สืบค้นงานวิจัย
การกำจัดกำมะถันออกจากสารประกอบอินทรีย์ในน้ำมันโดยใช้เชื้อจุลินทรีย์
Jantana Tangaromsuk - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การกำจัดกำมะถันออกจากสารประกอบอินทรีย์ในน้ำมันโดยใช้เชื้อจุลินทรีย์
ชื่อเรื่อง (EN): Sulfur-selective biodesulfurrizatin of organosulfur compounds in model oils and distillate frections
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Jantana Tangaromsuk
บทคัดย่อ: การกำจัดกำมะถันออกจากน้ำมันโดยใช้ชีววิธี หรือ ไบโอดีซัลเฟอไรเซชั่น (biodesulfurization) ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการช่วยผู้ผลิตสามารถผลิตน้ำมันที่มีค่ากำมะถันตามมาตรฐานใหม่ที่เข้มงวดมากขี้นได้ โดยวิธีการนี้สามารถนำไปใช้แทนหรือช่วยเสริมให้การกำจัดกำมะถันโดยวิธีทางเคมี หรือ ไฮโดรดีซัลเฟอไรเซชั่น (hydrodesulfurization) มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้น วิธีไบโอดีซัลเฟอไรเซชั่น จึงเป็นเรื่องที่มีผู้ศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการศึกษาเกี่ยวกับวิธีการดังกล่าวมากมาย แต่วิธีการนี้ก็ยังไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์จริงในระบบผลิตน้ำมันได้ ทั้งนี้ เหตุผลข้อหนึ่ง คือ ต้นทุนการผลิตเชื้อจุลินทรีย์ที่จะนำไปใช้สูงเกินไป เพื่อที่จะลดต้นทุนนี้ การพัฒนาเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดกำมะถันออกจากสารประกอบอินทรีย์ในน้ำมันที่หลากหลาย จึงเป็นสิ่งจำเป็น ในการศึกษาครั้งนี้ ได้ทำการแยกเชื้อจุลินทรีย์ที่สามารถเจริญเติบโตในอาหารเลี้ยงเชื้อที่มีสารประกอบอินทรีย์เป็นแหล่งของกำมะถันเป็นจำนวน 25 สายพันธุ์ โดยเชื้อจุลินทรีย์ที่แยกได้จะถูกนำไปศึกษาเกี่ยวกับการกำจัดกำมะถันออกจากสารไดเบนโซไทโอฟิน (dibenzothiophene) เชื้อจุลินทรีย์ 6 ชนิดที่สามารถกำจัดกำมะถันออกจากสารดังกล่าวได้ในอัตราที่สูงได้ถูกคัดเลือกและจำแนกชนิด หลังจากนั้นได้ทำการศึกษาความจำเพาะในการกำจัดกำมะถันออกจากซับสเตรท (substrate specificity) ของเชื้อจุลินทรีย์ที่ถูกคัดเลือก ซึ่งพบว่าสายพันธุ์ R3 มีความสามารถดีที่สุด ดังนั้นจึงได้ทำการศึกษาการกำจัดกำมะถันในน้ำมันโดยเชื้อจุลินทรีย์ชนิดนี้ นอกจากนี้ ยังได้ทดลองเทคนิคการผลิตเชื้อจุลินทรีย์ Rhodococcus erythropolis strain IGTS8 ในปริมาณมาก โดยทำการเพาะเลี้ยงแบคทีเรียดังกล่าวในเฟอร์เมนเตอร์ โดยเติมเอทานอลและซัลเฟตในอัตราและสัดส่วนที่เหมาะสม ซึ่งวิธีการนี้สามารถใช้เพื่อลดต้นทุนการผลิตได้ และได้ทำการศึกษาการกำจัดกำมะถันออกจากสาร ไดเบนโซไทโอฟินในระบบทูเฟส ซึ่งจากผลการทดลอง พบว่า การสะสมของซัลเฟต ซึ่งเป็นผลผลิตสุดท้ายยับยั้งการกำจัดกำมะถันในระบบ แต่เมื่อนำ dilution method with separation unit มาใช้ในการกำจัดซัลเฟตออกจากระบบ พบว่า อัตราการกำจัดกำมะถันมีค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนจบการทดลอง
บทคัดย่อ (EN): s assay, the results revealed that all the selected strains could not desulfurize DBT via the sulfur-specific pathway. Based on the data obtained from the substrate specificity experiments, the strain R3, Rhodococcus gordoniae, exhibited the broadest substrate specificity. In addition, biodesulfurization of DBT in model oil with a high cell density culture of the strain IGTS8 was investigated. It was found that the inhibition effect of sulfate on desulfurization activity of the bacterium was solved by using the dilution with separation unit
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=4261&obj_id=4483
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Substrate Specificity
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การกำจัดกำมะถันออกจากน้ำมันโดยใช้ชีววิธี หรือ ไบโอดีซัลเฟอไรเซชั่น (biodesulfurization) ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการช่วยผู้ผลิตสามารถผลิตน้ำมันที่มีค่ากำมะถันตามมาตรฐานใหม่ที่เข้มงวดมากขี้นได้ โดยวิธีการนี้สามารถนำไปใช้แทนหรือช่วยเสริมให้การกำจัดกำมะถันโดยวิธีทางเคมี หรือ ไฮโดรดีซัลเฟอไรเซชั่น (hydrodesulfurization) มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้น วิธีไบโอดีซัลเฟอไรเซชั่น จึงเป็นเรื่องที่มีผู้ศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการศึกษาเกี่ยวกับวิธีการดังกล่าวมากมาย แต่วิธีการนี้ก็ยังไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์จริงในระบบผลิตน้ำมันได้ ทั้งนี้ เหตุผลข้อหนึ่ง คือ ต้นทุนการผลิตเชื้อจุลินทรีย์ที่จะนำไปใช้สูงเกินไป เพื่อที่จะลดต้นทุนนี้ การพัฒนาเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดกำมะถันออกจากสารประกอบอินทรีย์ในน้ำมันที่หลากหลาย จึงเป็นสิ่งจำเป็น ในการศึกษาครั้งนี้ ได้ทำการแยกเชื้อจุลินทรีย์ที่สามารถเจริญเติบโตในอาหารเลี้ยงเชื้อที่มีสารประกอบอินทรีย์เป็นแหล่งของกำมะถันเป็นจำนวน 25 สายพันธุ์ โดยเชื้อจุลินทรีย์ที่แยกได้จะถูกนำไปศึกษาเกี่ยวกับการกำจัดกำมะถันออกจากสารไดเบนโซไทโอฟิน (dibenzothiophene) เชื้อจุลินทรีย์ 6 ชนิดที่สามารถกำจัดกำมะถันออกจากสารดังกล่าวได้ในอัตราที่สูงได้ถูกคัดเลือกและจำแนกชนิด หลังจากนั้นได้ทำการศึกษาความจำเพาะในการกำจัดกำมะถันออกจากซับสเตรท (substrate specificity) ของเชื้อจุลินทรีย์ที่ถูกคัดเลือก ซึ่งพบว่าสายพันธุ์ R3 มีความสามารถดีที่สุด ดังนั้นจึงได้ทำการศึกษาการกำจัดกำมะถันในน้ำมันโดยเชื้อจุลินทรีย์ชนิดนี้ นอกจากนี้ ยังได้ทดลองเทคนิคการผลิตเชื้อจุลินทรีย์ Rhodococcus erythropolis strain IGTS8 ในปริมาณมาก โดยทำการเพาะเลี้ยงแบคทีเรียดังกล่าวในเฟอร์เมนเตอร์ โดยเติมเอทานอลและซัลเฟตในอัตราและสัดส่วนที่เหมาะสม ซึ่งวิธีการนี้สามารถใช้เพื่อลดต้นทุนการผลิตได้ และได้ทำการศึกษาการกำจัดกำมะถันออกจากสาร ไดเบนโซไทโอฟินในระบบทูเฟส ซึ่งจากผลการทดลอง พบว่า การสะสมของซัลเฟต ซึ่งเป็นผลผลิตสุดท้ายยับยั้งการกำจัดกำมะถันในระบบ แต่เมื่อนำ dilution method with separation unit มาใช้ในการกำจัดซัลเฟตออกจากระบบ พบว่า อัตราการกำจัดกำมะถันมีค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนจบการทดลอง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การกำจัดกำมะถันออกจากสารประกอบอินทรีย์ในน้ำมันโดยใช้เชื้อจุลินทรีย์
Jantana Tangaromsuk
มหาวิทยาลัยมหิดล
2550
การกำจัดกำมะถันอินทรีย์จากน้ำมันดิบโดยเชื้อจุลินทรีย์ การใช้วัสดุดูดซับทางธรรมชาติในการกำจัดคราบน้ำมัน การผลิตและการใช้ประโยชน์ของกลูโคอะไมเลส จากเชื้อจุลินทรีย์ การประยุกต์ใช้ระบบ แพค เคจ อาร์บีซี ในการกำจัดสารประกอบไซยาไนด์ในน้ำเสีย การบำบัดดินที่ปนเปื้อนน้ำมันเตาโดยใช้พืช การเตรียมและการประเมินฟิล์มอัลจิเนต อิมัลชั่นโดยใช้เทคนิคการผสมในน้ำมันเพื่อใช้ในระบบนำส่งยา ผลของการใช้น้ำส้มควันไม้และกรดอินทรีย์ในอาหารไก่เนื้อ ต่อสมรรถภาพการผลิต การย่อยได้ของโภชนะ และจุลินทรีย์ในมูล การพัฒนากระบวนการผลิตถั่วเน่าโดยใช้เชื้อผสมที่คัดเลือก ผลของน้ำมันตะไคร้ต่อไปปรสิตและจุลินทรีย์ก่อโรคในผึ้ง การกำจัดสารกำมะถันโดยวิธีการทางชีวภาพด้วย rhodococcus gordoniae
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก