สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการดูดซับปริมาณคาร์บอนในสาหร่ายผักกาดทะเล (Ulva rigida C. Agardh, 1823) จากน้ำทิ้งนากุ้งทะเล
พรพิมล ทิวแพ - กรมประมง
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการดูดซับปริมาณคาร์บอนในสาหร่ายผักกาดทะเล (Ulva rigida C. Agardh, 1823) จากน้ำทิ้งนากุ้งทะเล
ชื่อเรื่อง (EN): Study on Absorption Carbon Quantitative of Sea Lettuce (Ulva rigida C. Agardh 1823) from Marine Shrimp Effluent.
บทคัดย่อ: รวบรวมสาหร่ายผักกาดทะเลในธรรมชาติ ปริมาณ 50 100 150 200 250 และ 300 กรัม มาวิเคราะห์การดูดซับปริมาณอินทรีย์คาร์บอนในสาหร่าย พบว่าสาหร่ายน้ำหนัก 200 กรัม ดูดซับปริมาณอินทรีย์ คาร์บอนหมดเร็วที่สุดในชั่วโมงที่ 5 ดังนั้นจึงเลือกนำสาหร่ายปริมาณ 200 กรัม ไปศึกษาปริมาณคาร์บอน (คาร์บอนสะสม) ที่สาหร่ายผักกาดทะเล ระยะต้นอ่อน ต้นเต็มวัย และต้นแก่ สะสมไว้พบว่า ปริมาณการสะสม คาร์บอนของสาหร่ายในธรรมชาติ มีค่า 12.65, 12.40 และ 13.85 กรัม/100 กรัม ตามลำดับ เลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเลทั้ง 3 ระยะ ในตู้กระจกที่บรรจุน้ำจากนากุ้งขนาดโดยประมาณ กว้าง x ยาว x สูง เท่ากับ 1 x 2 x 1 ฟุต จำนวน 12 ตู้ ให้แสงในปริมาณ 1,200 Lux เมื่อนำสาหร่ายผักกาดทะเล ทั้ง 3 ระยะมาศึกษาปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต้นสาหร่ายผักกาดทะเลดูดซับจากน้ำทิ้งนากุ้ง พบว่าปริมาณ การสะสมคาร์บอนของสาหร่ายทะเลระยะต้นอ่อน ต้นเต็มวัย และต้นแก่ มีค่าเฉลี่ย 14.67?0.25, 16.57?0.15 และ 15.20?0.26 กรัม/100 กรัม ตามลำดับ เมื่อทดสอบทางสถิติพบว่าทั้งสามระยะของสาหร่ายผักกาดทะเล มี ความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P0.05) การเติมคาร์บอนระดับใกล้เคียงธรรมชาติ พบว่ามีค่าเฉลี่ย 21.57?0.85, 22.23?0.12 และ 24.17?0.42 กรัม/100 กรัม ตามลำดับ เมื่อทดสอบทางสถิติพบว่าปริมาณการสะสมคาร์บอน ของระยะต้นแก่ มีความแตกต่างกับ ระยะต้นอ่อน และต้นเต็มวัย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P0.05) การเติมคาร์บอนระดับอิ่มตัว พบว่ามีค่าเฉลี่ย 21.17?0.21, 22.22?0.50 และ 23.57?0.72 กรัมต่อ 100 กรัม ตามลำดับ เมื่อทดสอบทางสถิติพบว่าทั้ง 3 ระยะ ของสาหร่ายผักกาดทะเล มีความแตกต่างกันอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) คำสำคัญ : การเพาะเลี้ยงสาหร่า
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมประมง
คำสำคัญ: น้ำทิ้งจากนากุ้งทะเล
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

พรพิมล ทิวแพ. "การศึกษาการดูดซับปริมาณคาร์บอนในสาหร่ายผักกาดทะเล (Ulva rigida C. Agardh, 1823) จากน้ำทิ้งนากุ้งทะเลStudy on Absorption Carbon Quantitative of Sea Lettuce (Ulva rigida C. Agardh 1823) from Marine Shrimp Effluent.". กรมประมง. 2555

พรพิมล ทิวแพ. "การศึกษาการดูดซับปริมาณคาร์บอนในสาหร่ายผักกาดทะเล (Ulva rigida C. Agardh, 1823) จากน้ำทิ้งนากุ้งทะเลStudy on Absorption Carbon Quantitative of Sea Lettuce (Ulva rigida C. Agardh 1823) from Marine Shrimp Effluent.". กรมประมง. 2555. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาการดูดซับปริมาณคาร์บอนในสาหร่ายผักกาดทะเล (Ulva rigida C. Agardh, 1823) จากน้ำทิ้งนากุ้งทะเล
พรพิมล ทิวแพ
กรมประมง
31 มีนาคม 2555
กรมประมง
ผลของปุ๋ยยูเรียต่อการเจริญเติบโตของสาหร่ายผักกาดทะเล (Ulva rigida C. Agradh, 1823) การพัฒนาโปรตีนเพื่อควบคุมโรคไวรัสของกุ้งทะเลจากสาหร่ายด้วยวิธีรีคอมบิแนนท์ การศึกษาการปนเปื้อนของไนโตรฟิวแรนส์ในกุ้งก้ามกรามและกุ้งทะเล การเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเล (Ulva rigida C. Agardh, 1823) ด้วยน้ำหมักชีวภาพและปุ๋ยเคมี วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพจากสาหร่ายผักกาดทะเล (Ulva rigida C. Agardh, 1823) การประเมินความเหมาะสมของสาหร่ายพริกไทย (Caulerpa lentillifera) สาหร่ายผักกาดทะเล (Ulva rigida ) และสาหร่ายมงกุฏหนาม (Acanthophora spicifera) ในการใช้เป็นวัตถุดิบอาหารของปลานวลจันทร์ทะเล (Chanos chanos ความไวต่อยาต้านจุลชีพและสภาวะการดื้อยาของเชื้อ Vibrio parahaemolyticus จากกุ้งทะเลที่เป็นโรคและแหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่เลี้ยงกุ้งทะเลจังหวัดสงขลา ประสิทธิภาพของสารฟอกฆ่าเชื้อในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อสาหร่ายทะเลสกุล Gracilaria และ Ulva ผลของความเข้มแสง อุณหภูมิ ปริมาณไนโตรเจนและฟอสเฟตที่มีต่อการเจริญเติบโตของสาหร่ายผักกาดทะเล (Ulva rigida C. Agardh, 1826) การปลูกพืชไร่หลังนา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair