สืบค้นงานวิจัย
การใช้หญ้าขจรจบเป็นอาหารหยาบ ผลพลอยได้ของมันสำปะหลังจากการผลิตเอทานอลเป็นแหล่งอาหารพลังงานและพืชตระกูลถั่วท้องถิ่นเป็นแหล่งอาหารเสริมโปรตีนในการเลี้ยงโคนมสาว
ณัฏฐิณี ศิริมาจันทร์ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
ชื่อเรื่อง: การใช้หญ้าขจรจบเป็นอาหารหยาบ ผลพลอยได้ของมันสำปะหลังจากการผลิตเอทานอลเป็นแหล่งอาหารพลังงานและพืชตระกูลถั่วท้องถิ่นเป็นแหล่งอาหารเสริมโปรตีนในการเลี้ยงโคนมสาว
ชื่อเรื่อง (EN): Using of Pennisetum Grass as Roughage, Cassava By-Product as Based Energy and Local Legume as Protein Supplement for Feeding Dairy Heifer
บทคัดย่อ: การทดลองวิจัยประสิทธิภาพการใช้มันเส้นเป็นแหล่งอาหารพลังงานและพืชตระกูลถั่วท้องถิ่นเป็นแหล่งอาหารเสริมโปรตีนในอาหารข้นในการเลี้ยงโคนมสาวทดแทน เป็นการทดลองเพื่อพัฒนามันเส้นเป็นอาหารพลังงานและพืชตระกูลถั่วท้องถิ่นเป็นอาหารเสริมโปรตีนใช้เลี้ยงโคสาวทดแทน โดยใช้ระยะเวลาทดลอง 210 วัน ใช้โคหย่านมเพศเมียอายุระหว่าง 12-16 เดือนเป็นโคลูกผสม โฮลสไตน์ฟรีเชี่ยน(Holstein Friesian) สายเลือด 62.50-75.00 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 16 ตัว ใช้แผนการทดลองแบบ Completely Random Design (CRD) โดยแบ่งการทดลองออกเป็น 4 การทดลอง (treatment) แต่ละกลุ่มการทดลองประกอบด้วยโค 4 ตัว (replication) โดยให้แต่ละกลุ่มการทดลองได้รับอาหารทดลองดังนี้ กลุ่มการทดลองที่ 1 (T1) หญ้าขน + มันเส้น + อาหารข้น (control) กลุ่มการทดลองที่ 2 (T2) หญ้าขน + มันเส้น + อาหารข้นเสริมใบกระถิน กลุ่มการทดลองที่ 3 (T3) หญ้าขน + มันเส้น + อาหารข้นเสริมต้นถั่วลิสงแห้ง กลุ่มการทดลองที่ 4(T4) หญ้าขน + มันเส้น + อาหารข้นเสริมใบจามจุรี จากผลการทดลองพบว่า น้ำหนักเริ่มต้นการทดลอง ไม่มีความแตกต่างกัน ส่วนน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นตลอดการทดลองหรือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อวัน กลุ่มการทดลองที่ 1 เพิ่มขึ้นมากที่สุด 94.50 หรือ 0.45 กิโลกรัมต่อวัน รองลงมาคือ กลุ่มการทดลองที่ 2 89.75 หรือ 0.43 กิโลกรัมต่อวัน กลุ่มการทดลองที่ 3 84.25 หรือ 0.40 กิโลกรัมต่อวัน และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดคือกลุ่มที่ 4 82.75 หรือ 0.40 กิโลกรัมต่อวัน โดยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นตลอดการทดลอง และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อตัวต่อวัน กลุ่มการทดลองที่ 1 กับ 2 ไม่มีความแตกต่างกันเช่นเดียวกับกลุ่มการทดลองที่ 2 กับ 3 และกลุ่มที่ 3 กับ 4 ก็ไม่มีความแตกต่างกัน แต่กลุ่มการทดลองที่ 1 แตกต่างจากกลุ่มที่ 3 และ4 อย่างมีนัยสำคัญยิ่งที่ระดับ P < 0.01 ปริมาณการกินอาหารทั้งหมดตลอดการทดลองหรือต่อวันกลุ่มการทดลองที่ 1 กินมากที่สุด 4,116.50 กิโลกรัม หรือ 19.60 กิโลกรัมต่อวัน รองลงมาคือ กลุ่มการทดลองที่ 2 3,981.25 กิโลกรัมหรือ 18.96 กิโลกรัมต่อวัน กลุ่มการทดลองที่ 3 3,976.25 กิโลกรัมหรือ 18.94 กิโลกรัมต่อวัน ปริมาณการกินอาหารทั้งหมดตลอดการทดลอง น้อยที่สุดคือกลุ่มการทดลองที่ 1 3,973.50 กิโลกรัมหรือ 18.92 กิโลกรัมต่อวัน โดยปริมาณการกินอาหารทั้งหมดตลอดการหรือต่อวัน กลุ่มการทดลองที่ 1 มีความแตกต่างจากกลุ่มการทดลองที่ 2 3 และ4 อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติที่ระดับ P < 0.01 ค่าอาหารทั้งหมดตลอดการทดลองหรือต่อวันกลุ่มการทดลองที่ 1 ใช้มากที่สุด 13,065.75 หรือ 62.21 บาทต่อวัน รองลงมาคือ กลุ่มการทดลองที่ 2 10,986.38 กิโลกรัมหรือ 52.32 บาทต่อวัน กลุ่มการทดลองที่ 3 10,973.13 หรือ 52.26 บาทต่อวัน ค่าอาหารทั้งหมดตลอดการทดลองใช้น้อยที่สุดคือกลุ่มการทดลองที่ 4 10,961.00 หรือ 52.20 บาทต่อวัน โดยค่าอาหารทั้งหมดตลอดการหรือต่อวัน กลุ่มการทดลองที่ 1 มีความแตกต่างจากกลุ่มการทดลองที่ 2 3 และ4 อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติที่ระดับ P < 0.01 เมื่อคำนวณเป็นปริมาณอาหารที่เปลี่ยนเป็นน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม กลุ่มการทดลองที่ 4 ใช้ปริมาณอาหารเปลี่ยนเป็นน้ำหนักตัวมากที่สุดคือ 48.04 กิโลกรัม รองลงมาคือ กลุ่มการทดลองที่ 3 47.24 กิโลกรัม กลุ่มการทดลองที่ 2 44.54 กิโลกรัม และกลุ่มการทดลองที่ใช้ปริมาณอาหารเปลี่ยนเป็นน้ำหนักตัวน้อยที่สุดคือกลุ่ม ที่ 1 43.59 กิโลกรัม โดยกลุ่มการทดลองที่ 1 กับกลุ่มที่ 2 ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ เช่นเดียวกับกลุ่มที่ 2 กับกลุ่มที่ 3 และกลุ่มที่ 3 กับกลุ่มที่ 4 ก็ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่กลุ่มการทดลองที่ 1 มีความแตกต่างกับกลุ่มการทดลองที่ 3 และ 4 เช่นเดียวกันกับ กลุ่มที่ 4 ก็มีความแตกต่างกับกลุ่มการทดลองที่ 1 และ 2 อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติที่ระดับ P < 0.01 และคิดค่าอาหารที่เปลี่ยนเป็นน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม กลุ่มการทดลองที่ 1 ใช้ค่าอาหารเปลี่ยนเป็นน้ำหนักตัวมากที่สุดคือ 138.35 บาท รองลงมาคือ กลุ่มการทดลองที่ 4 132.53 บาท กลุ่มการทดลองที่ 3 130.38บาท และกลุ่มการทดลองที่ใช้ค่าอาหารเปลี่ยนเป็นน้ำหนักตัวน้อยที่สุดคือกลุ่ม ที่ 2 122.91 บาท โดยกลุ่มการทดลองที่ 1 กับกลุ่มที่ 3 และ 4 ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ เช่นเดียวกับกลุ่มที่ 2 กับกลุ่มที่ 3 ก็ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่กลุ่มการทดลองที่ 2 มีความแตกต่างกับกลุ่มการทดลองที่ 1 และ 4 อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติที่ระดับ P < 0.01 คำสำคัญ : มันเส้น อาหารพลังงาน พืชตระกูลถั่วท้องถิ่น อาหารเสริมโปรตีนในอาหารข้น โคนมสาวทดแทน
บทคัดย่อ (EN): The research was aimed to study effect of developing cassava chip as based energy and local legume as protein supplement for feeding dairy heifer replacement. The experiment lasted for 210 days. The subjects of the study were 62.50 – 75.00 % Holstein Friesian. Those 16 heifers were divided into 4 groups (treatment) and 4 replications (CRD), each were received cassava chip 1.00% BW., local legume added in concentrate 1.00% BW. and Para grass as roughage. in different treatments as follows: Treatment 1 (TI) Para grass + Cassava chip + concentrate (control) Treatment 2 (TII) Para grass + Cassava chip + concentrate added Leucaena leaf Treatment 3 (TIII) Para grass + Cassava chip + concentrate added Soybean hay Treatment 4 (TV) Para grass + Cassava chip + concentrate added Saman leaf The result showed that initial weight of dairy heifers were not significant but total weight increase or per day T1 was the highest weight increase among all four groups at the growth rate of 94.50 kg. or 0.45 kg. per day, the lower was T2 89.75 kg. or 0.43 kg. per day, T3 84.25 kg. or 0.40 kg. per day and the lowest weight increase was T4 82.75 kg. or 0.40 kg. per day respectively. Statically there were no significant different between T1 with T2 the same with T2 and T3 and also T3 with T4 but highly significant different among T1 with T3 and T4 at P<0.01. Total feed consumption or per day T1 was the highest consumer at 4,116.50 kg. or 19.60 kg. per day, the lower was T2 3,981.25 kg. or 18.96 kg. per day , T3 3,976.25 kg. or 18.94 kg. per day and the lowest was T1 3,973.50 kg. or 18.92 kg. per day. There were no significantly different among T2 T3 and T4 but highly significant different with T1 at P<0.01. For the total feed cost or per day the highest was T1 at 13,065.75 kg. or 62.21 kg. per day, the lower was T2 10,986.38 kg. or 52.32 kg. per day, T3 10,973.13 kg. or 52.26 kg. per day and the lowest was T4 10,961.00 kg. or 52.20 kg. per day. There were no significantly different among T2 T3 and T4 but highly significant different with T1 at P<0.01. For the feed conversion rate the highest rate was T4 48.04 kg. the lower was T3 47.24 kg., T2 44.54 kg. and the lowest rate was T1 43.59 kg. there were no significantly different with T1 and T2, as same with T2 and T3 and also T3 with T4 but highly significant different among T1 with T3 and T4 and also highly significant different among T4 with T1 and T2 at P<0.01. Counting for the cost of feed conversion rate, it was found that T1 used the highest cost at 138.35 Baht. respectively, the lower was T4 at 132.53 Baht. T3 130.38 Baht and the lowest was T2 at 122.91 Baht. Statically, there were no significantly different among T1 T3 and T4 and also no different between T2 and T3 but highly significant different between T2 with T1 and T4 at P<0.01. Keywords; Cassava chip, Based energy, Local legume, Protein supplement in concentrate, Dairy heifer replacement.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
คำสำคัญ: โคเนื้อ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การใช้หญ้าขจรจบเป็นอาหารหยาบ ผลพลอยได้ของมันสำปะหลังจากการผลิตเอทานอลเป็นแหล่งอาหารพลังงานและพืชตระกูลถั่วท้องถิ่นเป็นแหล่งอาหารเสริมโปรตีนในการเลี้ยงโคนมสาว
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
30 กันยายน 2559
การวิจัยประสิทธิภาพการใช้เปลือกสับปะรดเป็นอาหารหยาบผลพลอย ได้ของมันสำปะหลังจากการผลิตเอทานอลเป็นแหล่งอาหารพลังงานและพืชตระกูลถั่วท้องถิ่นเป็นแหล่งอาหารเสริมโปรตีนในการเลี้ยงโคเนื้อ อาหารจากมันสำปะหลัง การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การผลิตเอทานอลจากกากเนื้อในเมล็ดปาล์มน้ำมันโดยเชื้อผสมที่คัดเลือก ระดับโปรตีนและพลังงานที่เหมาะสมในอาหารปลาสลิด ระดับโปรตีนและพลังงานที่เหมาะสมในอาหารปลาอีกงวัยรุ่น การเปรียบเทียบผลผลิตลูกปลิงทะเล (Holothuria scabra Jaeger, 1833) ที่อนุบาลด้วยอาหารธรรมชาติกับอาหารเสริม ระดับโปรตีนและพลังงานที่เหมาะสมในอาหารสำหรับปลากระดี่หม้อ ระดับโปรตีนและพลังงานที่เหมาะสมในอาหารสำหรับปลาเทพาขนาดเล็ก การวิจัยประสิทธิภาพการใช้ฟางข้าวเป็นอาหารหยาบใช้มันเส้นเป็นแหล่งอาหารพลังงานและพืชตระกูลถั่วท้องถิ่นเป็นแหล่งอาหารเสริมโปรตีน ในการเลี้ยงลูกโคหย่านม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก