สืบค้นงานวิจัย
ฤทธิ์ทางชีวภาพของไขอ่อนและไขแข็งจากรําข้าวในเซลล์เพาะเลี้ยงเพื่อประยุกต์ใช้ในเครื่องสําอาง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภักวดี ไชยกุล - สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: ฤทธิ์ทางชีวภาพของไขอ่อนและไขแข็งจากรําข้าวในเซลล์เพาะเลี้ยงเพื่อประยุกต์ใช้ในเครื่องสําอาง
ชื่อเรื่อง (EN): Biological activities of rice bran soft and hard waxes in cell culture for cosmetic application
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภักวดี ไชยกุล
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: ไขอ่อนและไขแข็งจากรำข้าว เป็นผลผลิตพลอยได้จากการผลิตน้ำมันรำข้าว ซึ่งเป็นน้ำมันที่ประเทศไทยผลิตและ ส่งออกในตลาดโลกปริมาณมาก ไขจากรำข้าวนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการเตรียมอาหาร เครื่องสำอาง และยา แต่ยังไม่ มีการใช้อย่างแพร่หลาย ตลอดจนยังไม่มีรายงานการศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพของไขจากรำข้าว วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ คือ การศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพของไขอ่อนและไขแข็งจากรำข้าวในเซลล์เพาะเลี้ยงเพื่อประยุกต์ใช้เป็นสารออกฤทธิ์เชิงหน้าที่ ในเครื่องสำอาง ไขอ่อนและไขแข็งจากรำข้าว ประกอบด้วยกรดไขมันสำคัญทั้งชนิดอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว โดยกรดไขมันอิ่มตัว คือ กรดปาล์มิติก และกรดสเตียริก ส่วนกรดไขมันไม่อิ่มตัว คือ กรดโอเลอิกและกรดลิโนเลอิก ซึ่งสัดส่วนของกรดไขมันไม่ อิ่มตัวต่อกรดไขมันอิ่มตัวของไขอ่อนและไขแข็งจากรำข้าว มีค่าเท่ากับ 1.96 และ 0.12 ตามลำดับ ความคงตัวของไขอ่อน และไขแข็งจากรำข้าวด้วยการเก็บในสภาวะที่มีแสงและไม่มีแสง ที่อุณหภูมิ 45 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3 เดือน พบว่า ไขอ่อนจากรำข้าวมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยทางเคมีกายภาพ ขณะที่ไขแข็งจากรำข้าว มีความตัวทางกายภาพ แต่ปริมาณ กรดไขมันอิ่มตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้สัดส่วนของกรดไขมันไม่อิ่มตัวต่อกรดไขมันอิ่มตัวมีค่าลดลง การศึกษาความเป็นพิษในเซลล์ บี16 เอฟ 10 เมลาโนมา เซลล์ไฟโบรบลาสจากผิวหนัง เซลล์เคราติโนไซท์จากผิวหนัง และเซลล์ไฟโบรบลาสจากผิวหนัง เพาะเลี้ยงร่วมกับเซลล์เคราติโนไซท์จากผิวหนัง พบว่า ไขอ่อนและไขแข็งจากรำข้าว ความเข้มข้น 0.0001 – 1 และ 0.0001 – 0.1 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร มีค่าร้อยละการรอดชีวิตของเซลล์มากกว่าร้อยละ 80 แสดงถึง ความเข้มข้นของสารที่ ไม่เป็นพิษต่อเซลล์ การศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพในเซลล์ทดสอบที่ความเข้มข้นสูงสุดที่ไม่เป็นพิษต่อเซลล์ คือ ไขอ่อนจากรำ ข้าว 1 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร และไขแข็งจากรำข้าว 0.1 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ฤทธิ์ต่อกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน ใน เซลล์บี16 เอฟ 10 เมลาโนมา พบว่า ไขอ่อนและไขแข็งจากรำข้าว มีฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน ร้อยละ 28.21 ± 2.93 และ 15.82 ± 3.89 ตามลำดับ โดยผ่านทางการยับยั้งเอนไซม์ไทโรสิเนสและไทโรสิเนสรีเลตเตทโปรตีน-2 ฤทธิ์ต่ออนุมูลอิสระ ปริมาณคอลลาเจน เอนไซม์แมทริกซ์เมทัลโลโปรตีเนส-1 และแมทริกซ์เมทัลโลโปรตีเนส-2 ในเซลล์ ไฟโบรบลาสจากผิวหนัง พบว่า ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของไขอ่อนและไขแข็งจากรำข้าว แสดงผลในการปกป้องเซลล์โดยค่า ร้อยละการรอดชีวิตของเซลล์เมื่อทดสอบด้วยไขอ่อนและไขแข็งจากรำข้าวมีค่าสูงกว่ากลุ่มที่ทดสอบด้วยสารก่ออนุมูลอิสระ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อย่างมีนัยสำคัญ มีฤทธิ์กระตุ้นปริมาณคอลลาเจน โดยร้อยละการกระตุ้นคอลลาเจนเมื่อทดสอบ ด้วยไขอ่อนและไขแข็งจากรำข้าว มีค่า 21.87 ± 4.16 และ 7.53 ± 2.67 ตามลำดับ มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์แมทริกซ์เมทัลโล โปรตีเนส-1 และแมทริกซ์เมทัลโลโปรตีเนส-2 เมื่อทดสอบด้วยไขอ่อนและไขแข็งจากรำข้าว โดยมีค่าร้อยละการยับยั้ง เอนไซม์37.42 ± 4.53, 26.62 ± 3.22 และ 20.81 ± 0.80, 13.29 ± 3.39 ตามลำดับ ส่วนฤทธิ์ต่อกระบวนการอักเสบ ทดสอบในเซลล์ไฟโบรบลาสจากผิวหนังเพาะเลี้ยงร่วมกับเซลล์เคราติโนไซท์จากผิวหนัง พบว่า ไขอ่อนและไขแข็งจากรำ ข้าว มีฤทธิ์ต้านกระบวนการอักเสบในภาวะที่เหนี่ยวนำให้เซลล์เกิดกระบวนการอักเสบด้วยการฉายรังสีอัลตราไวโอเลท โดยปริมาณอินเตอร์ลิวคิน-6 และอินเตอร์ลิวคิน-8 ในกลุ่มควบคุมที่ได้รับรังสี มีค่า 5,059.48 ± 153.10 และ 3,745.37 ± 86.92 พิโคกรัมต่อมิลลิลิตร ขณะที่ปริมาณอินเตอร์ลิวคิน-6 และอินเตอร์ลิวคิน-8 เมื่อทดสอบด้วยไขอ่อนและไขแข็งจากรำ ข้าว มีค่าลดลงเป็น 4,210.61 ± 155.22, 3,557.41 ± 122.88 และ 4,212.44 ± 109.37, 3,351.85 ± 187.16 พิโคกรัม ต่อมิลลิลิตร ตามลำดับ ซึ่งฤทธิ์ทางชีวภาพของไขอ่อนและไขแข็งจากรำข้าว อาจเป็นผลจากองค์ประกอบสำคัญ คือ กรด ไขมันไม่อิ่มตัวร่วมกับโอริซานอล ผลการศึกษานี้ แสดงถึงศักยภาพของไขอ่อนและไขแข็งจากรำข้าวที่สามารถประยุกต์ใช้ ประโยชน์เป็นสารออกฤทธิ์เชิงหน้าที่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอื่นๆ
บทคัดย่อ (EN): Rice bran soft and hard waxes are the by-products obtained from rice bran oil manufacturing, that is produced in Thailand and export to the global market in large quantities. Rice bran waxes have been used as the additives in food, cosmetic and drug preparations. Nevertheless, the usage of rice bran waxes is not widely used as well as the biological activity study of rice bran waxes has not been reported. The objective of this study were to evaluate the biological activities of rice bran soft and hard waxes in cell culture for application as the functional substances in cosmetics. Rice bran soft and hard waxes consisted of both saturated and unsaturated fatty acids. The saturated fatty acids were palmitic acid and stearic acid, while the unsaturated fatty acids were oleic acid and linoleic acid. The ratios of unsaturated to saturated fatty acids in rice bran soft and hard waxes were 1.96 and 0.12, respectively. The stability of rice bran soft and hard waxes, that kept under light and dark conditions at 45°C for 3 months, indicated that rice bran soft wax was slight changes in physicochemical characteristics, whereas rice bran hard wax was stable in physical property, but the increased saturated fatty acid content was observed, leading to the decreased ratio of unsaturated to saturated fatty acids. The cytotoxicity assay in B16F10 melanoma cells, human dermal fibroblastss, human dermal keratinocytes, and coculture of human dermal fibroblastss with human dermal keratinocytes appeared that the cell viability treated with 0.0001 – 1 mg/mL rice bran soft wax and 0.0001 – 0.1 mg/mL rice bran hard wax was greater than 80%, indicating noncytotoxic concentrations. The biological activity studies in cell culture were performed at the greatest noncytotoxic concentrations of rice bran soft wax, 1 mg/mL, and rice bran hard wax, 0.1 mg/mL. The activity on melanogenesis effect in B16F10 melanoma cells appeared that rice bran soft and hard waxes possessed the melanin inhibition to 28.21 ± 2.93 and 15.82 ± 3.89%, respectively. The melanin inhibitory activity was mediated via inhibition of tyrosinase and tyrosinase-related protein-2 enzymes. The effects on antioxidant activity, collagen content, matrix metalloproteinase-1 and matrix metalloproteinase-2 enzymes performed in human dermal fibroblastss revealed that the antioxidant activity of rice bran soft and hard waxes demonstrated the cellular protective effect. The viability of cells treated with rice bran soft and hard waxes was significantly greater than that treated with an oxidant, hydrogen peroxide. The collagen contents when treated with rice bran soft and hard waxes were increased to 21.87 ± 4.16 and 7.53 ± 2 . 6 0 %, respectively. The inhibitory activities on matrix metalloproteinase-1 and matrix metalloproteinase-2 enzymes when treated with rice bran soft and hard waxes were 37.42 ± 4.53, 26.62 ± 3.22 and 20.81 ± 0.80, 13.29 ± 3.39%, respectively. The activity on inflammation in coculture of human dermal fibroblastss with human dermal keratinocytes demonstrated that rice bran soft and hard waxes suppressed the ultraviolet radiation-induced inflammation. The contents of interleukin-6 and interleukin-8 in the ultraviolet radiation-treated control were 5,059.48 ± 153.10 and 3,745.37 ± 8 6 .9 2 pg/mL, respectively, whereas those when treated with rice bran soft and hard waxes were decreased to 4,210.61 ± 155.22, 3,557.41 ± 122.88 and 4,212.44 ± 109.37, 3,351.85 ± 187.16 pg/mL, respectively. The biological activities of rice bran soft and hard waxes may be obtained from the major constituents, including the unsaturated fatty acids and oryzanol. The study results have been indicated the potential of rice bran soft and hard waxes to be employed as the functional substances in the cosmetic and the other health-care products.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: เครื่องสําอาง
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ฤทธิ์ทางชีวภาพของไขอ่อนและไขแข็งจากรําข้าวในเซลล์เพาะเลี้ยงเพื่อประยุกต์ใช้ในเครื่องสําอาง
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
2564
การลดการปนเปื้อนของสารหนูในรําข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวและการเก็บกู้สารหนูที่สกัดได้ การศึกษาการเพาะเลี้ยงปลาพลวงหินเชิงพาณิชย์ การออกแบบลักษณะเนื้อสัมผัสผลิตภัณฑ์อาหารจากข้าวไทยโดยใช้โครงสร้างโมเลกุลขององค์ประกอบทางเคมีในข้าว โครงการสร้างประชากรพ่อแม่พันธุ์กุ้งขาวปลอดโรคและโตดีเพื่อการเพาะเลี้ยงในประเทศไทยและการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน การศึกษาการเพาะเลี้ยงปลาค้อลายซี่กรงเชิงพาณิชย์ การพัฒนาต่อยอดการเพาะเลี้ยงปลิงทะเล Holothuria scabra เชิงพาณิชย์ การพัฒนาวัคซีนต้านโรคพยาธิใบไม้ตับสัตว์ในแพะโดยใช้เอ็นไซม์ที่ย่อยสลายโปรตีนจําเพาะในพยาธิตัวอ่อน การทดลองเลี้ยงปลานิลโดยใช้หญ้าเนเปียร์ของเกษตรกร อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย การศึกษาประสิทธิภาพของตํารับยาสมุนไพรไทยที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการเจริญของจุลินทรีย์ โพรไบโอติกในการเสริมภูมิคุ้มกัน และยับยั้งกลไกการเข้าสู่เซลล์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) เพื่อนําประยุกต์ ผลเชิงป้องกันของโกฐจุฬาลัมพา (Artemisia vulgaris L.) ในการยับยั้งการก่อกลายของเซลล์เป็นเซลล์มะเร็ง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก