สืบค้นงานวิจัย
ผลของการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ต่อการสร้างใบใหม่หลังการเก็บเกี่ยวและคุณภาพของผลผลิตมังคุด
ชัยพร เฉลิมพักตร์ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
ชื่อเรื่อง: ผลของการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ต่อการสร้างใบใหม่หลังการเก็บเกี่ยวและคุณภาพของผลผลิตมังคุด
ชื่อเรื่อง (EN): Effects of ChemicalFertilizers and OrganicFertilizers Used After Harvesting on Flusing Leaves and Yield Quality of Mangosteen (Garciniamangostana L.)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ชัยพร เฉลิมพักตร์
บทคัดย่อ: ผลของการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ้ยอินทรีย์ต่อการสร้างใบใหม่หลังการเก็บเกี่ยวและคุณภาพ ของ ผลผลิตมังคุด ทำการทคลอง ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนกรศรีธรรมราช (ไสใหญ่) ตำบลถ้ำใหญ่ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ระหว่างเดือนตุลาคม 2550 - กันยายน 2552 วางแผนการทคลองแบบแบบ Randomized Complete Block Design (RCB) มี 11 สิ่งทคลอง ต้นมังดุดที่ใช้ทำการทดลอง 13 ปี ทำการทดลอง 3 ซ้ำ ใช้ต้นมังคุด 1 ดันเป็น 1 ซ้ำ โดยใช้ตันมังดุดทำการทคลอง 33 ต้น โคยมีสิ่งทคลองต่างๆ ดังนี้ คือการใส่ปุ๋ยหลังการเก็บเกี่ยวมี 11 สิ่งทดลอง คือ ชุดควบคุมไม่ใส่ปุ๊ย (t1) การใส่ปุ๊ยเคมี มี 3 สิ่งทดลอง คือ ใส่ปู้ยสูตร 15-15- 15 จำนวน 3 กก/ต้น (12) ใส่ปุ๋ย 15-15-15 + 46-0-0 อัตรา 2 : 1 ใสจำนวน 3 กก/ต้น (13) และ ใส่ 15-15-15 จำนวน 3 กกต้น (111) ส่วนการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ้ยอินทรีย์ 3 สิ่งทคลอง คือใส่ปุ๋ย 15-15-15 + ฮิวมิกแอซิก อัตราปีย 1 กก/ฮิวมิกแอซิก 30 ซีซี ใส่จำนวน 3 กก/ต้น (14) ปุ้ยมูลไก่ เนื้อจำนวน 10 กก/ต้น + 15-15-15 จำนวน 1.5 กก/ต้น (16) และปุ๋ยชีวภาพจำนวน 5 กก/ต้น + 15- 15-15 จำนวน 1.5 กก/ดัน (๕9) สำหรับการใช้เฉพาะปุยอินทรีย์มี 4 สิ่งทดลองคือใส่ปุ้ยมูลไก่เนื้อ จำนวน 10 กณต้น (๒5) ใส่ปัยมูลไก่เนื้อจำนวน 20 กก/จั่น (17) ใสปุ้ยชีวภาพจำนวน 5 กก/ตัน )และใส่ปุ๊ยชีวภาพจำนวน 10 กก/ต้น (t10) สำหรับการใส่ปุ๊ยก่อนการออกดอก ปุ๋ย 8-24-24 จำนวน 2 กก/น เหมือนกันทุกสิ่งทคลอง ส่วนการใส่ปุ้ยบำรุงผลหลังติดผล 1 เดือนใน 1 สิ่งทดลองมีดังนี้ ชุดควบคุมไม่ใส่ปุ๋ย (+1) ใส่ปุ๊ยเคมี 13-13-21 จำนวน 2 กก/ต้น (42, t3, t4,t5, 6 ,08 และ 19 ) ใส่ปุ๋ยมูลไก่เนื้อจำนวน 10 กก/ต้น (17) และใส่ปุ๊ยชีวภาพจำนวน ร กก/ต้น (:10และt1 1) ปรากฎผลการทดลองดังนี้ ผลของการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ขอินทรีย์ต่อการสร้างใบใหม่หลังการเก็บเกี่ยวการไม่ใส่ปุ๊ยหลัง การเก็บเกี่ยวจะทำให้ปริมาณการแตกใบใหม่หลังการการเก็บเกี่ยวน้อย การให้ปุ๊ยแก่ต้นมังดุดหลังการ เก็บเกี่ยวที่ให้ปริมาณการแตกใบใหม่มากและใช้ระยะเวลาตั้งแต่ใบแก่ถึงระยะแตกใบใหม่ปากนกเร็ว และลงทุนค่าปียหลังการการเก็บเกี่ยวถูกกว่าสิ่งทคลองอื่นๆ การใช้ปุ๊ยเดมีกวรใช้สูตร 15-15-15 + 46-0-0 อัตรา 2 : 1 ใส่จำนวน 3 กิโลกรัมตัน ซึ่งลงทุนค่ปุ๋ย ( 76 บาท/ตัน หรือ 1,900 บาท/ไร่) ส่วนการใช้ปุ๋ยเศมีร่วมกับปุ้ยอินทรีย์ควรใช้มูลไก่เนื้อจำนวน 10 กิโลกรัม/ต้น ร่วมกับปุ๊ย 15-15-15 จำนวน 1.5 กิโลกรัม/ดัน ซึ่งลงทุนค่าปุ้ย 60.50 บาท/ดัน หรือ 1,512 บาท/ไร่) สำหรับการใช้ พาะปุยอินทรีถ้าใช้มูลไก่เนื้อกวรใช้นวน 20 กิโลกรัม / ต้น ให้ผลดีกว่า 10 กิโลก ลงทุนค่าปุ๊ย 40 บาท/ต้น หรือ 1,000 บาท/ไร่ ผลของการใช้ปุ่ยเมีและปุ๊ยอินทรีย์หลังการเก็บเกี่ยวและหลังติดผลทุกสิ่งทดลองไม่มีความ กต่างทางสถิติในเรื่องเปอร์เซ็นการออกดอกเปอนค์การติดผลและจำนวนผลผลิตต่อด้น มีแนวโน้มการไม่ใส่ปุ๋ยทำให้ได้เบ่อร์เซ็นต์การออกคอก เปอร์เซ็นต์การติดผลและจำนวนผลผลิตต่อ ต้นน้อยที่สุด ส่วนคุณภาพผลพบว่าการใช้ปุ๋ยบำรุงผลด้วยปุ๊ย 13-13-21 จำนวน 2 กิโลกรัม/ต้น ให้ น้ำหนักผลเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 83.66 - 96.66 ถรัม/ผล การให้ปุ๋ยมูลไก่เนื้อจำนวน 10 กิโถกรัม/ต้น ให้ผลน้ำหนักเฉลี่ย 90.66 กรัม/ผถ และการให้ปุ๊ยชีวภาพจำนวน 5 กิโลกรัม/ต้น ให้น้ำหนักผล เฉลี่ย 80.00 - 84.00 กรัม/ผล ส่วนการไม่ให้ปุ๊ยบำรุงผลให้น้ำหนักผลเฉลี่ยน้อยที่สุด ถือ 76.00 กรัมผล สำหรับความหนาเปลือก อาการเนื้อแก้วและยางไหลในเนื้อผลและความหวาน (TSS) ทุก สิ่งทดลองไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ
บทคัดย่อ (EN): Effects of chemical fertilizers and organic fertilizers applied for leaf flushing after harvesting and mangosteen production quaiity was done at Faculty of Agricuture Rajamangala University of Technology Srivijaa (Saiyai) Thumyai village , Thungson district Nakhon Si Thammarat province. The Experiment was conducted during October , 2007 to September , 2009. The experimental design was Tandomized Complete Block Design (RCB) with 1I treatments and 3 replications. Each experiment used 13 year mangosteen trees. A single tree was taken as a treatment unit. The Chemical fertilizer and organic fertilizer applied alone and combined application was done after harvesting. The treatments included : non application (control, Tr1); 3 treatments of chemical appication : 15-15-15 chemical fertilizer (Tr2) , 15-15-15 + 46 -0 -0 chemical fertilizer at ratio 2 :1 (T:3 ) and 15-15-15 chemical fertilizer (Trl1), chemical fertilizer application at 3 Kg plant 3 treatments of the combined application of chemical and organic fertilizer included : 15-15- 15 chemical fertilizer added hunic acid 30 coKg of fertilizer applied at 3 Kg/plant (Tr4), poulty dropping combined application with 15-15-15 chemical fertilizer at ratio 10 : 1.5 Keplant (Tr6). And biofertilizer combined application with 15 -15 -15 chemical fertilizer at ratio 5 : 1.5 Keplant (Tr9). The 4 treatments of organic ferilizer were poultry dropping applied at 10 Kg/plant (Is), applied at 20 Ke/plant (Ir7), biofertlizer applied at 5 Kg/plant (Tr8) and 10 Kg/plant (Tr10). All treatments were applied with 8-24-24 at ration 2 Ke/plant before flushing stage for 1 month. After fruit seting for one month, control (Ir!) was applied with 13-13-21 chemical fertilizer at ratio 2 Keplant .(Ti2 ,Tr3, Tr4 ,TrS, Tr6 ,Ir8and TH9) , was applied with 10 Ke plant of poulty dropping (Tr7) and biofertilizer was applied at 5 Kgplant in T:10 and Tr11. The result revealed that a number of leaf flushing after harvesting of non applied fertilizer was less than other. A number of leaf flushing was enhanced by applied 15-15-15+60-0-0 chemical fertilizer at 3 Kg/plant. It also reduced the period from harvesting to flushing. The cost of this treatment was 76 Bahtplant (1,900 Bath/ria). The combined application of chemical and organic fertilizer including poultry dropping at 10 Keplant and 15-15-15 chemical fertilizer at 1.5 Kgplant was 60 bath/plant(1,512 Bathria). For the organic fertilizer applied alone, poultry dropping applied at 20 Keplant was better than applied at 10 Keplant cost of 40 Baht / plant(1,000 Bath/ria. For chemical and organic fertilizer applied after harvesting and fuit setting effect on flowering percentage and fruit setting percentage and fuit per plant were not significant different. However flowering percentage fruit setting percentage and fruit per. plant from non applicative was seemly lesser than most application. Quality of fruit and fuit weight, application of 13-13-21 chemical fertilizer at 2 kgplant, application of poultry dropping at 10 kg/plant and application of biofertilizer at 5 kg/plant were 83.66-96.66,90.66 and 80.00-84.00 g/fruit respectably. The result showed that non applicator (control) gave the lowest fruit weight of 76.00 g/fruit. For pericarb thickness , glassy, gummosis and TSS were not significant different.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
คำสำคัญ: ปุ๋ยอินทรีย์
คำสำคัญ (EN): Mangosteen
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ต่อการสร้างใบใหม่หลังการเก็บเกี่ยวและคุณภาพของผลผลิตมังคุด
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
30 กันยายน 2552
อิทธิพลของปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมีร่วมกับซีโอไลท์ ต่อผลิตยางพารา ผลของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีต่อการเจริญเติบโตของข้าวโพด ในชุดดินบ้านทอน อิทธิพลของปุ๋ยเคมีและอินทรีย์ที่มีผลต่อการผลิตถั่วเหลืองปลอดภัย (ชื่อข้อเสนอการวิจัยเดิม : อิทธิพลของปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีที่มีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของถั่วเหลือง) ธาตุอาหารพืชกับคุณภาพของผลผลิตกาแฟอะราบิก้า 1. ปัญหาในแปลงปลูกและแนวทางในการแก้ไข ผลของปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตในหญ้าหวาน การศึกษาการใช้ทลายเปล่าปาล์มน้ำมันที่ผ่านการนำไปทำเห็ดฟางแล้วมาเป็นปุ๋ยในสวนมังคุด ปีที่ 2 อิทธิพลของการใช้จุลินทรีย์แบบผสมต่อคุณภาพปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดที่ใช้กากสลัดจ์ปาล์มในกระบวนการหมัก การศึกษาวิธีการแปรรูปและการเก็บรักษามังคุด ผลของปุ๋ยอินทรีย์ที่มีต่อผลผลิตของเฟิร์นผักกูด ผลของการให้น้ำชลประทานต่อการเจริญเติบโต ผลผลิต และคุณภาพผลผลิตของปาล์มน้ำมันในจังหวัดเพชรบุรี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก