สืบค้นงานวิจัย
รายงานการวิจัย เรื่อง การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นไม้แกะสลักบ้านหลุก
ปิ่นฤทัย ยะแก้ว - มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
ชื่อเรื่อง: รายงานการวิจัย เรื่อง การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นไม้แกะสลักบ้านหลุก
ชื่อเรื่อง (EN): The knowledge management of wood carving local wisdom at Baan Look, Mae Tha, Lampang
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ปิ่นฤทัย ยะแก้ว
บทคัดย่อ: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาท้องถิ่นไม้แกะสลักบ้านหลุกในด้านต่าง ๆ ได้แก่บริบทชุมชน การผลิต วัตถุดิบ เศษวัสดุ การตลาด และการถ่ายทอดความรู้ด้านการแกะสลักไม้ โดยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพซึ่งเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ การสังเกต การสนทนากลุ่ม และข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาพบว่า การแกะสลักไม้บ้านหลุกมีอยู่ในกลุ่มหมู่บ้านในตำบลนาครัว ได้แก่บ้านหลุก บ้านหลุกแพะ บ้านหนามปู่ย่า บ้านหลุกใต้ และบ้านน้ำโท้ง ชาวบ้านประมาณร้อยละแปดสิบหรือหกร้อยหลังคาเรือนประกอบอาชีพไม้แกะสลักควบคู่กับการเกษตร งานไม้แกะสลักของบ้านหลุกอาจแบ่งได้เป็นห้ารูปแบบได้แก่ ภาพนูนสูง ภาพลอยตัว งานแกะแล้วประกอบ งานกลึง และงานฉลุ โดยรูปแบบเหล่านี้อาจเป็นรูปแบบที่สืบทอดกันมา อาจเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ประกอบกับสิ่งที่ช่างได้เคยพบมาจากที่ต่าง ๆ หรือได้รับการถ่ายทอดจากผู้อื่น รวมทั้งที่เป็นรูปแบบที่ถูกกำหนดมาจากลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่คือร้านค้าในบ้านถวาย ชาวบ้านอาจทำงานแกะสลักภายในครัวเรือน หรือาจรับจ้างแหล่งผลิตที่เรียกว่า "ปาง" โดยได้รับค่าจ้างต่อชิ้น โดยมีเครื่องมือหลักคือสิ่วประมาณ 20 อันกับค้อนไม้ซึ่งสั่งทำจากช่างตีเหล็กในพื้นที่ใกล้เคียง วัตถุดิบสำคัญคือไม้ฉำฉาซึ่งซื้อมาจากพื้นที่ใกล้เคียงและต่างอำเภหรือจากจังหวัดแพร่ สุโขทัย โดยจะมีนายหน้าเป็นผู้ติดต่อให้ ชาวบ้านทั่วไปมักจะปลูกไม้ฉำฉาเพื่อเลี้ยงครั่ง และตัดต้นขายเมื่อครบอายุการเลี้ยงครั่ง วิธีการแกะสลักเริ่มตั้งแต่การขึ้นรูปหยาบด้วยเลื่อยยนต์ การแกะขึ้นรูปและการเก็บรายละเอียดรวมทั้งวานสี โดยเศษไม้ฉำฉาที่ตกอยู่ตามพื้นมักถูกขายเป็นรถเพื่อเป็นเชื้อเพลงของโรงงานปูนซีเมนต์ ตลาดหลักอยู่ที่บ้านถวายโดยจะขายเป็นชิ้นงานไม่ทาสี หรือชิ้นงานสำเร็จที่ชาวบ้านใกล้เคียงนำไปเร่ขายตามแหล่งท่องเที่ยว บางแห่งอาจมีหน้าร้านของตนเองในหมู่บ้าน แต่ยังไม่มีการพัฒนาตราสินค้า และการส่งเสริมการขายที่เป็นรูปแบบชัดเจน มีเพียงหน่วยงานรัฐที่เข้ามาช่วยประชาสัมพันธ์ในรูปของป้ายทางเข้า แผ่นพับ และการออกงานแสดงสินค้าตามโอกาส การถ่ายทอดความรู้งานแกะสลักมักเป็นการสอนจากการลงมือทำงานจริงในปางแกะสลัก โดยจะใช้เวลาประมาณ 20 วัน จึงจะสามารถทำเองได้ นอกจากนั้นยังมีการสอนเนื้อหาที่เกี่ยวกับการแกะสลักในโรงเรียนประถมของหมู่บ้านให้แก่เด็กชั้น ป. 6 โดยเป็นความรู้เกี่ยวกับชุมชนและทักษะพื้นฐานในการแกะสลัก
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=18&RecId=92&obj_id=1143
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
คำสำคัญ: การแกะสลักไม้
คำสำคัญ (EN): 736.4
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
รายละเอียด: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาท้องถิ่นไม้แกะสลักบ้านหลุกในด้านต่าง ๆ ได้แก่บริบทชุมชน การผลิต วัตถุดิบ เศษวัสดุ การตลาด และการถ่ายทอดความรู้ด้านการแกะสลักไม้ โดยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพซึ่งเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ การสังเกต การสนทนากลุ่ม และข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาพบว่า การแกะสลักไม้บ้านหลุกมีอยู่ในกลุ่มหมู่บ้านในตำบลนาครัว ได้แก่บ้านหลุก บ้านหลุกแพะ บ้านหนามปู่ย่า บ้านหลุกใต้ และบ้านน้ำโท้ง ชาวบ้านประมาณร้อยละแปดสิบหรือหกร้อยหลังคาเรือนประกอบอาชีพไม้แกะสลักควบคู่กับการเกษตร งานไม้แกะสลักของบ้านหลุกอาจแบ่งได้เป็นห้ารูปแบบได้แก่ ภาพนูนสูง ภาพลอยตัว งานแกะแล้วประกอบ งานกลึง และงานฉลุ โดยรูปแบบเหล่านี้อาจเป็นรูปแบบที่สืบทอดกันมา อาจเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ประกอบกับสิ่งที่ช่างได้เคยพบมาจากที่ต่าง ๆ หรือได้รับการถ่ายทอดจากผู้อื่น รวมทั้งที่เป็นรูปแบบที่ถูกกำหนดมาจากลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่คือร้านค้าในบ้านถวาย ชาวบ้านอาจทำงานแกะสลักภายในครัวเรือน หรือาจรับจ้างแหล่งผลิตที่เรียกว่า "ปาง" โดยได้รับค่าจ้างต่อชิ้น โดยมีเครื่องมือหลักคือสิ่วประมาณ 20 อันกับค้อนไม้ซึ่งสั่งทำจากช่างตีเหล็กในพื้นที่ใกล้เคียง วัตถุดิบสำคัญคือไม้ฉำฉาซึ่งซื้อมาจากพื้นที่ใกล้เคียงและต่างอำเภหรือจากจังหวัดแพร่ สุโขทัย โดยจะมีนายหน้าเป็นผู้ติดต่อให้ ชาวบ้านทั่วไปมักจะปลูกไม้ฉำฉาเพื่อเลี้ยงครั่ง และตัดต้นขายเมื่อครบอายุการเลี้ยงครั่ง วิธีการแกะสลักเริ่มตั้งแต่การขึ้นรูปหยาบด้วยเลื่อยยนต์ การแกะขึ้นรูปและการเก็บรายละเอียดรวมทั้งวานสี โดยเศษไม้ฉำฉาที่ตกอยู่ตามพื้นมักถูกขายเป็นรถเพื่อเป็นเชื้อเพลงของโรงงานปูนซีเมนต์ ตลาดหลักอยู่ที่บ้านถวายโดยจะขายเป็นชิ้นงานไม่ทาสี หรือชิ้นงานสำเร็จที่ชาวบ้านใกล้เคียงนำไปเร่ขายตามแหล่งท่องเที่ยว บางแห่งอาจมีหน้าร้านของตนเองในหมู่บ้าน แต่ยังไม่มีการพัฒนาตราสินค้า และการส่งเสริมการขายที่เป็นรูปแบบชัดเจน มีเพียงหน่วยงานรัฐที่เข้ามาช่วยประชาสัมพันธ์ในรูปของป้ายทางเข้า แผ่นพับ และการออกงานแสดงสินค้าตามโอกาส การถ่ายทอดความรู้งานแกะสลักมักเป็นการสอนจากการลงมือทำงานจริงในปางแกะสลัก โดยจะใช้เวลาประมาณ 20 วัน จึงจะสามารถทำเองได้ นอกจากนั้นยังมีการสอนเนื้อหาที่เกี่ยวกับการแกะสลักในโรงเรียนประถมของหมู่บ้านให้แก่เด็กชั้น ป. 6 โดยเป็นความรู้เกี่ยวกับชุมชนและทักษะพื้นฐานในการแกะสลัก
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ปิ่นฤทัย ยะแก้ว. "รายงานการวิจัย เรื่อง การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นไม้แกะสลักบ้านหลุกThe knowledge management of wood carving local wisdom at Baan Look, Mae Tha, Lampang". มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง. ม.ป.ป.

ปิ่นฤทัย ยะแก้ว. "รายงานการวิจัย เรื่อง การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นไม้แกะสลักบ้านหลุกThe knowledge management of wood carving local wisdom at Baan Look, Mae Tha, Lampang". มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง. ม.ป.ป.. Print.



TARR Wordcloud:
รายงานการวิจัย เรื่อง การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นไม้แกะสลักบ้านหลุก
ปิ่นฤทัย ยะแก้ว
มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
2549-05
รายงานโครงการวิจัยเรื่อง การวิเคราะห์หาปริมาณสารอัลฟาไฮดรอกซี แอซิค (เอเอชเอ) ในมะขามหวาน การศึกษาเพื่อการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นในจังหวัดยโสธร การคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์กบเพื่อประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมเกษตร : รายงานผลการวิจัย การศึกษาอนุกรมวิทยาธานของพันธุ์ไม้ประเภทมีเนื้อไม้ บริเวณสถาบันราชภัฏอุบลราชธานี งานวิจัยเรื่อง ชุดทดสอบหาสารปราบศัตรูพืชที่ตกค้างในผัก การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นการทอผ้าบ้านคลองเตย ตำบลบึงกอก อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก บทบาทของสถาบันอุดมศึกษาในการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นทางการเกษตร ความหลากหลายของพืชสมุนไพรและการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนตามภูมิปัญญาท้องถิ่นในจังหวัดอุบลราชธานี การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นหัตถกรรมหินอ่อนพรานกระต่าย อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร งานวิจัย เรื่องการศึกษาและพัฒนางานช่างฝีมือภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติแบบเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ : กรณีศึกษาจังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดตาก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair