สืบค้นงานวิจัย
การปลูกข้าวต้นเดียวและใช้น้ำน้อยบนพื้นที่สูง
จันทร์จิรา รุ่งเจริญ - สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: การปลูกข้าวต้นเดียวและใช้น้ำน้อยบนพื้นที่สูง
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จันทร์จิรา รุ่งเจริญ
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: “การปลูกข้าวต้นเดียวและใช้น้ำน้อยบนพื้นที่สูง” ชาวไทยภูเขาบนพื้นที่สูงของไทยนิยมปลูกข้าวเพื่อเป็นอาหารหลักสำหรับบริโภค ซึ่งทุกชุมชนปลูกข้าวเพื่อยังชีพสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร โดยเฉพาะเกษตรกรชนเผ่ากะเหรี่ยงที่ทำนาเป็นอาชีพหลัก บนพื้นที่สูงมีพื้นที่ปลูกข้าวถึงร้อยละ 60 ของพื้นที่เกษตรทั้งหมด แต่ก็ยังประสบปัญหาข้าวไม่เพียงพอต่อการบริโภคในบางชุมชนเนื่องจากผลผลิตต่อพื้นที่ต่ำ และพันธุ์ข้าวที่ปลูกบนพื้นที่สูงส่วนใหญ่คือพันธุ์ท้องถิ่นหรือพันธุ์พื้นเมือง (Local variety) ชุมชนบนพื้นที่สูงมีภูมิปัญญาการปลูกพันธุ์ข้าวที่หลากหลายพันธุ์ เนื่องจากแต่ละชุมชนมีพันธุ์ข้าวในชุมชนมากกว่า 1 พันธุ์ เกษตรกรจึงนิยมปลูกข้าวอย่างน้อย 2 พันธุ์ต่อฤดูกาลในพื้นที่แปลงติดกัน หรือมีการปลูกข้าวหลายพันธุ์ในแปลงเดียวกัน ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะช่วยลดความเสี่ยงจากความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ กล่าวคือหากข้าวพันธุ์ใดพันธุ์หนึ่งเสียหายจากภัยธรรมชาติก็ยังคงเหลือข้าวพันธุ์ที่อยู่รอดและสามารถให้ผลผลิตสำหรับบริโภค แต่การปลูกข้าวที่หลากหลายพันธุ์ต่อเนื่องเป็นเวลายาวโดยไม่มีวิธีการคัดเลือกและเก็บเมล็ดพันธุ์ที่ถูกต้องจะทำให้ข้าวเกิดการปนพันธุ์และกลายพันธุ์ ซึ่งจากการสำรวจของนักวิจัยพบว่า ลักษณะที่แสดงออกนั้นแตกต่างจากข้าวพันธุ์ปลูก อาทิ ลักษณะแตกต่างของทรงกอ สีกาบใบ วันโผล่รวง เมล็ดข้าวในแปลงสุก-แก่ไม่พร้อมกันทำให้เมล็ดข้าวร่วงหล่นก่อนระยะเก็บเกี่ยวหรือติดเขียว เมื่อเก็บเกี่ยวจึงได้ผลผลิตข้าวต่อพื้นที่ต่ำ ส่งผลให้อายุการเก็บรักษาข้าวสั้นลง และคุณภาพการหุงต้มลดลงตามไปด้วย วิธีการปลูกข้าวต้นเดียว เป็นวิธีการหนึ่งที่นำมาประยุกต์ใช้สำหรับผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวท้องถิ่นบนพื้นที่สูงให้บริสุทธิ์ ตรงตามพันธุ์ ลดการปนพันธุ์ของข้าว เกษตรกรสามารถนำวิธีการไปปฏิบัติได้ง่าย ไม่ยุ่งยากหรือขัดแย้งกับวิถีชีวิตของเกษตรกร และเกษตรกรสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพเพื่อใช้เองได้ โดยมีวิธีการ คือ การปักดำข้าว 1 ต้นต่อ 1 หลุม ระยะปักดำ 30 x 30 เซนติเมตร ซึ่งจะทำให้ได้รวงข้าวทุกรวงที่มีลักษณะเหมือนกันหมด เนื่องจากเจริญเติบโตมาจากเมล็ดข้าวเพียง 1 เมล็ด หากต้นข้าวนั้นๆ มีลักษณะแตกต่างจากข้าวพันธุ์ปลูก แสดงว่าข้าวต้นนั้นคือต้นพันธุ์ปนก็สามารถแยกกำจัดทั้งกอออกจากแปลงได้ง่าย เมื่อเทียบกับการปักดำกล้าหลายต้นต่อหลุมจะไม่สามารถแยกได้ว่าข้าวแต่ละรวงมาจากต้นกล้าหรือข้าวเมล็ดใด การแยกหรือกำจัดลักษณะพันธุ์ปนต้องแยกทีละรวงซึ่งล่าช้า ข้าวนาน้ำน้อย คือ การปลูกข้าวนาโดยควบคุมระดับน้ำในแปลงนาแบบน้ำแห้งสลับน้ำขังในระยะข้าวแตกกอ ลดการขังน้ำในแปลงนาไว้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้น้ำลงได้ 35-56% เมื่อเทียบกับนาน้ำขัง หลักการของนาน้ำน้อย  ปล่อยน้ำในนาแห้งเป็นช่วงๆ เพื่อเร่งการแตกหน่อต่อกอ  เพิ่มช่องว่างอากาศหรือออกซิเจนในดิน รากข้าวได้หายใจ ทำให้รากสมบูรณ์และแข็งแรง สร้างรากใหม่ (รากสีขาว)  ลดการระบาดของโรคและแมลงที่มีน้ำเป็นตัวนำพา เช่น โรคขอบใบแห้ง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยจักจั่นสีเขียว  ลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก (มีเทน ไนตรัสออกไซด์) ที่เกิดจากระบบการปลูกข้าวแบบนาน้ำขัง ข้อดีของการปลูกข้าวนาน้ำน้อย  เพิ่มช่องว่างอากาศหรือ O2 ในดิน ทำให้จุลินทรีย์พวก aerobic ทำงานได้ดี  ช่วยลดปัญหานาหล่ม หน้าดินจับตัวแน่น สามารถเดินตรวจแปลงกำจัดต้นข้าวพันธุ์ปนได้สะดวก  ลดการเกิดก๊าชเรือนกระจก เช่น ก๊าชมีเทน ก๊าชไนตรัสออกไซด์ถึงร้อยละ75 และร้อยละ 14 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับการปลูกข้าวแบบนาน้ำขัง  ลดการระบาดของโรคที่เกิดจากน้ำเป็นพาหะ เช่น เชื้อแบคทีเรียสาเหตุของโรคขอบใบแห้ง (Bacterial Leaf Blight) และลดแมลงที่อาศัยบริเวณกอข้าวกับผิวน้ำ เช่น เพลี้ย ขั้นตอนการควบคุมปริมาณน้ำในแปลงนา 1) หลังปักดำกล้า ขังน้ำในแปลงนา 10 – 15 วัน ให้ระดับน้ำสูงประมาณ 5 เซนติเมตรเหนือผิวดิน เพื่อให้ต้นข้าวตั้งตัวได้เร็ว 2) ระยะข้าวเริ่มแตกกอ (ตั้งแต่ข้าวอายุ 30 -60 วัน) สัปดาห์ที่ 2-3 หลังปักดำ ระบายน้ำออกจากแปลงนาให้แห้ง ปล่อยน้ำในแปลงให้แห้งสลับน้ำขังเป็นช่วงๆ เพื่อเร่งการแตกหน่อของข้าว 3) ระยะข้าวแตกกอ ตั้งท้อง-โผล่รวง ขังน้ำในแปลงนาระดับประมาณ 5 เซนติเมตรเหนือผิวดิน เพื่อเพิ่มความชื้นในแปลงนาสำหรับการผสมเกสรของดอกข้าว 4) ระยะก่อนเก็บเกี่ยว 7-10 วัน ระบายน้ำออกจากแปลงปล่อยให้แปลงนาแห้ง เพื่อเร่งการสุกแก่ของเมล็ดข้าวให้พร้อมกัน
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://www.youtube.com/channel/UCZo3CCtEp7HH0zFN6jiMfMw?view_as=subscriber
เผยแพร่โดย: สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: ข้าวบนพื้นที่สูง
หมวดหมู่:
รายละเอียด: ชาวไทยภูเขาบนพื้นที่สูงของไทยนิยมปลูกข้าวเพื่อเป็นอาหารหลักสำหรับบริโภค ซึ่งทุกชุมชนปลูกข้าวเพื่อยังชีพสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร โดยเฉพาะเกษตรกรชนเผ่ากะเหรี่ยงที่ทำนาเป็นอาชีพหลัก บนพื้นที่สูงมีพื้นที่ปลูกข้าวถึงร้อยละ 60 ของพื้นที่เกษตรทั้งหมด แต่ก็ยังประสบปัญหาข้าวไม่เพียงพอต่อการบริโภคในบางชุมชนเนื่องจากผลผลิตต่อพื้นที่ต่ำ และพันธุ์ข้าวที่ปลูกบนพื้นที่สูงส่วนใหญ่คือพันธุ์ท้องถิ่นหรือพันธุ์พื้นเมือง (Local variety) ชุมชนบนพื้นที่สูงมีภูมิปัญญาการปลูกพันธุ์ข้าวที่หลากหลายพันธุ์ เนื่องจากแต่ละชุมชนมีพันธุ์ข้าวในชุมชนมากกว่า 1 พันธุ์ เกษตรกรจึงนิยมปลูกข้าวอย่างน้อย 2 พันธุ์ต่อฤดูกาลในพื้นที่แปลงติดกัน หรือมีการปลูกข้าวหลายพันธุ์ในแปลงเดียวกัน ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะช่วยลดความเสี่ยงจากความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ กล่าวคือหากข้าวพันธุ์ใดพันธุ์หนึ่งเสียหายจากภัยธรรมชาติก็ยังคงเหลือข้าวพันธุ์ที่อยู่รอดและสามารถให้ผลผลิตสำหรับบริโภค แต่การปลูกข้าวที่หลากหลายพันธุ์ต่อเนื่องเป็นเวลายาวโดยไม่มีวิธีการคัดเลือกและเก็บเมล็ดพันธุ์ที่ถูกต้องจะทำให้ข้าวเกิดการปนพันธุ์และกลายพันธุ์ ซึ่งจากการสำรวจของนักวิจัยพบว่า ลักษณะที่แสดงออกนั้นแตกต่างจากข้าวพันธุ์ปลูก อาทิ ลักษณะแตกต่างของทรงกอ สีกาบใบ วันโผล่รวง เมล็ดข้าวในแปลงสุก-แก่ไม่พร้อมกันทำให้เมล็ดข้าวร่วงหล่นก่อนระยะเก็บเกี่ยวหรือติดเขียว เมื่อเก็บเกี่ยวจึงได้ผลผลิตข้าวต่อพื้นที่ต่ำ ส่งผลให้อายุการเก็บรักษาข้าวสั้นลง และคุณภาพการหุงต้มลดลงตามไปด้วย วิธีการปลูกข้าวต้นเดียว เป็นวิธีการหนึ่งที่นำมาประยุกต์ใช้สำหรับผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวท้องถิ่นบนพื้นที่สูงให้บริสุทธิ์ ตรงตามพันธุ์ ลดการปนพันธุ์ของข้าว เกษตรกรสามารถนำวิธีการไปปฏิบัติได้ง่าย ไม่ยุ่งยากหรือขัดแย้งกับวิถีชีวิตของเกษตรกร และเกษตรกรสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพเพื่อใช้เองได้ โดยมีวิธีการ คือ การปักดำข้าว 1 ต้นต่อ 1 หลุม ระยะปักดำ 30 x 30 เซนติเมตร ซึ่งจะทำให้ได้รวงข้าวทุกรวงที่มีลักษณะเหมือนกันหมด เนื่องจากเจริญเติบโตมาจากเมล็ดข้าวเพียง 1 เมล็ด หากต้นข้าวนั้นๆ มีลักษณะแตกต่างจากข้าวพันธุ์ปลูก แสดงว่าข้าวต้นนั้นคือต้นพันธุ์ปนก็สามารถแยกกำจัดทั้งกอออกจากแปลงได้ง่าย เมื่อเทียบกับการปักดำกล้าหลายต้นต่อหลุมจะไม่สามารถแยกได้ว่าข้าวแต่ละรวงมาจากต้นกล้าหรือข้าวเมล็ดใด การแยกหรือกำจัดลักษณะพันธุ์ปนต้องแยกทีละรวงซึ่งล่าช้า ข้าวนาน้ำน้อย คือ การปลูกข้าวนาโดยควบคุมระดับน้ำในแปลงนาแบบน้ำแห้งสลับน้ำขังในระยะข้าวแตกกอ ลดการขังน้ำในแปลงนาไว้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้น้ำลงได้ 35-56% เมื่อเทียบกับนาน้ำขัง หลักการของนาน้ำน้อย  ปล่อยน้ำในนาแห้งเป็นช่วงๆ เพื่อเร่งการแตกหน่อต่อกอ  เพิ่มช่องว่างอากาศหรือออกซิเจนในดิน รากข้าวได้หายใจ ทำให้รากสมบูรณ์และแข็งแรง สร้างรากใหม่ (รากสีขาว)  ลดการระบาดของโรคและแมลงที่มีน้ำเป็นตัวนำพา เช่น โรคขอบใบแห้ง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยจักจั่นสีเขียว  ลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก (มีเทน ไนตรัสออกไซด์) ที่เกิดจากระบบการปลูกข้าวแบบนาน้ำขัง ข้อดีของการปลูกข้าวนาน้ำน้อย  เพิ่มช่องว่างอากาศหรือ O2 ในดิน ทำให้จุลินทรีย์พวก aerobic ทำงานได้ดี  ช่วยลดปัญหานาหล่ม หน้าดินจับตัวแน่น สามารถเดินตรวจแปลงกำจัดต้นข้าวพันธุ์ปนได้สะดวก  ลดการเกิดก๊าชเรือนกระจก เช่น ก๊าชมีเทน ก๊าชไนตรัสออกไซด์ถึงร้อยละ75 และร้อยละ 14 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับการปลูกข้าวแบบนาน้ำขัง  ลดการระบาดของโรคที่เกิดจากน้ำเป็นพาหะ เช่น เชื้อแบคทีเรียสาเหตุของโรคขอบใบแห้ง (Bacterial Leaf Blight) และลดแมลงที่อาศัยบริเวณกอข้าวกับผิวน้ำ เช่น เพลี้ย ขั้นตอนการควบคุมปริมาณน้ำในแปลงนา 1) หลังปักดำกล้า ขังน้ำในแปลงนา 10 – 15 วัน ให้ระดับน้ำสูงประมาณ 5 เซนติเมตรเหนือผิวดิน เพื่อให้ต้นข้าวตั้งตัวได้เร็ว 2) ระยะข้าวเริ่มแตกกอ (ตั้งแต่ข้าวอายุ 30 -60 วัน) สัปดาห์ที่ 2-3 หลังปักดำ ระบายน้ำออกจากแปลงนาให้แห้ง ปล่อยน้ำในแปลงให้แห้งสลับน้ำขังเป็นช่วงๆ เพื่อเร่งการแตกหน่อของข้าว 3) ระยะข้าวแตกกอ ตั้งท้อง-โผล่รวง ขังน้ำในแปลงนาระดับประมาณ 5 เซนติเมตรเหนือผิวดิน เพื่อเพิ่มความชื้นในแปลงนาสำหรับการผสมเกสรของดอกข้าว 4) ระยะก่อนเก็บเกี่ยว 7-10 วัน ระบายน้ำออกจากแปลงปล่อยให้แปลงนาแห้ง เพื่อเร่งการสุกแก่ของเมล็ดข้าวให้พร้อมกัน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
เอกสารแนบ 1
เอกสารแนบ 2
เอกสารแนบ 3
เอกสารแนบ 4
โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดของข้าวบนพื้นที่สูง โครงการย่อยที่ 1: การวิจัยและพัฒนาการผลิตข้าวสำหรับชุมชนบนพื้นที่สูง โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดของข้าวบนพื้นที่สูง โครงการย่อยที่ 3: การศึกษาวิจัยปริมาณการใช้น้ำในแปลงนาข้าวด้วยระบบนาน้ำน้อย ชุดโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตข้าวบนพื้นที่สูง โครงการย่อย 1: การวิจัยเพิ่มผลผลิตผลิตข้าวสำหรับชุมชนบนพื้นที่สูง ชุดโครงการศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาวะโลกร้อนต่อการปลูกพืชบนพื้นที่สูงกรณีศึกษาโครงการหลวง โครงการย่อยที่ 1 การศึกษาแนวทางการลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต่อผลผลิตข้าวบนพื้นที่สูง การศึกษาวิจัยและคัดเลือกพันธุ์ข้าวบนพื้นที่สูงที่ทนทานต่อแมลงบั่วไม่ไวต่อช่วงแสงและมีคุณภาพพิเศษทางโภชนาการ การปลูกข้าวต้นเดียวและใช้น้ำน้อยบนพื้นที่สูง โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดของข้าวบนพื้นที่สูง โครงการย่อย 2 โครงการ ฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดินและการจัดการธาตุอาหารข้าว แป้งข้าวก่ำดัดแปรและผลิตภัณฑ์จากข้าวก่ำเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ เชิงป้องกัน ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การพัฒนากระบวนการต้นแบบในการทดสอบพันธุ์ข้าวลูกผสม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก