สืบค้นงานวิจัย
ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการต้านทานแคดเมียมและ exopolymer ที่ผลิตจากแบคทีเรียที่สามารถต้านทานแคดเมียม (Ralstonia sp. TAK1)
Anchulee Watcharamusik - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการต้านทานแคดเมียมและ exopolymer ที่ผลิตจากแบคทีเรียที่สามารถต้านทานแคดเมียม (Ralstonia sp. TAK1)
ชื่อเรื่อง (EN): Correlation between exopolymer production and resistance to cadmium toxicity in cadmium resistant bacterium Ralstonia sp TAK1
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Anchulee Watcharamusik
บทคัดย่อ: การผลิต exopolymer จากแบคทีเรียเป็นกลไกลหนึ่งที่แบคทีเรียใช้ในการต้านทานโลหะหนัก ซึ่ง exopolymer มีคุณสมบัติใน การเก็บกักความเป็นพิษของโลหะหนัก แบคทีเรีย Ralstonia sp. TAK1เป็นแบคทีเรียที่มีความสามรถในการต้านทานความเป็นพิษของ แคดเมียมสูง ซึ่งได้ทำการคัดแยกมาจากดินที่มีการปนเปื้อนของแคดเมียม ในการศึกษาครั้งนี้จะทำการศึกษา exopolymer ที่ แบคทีเรีย Ralstonia sp. TAK1 ผลิตขึ้นและ ความสามารถในการต้านทานความเป็นพิษของแคดเมียมที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาการเจริญเติบโต นอกจากนี้จะศึกษาความสามารถในการต้านทานโลหะหนักเมื่อทำการกระตุ้นด้วย แคดเมียมและสังกะสี จากการศึกษาพบว่า แบคทีเรีย Ralstonia sp. TAK1 สามารถต้านทานแคดเมียมคลอไรด์สูงถึง 3 โมลลาร์ และ ปริมาณ exopolymer ที่มีค่าสูงสุดอยู่ในช่วงกลางของระยะการเจริญเติบโต ช่วง stationary phase (24 ชม.) ซึ่งมีค่า 0.69 มิลลิกรัมของ น้ำตา ลกลูโคลส ต่อ มิลลิกรัมของน้ำหนักแห้งเซลล์ และจะเริ่มลดลงเมื่อเข้าสู่ระยะสุดท้ายของ stationary phase นอกจากยังพบว่าแบคทีเรีย สามารถผลิต exopolymer สูงสุดในระยะกลางช่วง stationary phase และในระยะนี้แบคทีเรียสามารถต้านทานความเป็นพิษของ แคดเมียมได้สูงกว่าระยะ exponential phase อีกด้วย ซึ่งจากผลการศึกษาจะเห็นได้ว่า exopolymerที่แบคทีเรีย Ralstonia sp. TAK1 ผลิตขึ้น มีส่วนช่วยในการต้านทานความเป็นพิษของแคดเมียม ในช่วงเวลา stationary phase ซึ่งจะแตกต่างจากระยะการ เจริญเติบโตของแบคทีเรียช่วง exponential phase ซึ่งมีระดับการต้านทานแคดเมียมกับการผลิต exopolymer ที่ไม่สอดคล้องกัน เพราะการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่วงนี้ น่าจะมีกลไกลอื่นที่แบคทีเรียใช้ในการต้านทานโลหะหนัก ส่วนแคดเมียมคลอไรด์ที่ความเข้มข้น 0.2 และ 0.4 มิลลิโมลาร์ สามารถกระตุ้นการสร้าง exopolymer ให้เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับเซลล์แบคทีเรียที่ไม่ถูกกระตุ้นด้วยแคดเมียมในระยะ กลางช่วง exponential phases เซลล์แบคทีเรียที่ถูกกระตุ้นด้วยแคดเมียมจะผลิต exopolymer ได้คงที่จากระยะกลางถึงระยะสุดท้าย ในช่วง stationary phase อย่างไรก็ตาม ปริมาณ exopolymer ที่สูงที่สุดที่แบคทีเรีย Ralstonia sp. TAK1 ผลิตได้จะอยู่ในช่วง การเจริญเติบโต stationary phase การใช้สารแคดเมียมและสังกะสีที่ความเข้มข้นต่ำในการกระตุ้นเซลล์เพื่อทดสอบความต้านทานความเป็นพิษของแคดเมียมและสังกะสีที่มี ความเข้มข้นสูงในกระบวนการต้านทานความเป็นพิษแบบ adaptive and cross-protective พบว่าเมื่อแบคทีเรีย Ralstonia sp. TAK1 ได้รับการ กระตุ้นเซลล์ด้วยแคดเมียมและสังกะสีที่ความเข้มข้นต่ำจะทำให้แบคทีเรียมีความสามารถในการต้านทานความเป็นพิษของ แคดเมียมและสังกะสีได้สูงกว่าเซลล์ที่ไม่ได้รับการกระตุ้นด้วยสารใดเลย เพราะว่าแบคทีเรียมีกลไกลการสร้างโปรตีนชนิดหนึ่งเพื่อป้องกันตัวเอง จากความเป็นพิษของแคดเมียมและสังกะสี การศึกษาครั้งนี้สามารถที่นำแบคทีเรีย Ralstonia sp. TAK1 หรือ exopolymer ที่ แบคทีเรียผลิตขึ้นไปประยุกต์ใช้หรือเป็นข้อมูลพื้นฐานในการบำบัด น้ำ ดิน และ ดินจะกอน ที่มีการเปื้อนของแคดเมียมได้
บทคัดย่อ (EN): Production of bacterial exopolymers is one mechanism of heavy metal resistance. It works by the binding of toxic metals to the exopolymers. Ralstonia sp. TAK1 is highly resistant to cadmium (Cd) isolated from Cd-contaminated soil. Due to its slimy colony on agar plate, exopolymer production in Ralstonia sp. TAK1 was determined. The ability of Ralstonia sp. TAK1 to resist to Cd toxicity at different growth phases was also tested. In addition, the induced adaptive and cross-protective resistances to Cd and zinc (Zn) were investigated. The results showed that Ralstonia sp. TAK1 exhibited high Cd resistance at a level up to 3.0 M CdCl2. The amount of exopolymers peaked at the mid-stationary phase (24 hr) (0.69 mg glucose equivalent/ mg dry weight) and sharply decreased at the latestationary phase. In addition to high production of exopolymers at the mid-stationary phase, Ralstonia sp. TAK1 was more resistant to Cd than that of exponential phase cells. These results suggested that the resistance to Cd toxicity in Ralstonia sp. TAK1 at the stationary phase is mediated by exopolymer production. Contradictorily, there was no correlation between Cd resistance level and exopolymer production of cells at exponential phase indicating that other mechanism(s) is responsible for Cd resistance of exponential phase cells. The concentrations of CdCl2 at 0.2 and 0.4 mM were able to induce an increase of exopolymers at the mid-exponential phases when compared to uninduced cells. Exopolymer production of Cd-induced cells was constant from the mid-stationary to latestationary phase. However, the highest exopolymer count was found in uninduced cells at stationary phase of growth. Exposure to a low concentration of Cd or Zn induced adaptive and crossprotective resistance to higher concentrations of Cd. Additionally, pretreatment of Ralstonia sp.TAK1 with an inducing concentration of either Cd or Zn conferred adaptive and cross-protective resistance against subsequent exposure to lethal dose of Zn. The induced protections required newly synthesized protein(s). Cd and Zn-induced adaptive and cross-protective resistance to Cd and Zn toxicity are important mechanisms used by Ralstonia sp.TAK1 to survive in heavy metal contaminated environments. These findings could provide a potential application of Ralstonia sp.TAK1 or its exopolymers for microbial based bioremediation in Cd-contaminated soils, sediments and waters
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=4731&obj_id=4550
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Physiological effect
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การผลิต exopolymer จากแบคทีเรียเป็นกลไกลหนึ่งที่แบคทีเรียใช้ในการต้านทานโลหะหนัก ซึ่ง exopolymer มีคุณสมบัติใน การเก็บกักความเป็นพิษของโลหะหนัก แบคทีเรีย Ralstonia sp. TAK1เป็นแบคทีเรียที่มีความสามรถในการต้านทานความเป็นพิษของ แคดเมียมสูง ซึ่งได้ทำการคัดแยกมาจากดินที่มีการปนเปื้อนของแคดเมียม ในการศึกษาครั้งนี้จะทำการศึกษา exopolymer ที่ แบคทีเรีย Ralstonia sp. TAK1 ผลิตขึ้นและ ความสามารถในการต้านทานความเป็นพิษของแคดเมียมที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาการเจริญเติบโต นอกจากนี้จะศึกษาความสามารถในการต้านทานโลหะหนักเมื่อทำการกระตุ้นด้วย แคดเมียมและสังกะสี จากการศึกษาพบว่า แบคทีเรีย Ralstonia sp. TAK1 สามารถต้านทานแคดเมียมคลอไรด์สูงถึง 3 โมลลาร์ และ ปริมาณ exopolymer ที่มีค่าสูงสุดอยู่ในช่วงกลางของระยะการเจริญเติบโต ช่วง stationary phase (24 ชม.) ซึ่งมีค่า 0.69 มิลลิกรัมของ น้ำตา ลกลูโคลส ต่อ มิลลิกรัมของน้ำหนักแห้งเซลล์ และจะเริ่มลดลงเมื่อเข้าสู่ระยะสุดท้ายของ stationary phase นอกจากยังพบว่าแบคทีเรีย สามารถผลิต exopolymer สูงสุดในระยะกลางช่วง stationary phase และในระยะนี้แบคทีเรียสามารถต้านทานความเป็นพิษของ แคดเมียมได้สูงกว่าระยะ exponential phase อีกด้วย ซึ่งจากผลการศึกษาจะเห็นได้ว่า exopolymerที่แบคทีเรีย Ralstonia sp. TAK1 ผลิตขึ้น มีส่วนช่วยในการต้านทานความเป็นพิษของแคดเมียม ในช่วงเวลา stationary phase ซึ่งจะแตกต่างจากระยะการ เจริญเติบโตของแบคทีเรียช่วง exponential phase ซึ่งมีระดับการต้านทานแคดเมียมกับการผลิต exopolymer ที่ไม่สอดคล้องกัน เพราะการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่วงนี้ น่าจะมีกลไกลอื่นที่แบคทีเรียใช้ในการต้านทานโลหะหนัก ส่วนแคดเมียมคลอไรด์ที่ความเข้มข้น 0.2 และ 0.4 มิลลิโมลาร์ สามารถกระตุ้นการสร้าง exopolymer ให้เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับเซลล์แบคทีเรียที่ไม่ถูกกระตุ้นด้วยแคดเมียมในระยะ กลางช่วง exponential phases เซลล์แบคทีเรียที่ถูกกระตุ้นด้วยแคดเมียมจะผลิต exopolymer ได้คงที่จากระยะกลางถึงระยะสุดท้าย ในช่วง stationary phase อย่างไรก็ตาม ปริมาณ exopolymer ที่สูงที่สุดที่แบคทีเรีย Ralstonia sp. TAK1 ผลิตได้จะอยู่ในช่วง การเจริญเติบโต stationary phase การใช้สารแคดเมียมและสังกะสีที่ความเข้มข้นต่ำในการกระตุ้นเซลล์เพื่อทดสอบความต้านทานความเป็นพิษของแคดเมียมและสังกะสีที่มี ความเข้มข้นสูงในกระบวนการต้านทานความเป็นพิษแบบ adaptive and cross-protective พบว่าเมื่อแบคทีเรีย Ralstonia sp. TAK1 ได้รับการ กระตุ้นเซลล์ด้วยแคดเมียมและสังกะสีที่ความเข้มข้นต่ำจะทำให้แบคทีเรียมีความสามารถในการต้านทานความเป็นพิษของ แคดเมียมและสังกะสีได้สูงกว่าเซลล์ที่ไม่ได้รับการกระตุ้นด้วยสารใดเลย เพราะว่าแบคทีเรียมีกลไกลการสร้างโปรตีนชนิดหนึ่งเพื่อป้องกันตัวเอง จากความเป็นพิษของแคดเมียมและสังกะสี การศึกษาครั้งนี้สามารถที่นำแบคทีเรีย Ralstonia sp. TAK1 หรือ exopolymer ที่ แบคทีเรียผลิตขึ้นไปประยุกต์ใช้หรือเป็นข้อมูลพื้นฐานในการบำบัด น้ำ ดิน และ ดินจะกอน ที่มีการเปื้อนของแคดเมียมได้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการต้านทานแคดเมียมและ exopolymer ที่ผลิตจากแบคทีเรียที่สามารถต้านทานแคดเมียม (Ralstonia sp. TAK1)
Anchulee Watcharamusik
มหาวิทยาลัยมหิดล
2551
การกำจัดแคดเมียมจากสารละลายโดยใช้ exopolymersที่ผลิตจากแบคที่เรียต้านทานแคดเมียม การศึกษาความสามารถในการผสมและความสามารถในการต้านทานโรคแอนแทรคโนสของลูกผสมข้ามชนิดของพริก การแยกและการคัดกรองแบคทีเรียที่สามารถผลิตก๊าซไฮโดรเจน สาร Exopolymer ที่ผลิตโดยแบคทีเรียต้านทานทองแดงและอิทธิพลของสารต่อการเคลื่อนที่ของทองแดงในดิน ความสามารถในการต้านทานการซึมผ่านของน้ำในคอนกรีตผสมเส้นใยภายหลังรับแรงกระทำ ความสามารถในการดูดซึมธาตุสังกะสีและผลต่อการลดปริมาณธาตุแคดเมียมในข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ความสามารถในการถ่ายทอดลักษณะต้านทานต่อโรคใบจุดสีดำและลักษณะทางเกษตรของถ้วลิสง ความสามารถในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของประเทศไทยเพื่อทดแทนการนำเข้า ผลกระทบของแคดเมียมต่อ metallothionein mRNA ในปลาตะเพียนขาว การคัดเลือกถั่วลันเตาเพื่อต้านทานโรคราแป้ง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก