สืบค้นงานวิจัย
การผลิตกรดอะซิติกจากเปลือกสับปะรดโดยวิธีการหมักเชื้อร่วมระหว่างSaccharomyces cerevisiae และ Acetobacter pasteurianus
วราวุธ ธนะมูล - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: การผลิตกรดอะซิติกจากเปลือกสับปะรดโดยวิธีการหมักเชื้อร่วมระหว่างSaccharomyces cerevisiae และ Acetobacter pasteurianus
ชื่อเรื่อง (EN): Simultaneous Acetic acid Fermentation from Pineapple Peels bySaccharomyces cerevisiae andAcetobacter pasteurianus
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการนำเอาเปลือกสับปะรดซึ่งเป็นผลพลอยได้จากกกระบวนการแปรรูปมาใช้ในการหมักน้ำส้มสายชูแบบร่วมระหว่างยีสต์ Saccharomyces cerevisiae และแบคทีเรียกรดอะซิติก Acetobacter pasteurianus โดยการใช้อาหารหมักที่เตรียมได้จากเปลือกสับปะรดทั้งชนิดที่คั้นเอาเฉพาะน้ำ และการใช้เปลือกสับทั้งหมด ซึ่งอาหารหมักนี้จะมีการปรับสูตรด้วยการเติมน้ำตาลซูโครส สารอาหารอื่นๆที่จำเป็นเพื่อเปรียบเทียบสูตรอาหารที่เหมาะสม จากผลการหมักพบว่าการใช้เปลือกสับปะรด และเฉพาะน้ำคั้นให้ผลปริมาณกรดไม่แตกต่างกัน โดยการใช้เปลือกมีแนวโน้มให้ปริมาณกรดสูงกว่าการใช้เพียงน้ำคั้นอย่างเดียว นอกจากนี้ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าอาหารเพาะเลี้ยงที่มีการเติมแอมโมเนียมซัลเฟต แมกนีเซียมซัลเฟต ปริมาณ 2 กรัมต่อลิตร และปรับค่าความเป็นกรด-ด่างเริ่มต้น เท่ากับ 5.5 จะให้ปริมาณกรดสูงกว่า อาหารที่เติมน้ำตาลซูโครสเพียงอย่างเดียว จากการหมักพบว่า มีการสะสมของกรดอะซิติกในน้ำหมักโดยให้ปริมาณกรดทั้งหมดเท่ากับ 70 กรัมต่อลิตร ในระยะเวลา 10 วัน ภายใต้การหมักในสภาวะนิ่ง ที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส เมื่อทำการทดสอบผลการเติมกล้าเชื้อแบคทีเรียกรดอะซิติกในช่วงระยะเวลาที่ต่างกัน โดยใช้อัตราส่วน 5 เปอร์เซ็นต์เท่ากับยีสต์ พบว่าการเติมกล้าเชื้อแบคทีเรียกรดอะซิติกหลังจากเติมยีสต์ไปแล้ว 1 หรือ 2 วัน ทำให้มีระยะ lag time ของการสะสมกรดเพิ่มขึ้น และการสร้างกรดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากการหมักไปแล้ว 5 วัน จนมีปริมาณกรดทั้งหมดสูงสุดเท่ากับ 72 กรัมต่อลิตร ภายในเวลา 16 วัน นอกจากนี้ยังพบว่าการเพิ่มปริมาณน้ำตาลซูโครส จาก 100 ถึง 200 กรัมต่อลิตร ส่งผลให้มีปริมาณเอทานอลสูงถึง 140 กรัมต่อลิตร ทำให้มีผลต่อความสามารถในการผลิตกรดลดลง เมื่อเพิ่มขนาดการหมักโดยใช้ถังหมักขนาด 5 ลิตร ที่บรรจุอาหาร 3 ลิตร ในสภาวะการหมักเดียวกันกับชุดแรก พบว่าการเพิ่มปริมาตรการหมักทำให้ระยะเวลาในการผลิตกรดยาวนานมากขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากการหมักไปแล้ว 25 วันยังพบว่า สามารถผลิตกรดได้สูงถึง 65 กรัมต่อลิตร เมื่อติดตามการเจริญของกล้าเชื้อพบว่า ยีสต์มีการเพิ่มจำนวนในช่วงการหมักแรกเพียง 1-2 วัน เพื่อสร้างเอทานอล ก่อนที่แบคทีเรียกรดอะซิติกจะเปลี่ยนเอทานอลให้เป็นกรดอะซิติก ในการศึกษาครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าการใช้แบคทีเรียกรดอะซิติกที่ทนต่อเอทานอล และการใช้ระดับความเข้มข้นของเอทานอลที่เหมาะสมเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในกระบวนการหมักน้ำส้มสายชูแบบร่วม
บทคัดย่อ (EN): Pineapple peel, by-product from pineapple processing was used for the simultaneous vinegar fermentation by co-cultivating between Saccharomyces cerevisiae and the ethanol tolerant Acetobacter pasteurianus. The fermentation media including juice squeezed from pineapple peels and the whole minced peels with supplementation of sucrose and other nutrients were examined. The result showed that using the minced pineapple peel containing the initial sucrose 100 g/l, 2.0 g/l of (NH4)2SO4, and MgSO4 with the initial pH 5.5, gave a slightly higher acetic acid concentration than that produced from the squeezed juice, with acetic acid concentration of 70 g/l after 10 days of fermentation. Allowing the 5 % (v/v) of inoculated S. cerevisiae to ferment prior to inoculating the A. pasteurianus with the same volume for 1 and 2 days resulted in longer lag time for ethanol oxidation. However, acetic acid accumulation was started after 5 days with gradually increased up to the maximum concentration of 72 g/l within 16 days. In addition, increasing sucrose concentration from 100 to 200 g/l led to the high production of ethanol up to 140 g/l which can suppress the production of acetic acid by AAB. Furthermore, the scale-up of fermentation to 5 l fermenting vessel containing 3 l of medium resulted in a slower acetic acid accumulation but still reach the high concentration of acetic acid up to 65 g/l after 25 days. This study demonstrated that the use of the ethanol tolerant AAB for simultaneous vinegar fermentation, providing suitable level of ethanol by yeast became critical condition to achieve the maximum acetic acid production.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: แบคทีเรียกรดน้ำส้ม
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การผลิตกรดอะซิติกจากเปลือกสับปะรดโดยวิธีการหมักเชื้อร่วมระหว่างSaccharomyces cerevisiae และ Acetobacter pasteurianus
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
30 กันยายน 2559
การพัฒนาวิธีการผลิตหน่อพันธุ์สับปะรดผลสดเพื่อการส่งออก การเพิ่มมูลค่าสับปะรดโดยนำมาใช้ผลิตกรดอะซิติก การผลิตไวน์เม่าคุณภาพสูง การผลิตน้ำมังคุดหมักด้วยจุลินทรีย์โพรไบโอติก การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การเสริมแบคทีเรียกรดแลคติกต่อลักษณะทางกายภาพ องค์ประกอบทางเคมี และผลผลิตจากกระบวนการหมักของทางใบปาล์มน้ำมันหมัก การปรับปรุงคุณภาพและยืดอายุการเก็บรักษาปลาช่อนแดดเดียวโดยใช้สารต้านจุลชีพจากกรดอะซิติก กรดซิตริก และกรดแลคติก การหมักเปลือกทุเรียนแบบกึ่งแห้งเพื่อผลิตไบโอเอทานอล การใช้เปลือกสับปะรดในอาหารผสมเสร็จหมักใช้เลี้ยงแพะระยะให้นม 3. ผลของการใช้เปลือกสับปะรดในอาหารผสมเสร็จหมักต่อการกิน สมรรถนะการผลิตและคุณภาพน้ำนมของแพะลูกผสมซาเนน 75 เปอร์เซ็นต์ การพัฒนาสายพันธุ์สับปะรดให้เหมาะสมกับผลสดและอุตสาหกรรมสับปะรด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก