของน้ำออกจากผิวผลในแต่ละระยะของการเจริญเติบโตของผล ตลอดจนเปรียบเทียบเปอร์เซ็นต์การเกิดเนื้อแก้วและยางไหลระหว่างผลที่อยู่ภายในและภายนอกทรงพุ่มจากต้นมังคุดอายุ 20 ปี พบว่าอัตราคายน้ำและค่านำไหลรวมของไอน้ำจากผิวผลสู่อากาศของผลมังคุดมีค่าลดลงเมื่ออายุผลมากขึ้น โดยในช่วงอายุผล 10 สัปดาห์ไปจนถึงในระยะเก็บเกี่ยวหรือระยะเข้าสู่สายเลือด (สัปดาห์ที่ 13) เป็นช่วงที่ผลมังคุดมีอัตราคายน้ำและค่านำไหลรวมต่ำ มีอัตราไหลออกของน้ำน้อย ซึ่งผลมังคุดที่อยู่ภายนอกทรงพุ่มจะมีอัตราคายน้ำสูงกว่าผลที่อยู่ภายในทรงพุ่ม เนื่องจากสภาพอากาศบริเวณผิวผลที่อยู่ภายนอกทรงพุ่มมีความแห้งมากกว่าภายในทรงพุ่ม โดยได้รับความเข้มแสงและแรงดึงระเหยน้ำของอากาศสูงกว่า เมื่อศึกษาลักษณะปากใบที่ผิวผลพบว่าปากใบของผลมังคุดเป็นแบบ paracytic type โดยจำนวนปากใบต่อหนึ่งตารางมิลลิเมตรมีค่าลดลงเมื่ออายุผลมากขึ้น ผลที่อยู่ภายนอกทรงพุ่มจะมีจำนวนปากใบต่อหนึ่งตารางมิลลิเมตร ขนาดเส้นรอบวง และความกว้างของช่องเปิดสูงกว่าผลที่อยู่ภายในทรงพุ่มทุกช่วงอายุผล แต่ขนาดของเซลล์คุมระหว่างผลมังคุดที่อยู่ภายในและภายนอกทรงพุ่มไม่มีความแตกต่างกัน และเมื่อเปรียบเทียบ คำสำคัญ: มังคุด ปากใบ อัตราการคายน้ำ ลักษณะพื้นผิวเปอร์เซ็นต์การเกิดเนื้อแก้วและยางไหลภายในผลพบว่าผลมังคุดที่อยู่ภายในทรงพุ่มจะมีเปอร์เซ็นต์การเกิดเนื้อแก้วสูงกว่าผลที่อยู่ภายนอกทรงพุ่ม แต่เปอร์เซ็นต์การเกิดยางไหลภายในผลเฉลี่ยของมังคุดทั้งภายในและภายนอกทรงพุ่มไม่แตกต่างกัน จากผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าผลที่อยู่ภายนอกทรงพุ่มมีอัตราการไหลออกของน้ำจากการคายน้ำทางผิวผลสูงกว่าผลที่อยู่ภายในทรงพุ่ม เนื่องจากผลที่อยู่ภายนอกทรงพุ่มได้รับความเข้มแสงและแรงดึงระเหยน้ำสูงกว่า จำนวนและการเปิดของมากกว่า ทำให้มีค่านำไหลปากใบและค่านำไหลรวมสูงกว่า ส่งผลให้ผลที่อยู่ภายนอกทรงพุ่มเกิดอาการเนื้อแก้วและยางไหลน้อยกว่าผลที่อยู่ภายในทรงพุ่ม อาการเนื้อแก้วและยางไหลเป็นลักษณะผิดปกติทางสรีรวิทยาที่เกี่ยวเนื่องกับการเคลื่อนที่ของน้ำภายในผลมังคุด ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อคุณภาพของผลมังคุดเพื่อการส่งออก การทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากลไกการไหลออกของน้ำจากผลมังคุด เพื่อความเข้าใจกลไกการเกิดและความสัมพันธ์กับอาการเนื้อแก้วและยางไหลที่เกิดขึ้นภายในผลมังคุด โดยจัดการให้มังคุดได้รับน้ำในช่วง 0 ถึง -50 Kpa ทำการวัดอัตราการคายน้ำซึ่งบ่งถึงอัตราการไหลออกและสูญเสียน้ำที่ผลและศึกษาลักษณะปากใบที่ผิวผลซึ่งแสดงถึงค่านำไหลในการเคลื่อนที่ของน้ำออกจากผิวผลในแต่ละระยะของการเจริญเติบโตของผล ตลอดจนเปรียบเทียบเปอร์เซ็นต์การเกิดเนื้อแก้วและยางไหลระหว่างผลที่อยู่ภายในและภายนอกทรงพุ่มจากต้นมังคุดอายุ 20 ปี พบว่าอัตราคายน้ำและค่านำไหลรวมของไอน้ำจากผิวผลสู่อากาศของผลมังคุดมีค่าลดลงเมื่ออายุผลมากขึ้น โดยในช่วงอายุผล 10 สัปดาห์ไปจนถึงในระยะเก็บเกี่ยวหรือระยะเข้าสู่สายเลือด (สัปดาห์ที่ 13) เป็นช่วงที่ผลมังคุดมีอัตราคายน้ำและค่านำไหลรวมต่ำ มีอัตราไหลออกของน้ำน้อย ซึ่งผลมังคุดที่อยู่ภายนอกทรงพุ่มจะมีอัตราคายน้ำสูงกว่าผลที่อยู่ภายในทรงพุ่ม เนื่องจากสภาพอากาศบริเวณผิวผลที่อยู่ภายนอกทรงพุ่มมีความแห้งมากกว่าภายในทรงพุ่ม โดยได้รับความเข้มแสงและแรงดึงระเหยน้ำของอากาศสูงกว่า เมื่อศึกษาลักษณะปากใบที่ผิวผลพบว่าปากใบของผลมังคุดเป็นแบบ paracytic type โดยจำนวนปากใบต่อหนึ่งตารางมิลลิเมตรมีค่าลดลงเมื่ออายุผลมากขึ้น ผลที่อยู่ภายนอกทรงพุ่มจะมีจำนวนปากใบต่อหนึ่งตารางมิลลิเมตร ขนาดเส้นรอบวง และความกว้างของช่องเปิดสูงกว่าผลที่อยู่ภายในทรงพุ่มทุกช่วงอายุผล แต่ขนาดของเซลล์คุมระหว่างผลมังคุดที่อยู่ภายในและภายนอกทรงพุ่มไม่มีความแตกต่างกัน และเมื่อเปรียบเทียบ คำสำคัญ: มังคุด ปากใบ อัตราการคายน้ำ ลักษณะพื้นผิวเปอร์เซ็นต์การเกิดเนื้อแก้วและยางไหลภายในผลพบว่าผลมังคุดที่อยู่ภายในทรงพุ่มจะมีเปอร์เซ็นต์การเกิดเนื้อแก้วสูงกว่าผลที่อยู่ภายนอกทรงพุ่ม แต่เปอร์เซ็นต์การเกิดยางไหลภายในผลเฉลี่ยของมังคุดทั้งภายในและภายนอกทรงพุ่มไม่แตกต่างกัน จากผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าผลที่อยู่ภายนอกทรงพุ่มมีอัตราการไหลออกของน้ำจากการคายน้ำทางผิวผลสูงกว่าผลที่อยู่ภายในทรงพุ่ม เนื่องจากผลที่อยู่ภายนอกทรงพุ่มได้รับความเข้มแสงและแรงดึงระเหยน้ำสูงกว่า จำนวนและการเปิดของมากกว่า ทำให้มีค่านำไหลปากใบและค่านำไหลรวมสูงกว่า ส่งผลให้ผลที่อยู่ภายนอกทรงพุ่มเกิดอาการเนื้อแก้วและยางไหลน้อยกว่าผลที่อยู่ภายในทรงพุ่ม
บทคัดย่อ (EN): Translucent flesh disorder (TFD) and gamboge disorder (GD) were the important problems for mangosteen export. The objective of this experiment was to examine the water flow out mechanism from the fruit surface of shaded (S) and non-shaded (NS) mangosteen (Garcinia mangostana L.) fruits during the fruit-growing season, and to determine mechanism and relation of TFD and GD. The Mangosteens were received water in the interval of 0 to -50 Kpa. Transpiration rate, percentage of TFD and GD was measured on fruits from 20-year-old trees. The results showed fruit transpiration rate and total fruit surface conductance to water vapor diffusion (gt) decreased during the increase of the fruit age. In the 10 weeks after fruit set to the harvest stage (13 weeks after fruit set), the fruit transpiration rate and gt was low, so the rate of water flow out from the fruit was low caused the mangosteen fruits had TFD and GD at this stage. During the fruit-growing season, NS fruits had the transpiration rate lower than S fruits because the climate around the NS fruit surface was drier (high light intensity and air vapor pressure deficit) than S fruits. The stomatal characteristics of fruit surface was also studied. The results showed that the stomata were paracytic type. The number of stomata per square millimeterdecreased during the increase of the fruit age. NS fruits had number of stomata per square millimeter, perimeter and width of stomatal pore larger than S fruits during the fruit-growing season, but guard cell dimensions had no difference between S and NS fruits. Percent of TFD in S fruits were higher than NS fruits but no difference in GD was observed in both NS and S fruits. The result indicated NS fruits had the rate of water flow out higher than S fruits due to NS fruit surface received high light intensity and high air vapour pressure deficited, which affecting to NS fruits had TFD and GD lower than S fruits. Translucent flesh disorder (TFD) and gamboge disorder (GD) were the important problems for mangosteen export. The objective of this experiment was to examine the water flow out mechanism from the fruit surface of shaded (S) and non-shaded (NS) mangosteen (Garcinia mangostana L.) fruits during the fruit-growing season, and to determine mechanism and relation of TFD and GD. The Mangosteens were received water in the interval of 0 to -50 Kpa. Transpiration rate, percentage of TFD and GD was measured on fruits from 20-year-old trees. The results showed fruit transpiration rate and total fruit surface conductance to water vapor diffusion (gt) decreased during the increase of the fruit age. In the 10 weeks after fruit set to the harvest stage (13 weeks after fruit set), the fruit transpiration rate and gt was low, so the rate of water flow out from the fruit was low caused the mangosteen fruits had TFD and GD at this stage. During the fruit-growing season, NS fruits had the transpiration rate lower than S fruits because the climate around the NS fruit surface was drier (high light intensity and air vapor pressure deficit) than S fruits. The stomatal characteristics of fruit surface was also studied. The results showed that the stomata were paracytic type. The number of stomata per square millimeterdecreased during the increase of the fruit age. NS fruits had number of stomata per square millimeter, perimeter and width of stomatal pore larger than S fruits during the fruit-growing season, but guard cell dimensions had no difference between S and NS fruits. Percent of TFD in S fruits were higher than NS fruits but no difference in GD was observed in both NS and S fruits. The result indicated NS fruits had the rate of water flow out higher than S fruits due to NS fruit surface received high light intensity and high air vapour pressure deficited, which affecting to NS fruits had TFD and GD lower than S fruits.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: พลังงานกำกับก้อนดิ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การจัดการน้ำภายหลังการติดผล เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาอาการเนื้อแก้วของผลมังคุด
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2551
โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการแก้ปัญหาการเกิดอาการเนื้อแก้ว และยางไหลในผลมังคุด โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อลดปัญหาการเกิดอาการเนื้อแก้วและยางไหลภายในผลมังคุด ผลิตภัณฑ์น้ำมังคุด 100% น้ำมังคุดพร้อมดื่มและแยมมังคุด การจัดการเพลี้ยแป้งในมังคุด การพัฒนาเครื่องดื่มน้ำมังคุดผสมเปลือกมังคุด การผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากน้ำมังคุด การพัฒนาเครื่องดื่มน้ำมังคุดผสมน้ำลูกหว้าเพื่อวิสาหกิจชุมชน เทคนิคการตรวจสอบเนื้อแก้วในมังคุดแบบไม่ทำลายโดยวิธีการวัดการดูดกลืนแสงในย่านใกล้อินฟราเรด เทคนิคการตรวจสอบเนื้อแก้วในมังคุดแบบไม่ทำลายโดยวิธีการวัดการดูดกลืนแสงในย่านใกล้อินฟราเรด ผลของการเตรียมมังคุดต่อคุณภาพในการเก็บรักษาภายหลังการแช่แข็ง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก