สืบค้นงานวิจัย
โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (พวอ.) ปริญญาโท - นายฉัตรชัย เชื้อผู้ดี
รองศาสตราจารย์ ดร.วันดี ทาตระกูล - มหาวิทยาลัยนเรศวร
ชื่อเรื่อง: โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (พวอ.) ปริญญาโท - นายฉัตรชัย เชื้อผู้ดี
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รองศาสตราจารย์ ดร.วันดี ทาตระกูล
คำสำคัญ:
คำสำคัญ (EN):
บทคัดย่อ: ปัญหาของการเลี้ยงโคขุนคือต้นทุนการผลิตสูงทั้งส่วนของอาหารข้นและอาหารหยาบ โดยเฉพาะอาหารหยาบที่มักขาดแคลนในช่วงฤดูแล้ง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาแหล่งอาหารหยาบทางเลือกที่มีราคาถูกและสามารถปลูกได้เกือบทุกพื้นที่ภายในประเทศไทย ซึ่งอ้อยเป็นพืช ที่น่าสนใจเนื่องจากอ้อยมีราคาต่อหน่วยต่ำ ให้ผลผลิตสูงและสามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่แห้งแล้ง การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้อ้อยหมักเป็นแหล่งอาหารหยาบสำหรับโคขุนต่อการย่อยได้ของโภชนะ ประสิทธิภาพการเจริญเติบโต คุณลักษณะซาก ต้นทุนการผลิตและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของโคขุน การศึกษาที่ 1 ใช้โคลูกผสมชาร์โรเลส์เพศผู้ตอน อายุเฉลี่ย 4 ปี น้ำหนักเฉลี่ย 500 กิโลกรัม จำนวน 9 ตัว ทำการศึกษาการย่อยได้ของโภชนะ โดยแบ่งกลุ่มการทดลองออกเป็น 3 กลุ่มการทดลองตามแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ ดังนี้ กลุ่มที่ 1 กลุ่มควบคุมได้รับอาหารหยาบจากเปลือกและซังข้าวโพด กลุ่มที่ 2 ได้รับอาหารหยาบจากอ้อยหมัก และกลุ่มที่ 3 ได้รับอาหารหยาบจากอ้อยหมักร่วมกับเชื้อจุลินทรีย์ ทุกกลุ่มการทดลองได้รับอาหารข้นโปรตีน 14 เปอร์เซ็นต์ ที่ 1.75 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวและได้รับอาหารหยาบแบบไม่จำกัด (ad libitum) จากการทดลองพบว่าค่าสัมประสิทธิ์การย่อยได้ของวัตถุแห้ง อินทรียวัตถุ โปรตีน เยื่อใย และเยื่อใยละลายที่ละลายในด่าง ไม่แตกต่างกันทางสถิติ (P>0.05) แต่ค่าสัมประสิทธิ์ การย่อยได้ของไขมันหยาบ ของโคกลุ่มที่ได้รับอ้อยหมักร่วมกับเชื้อจุลินทรีย์มากกว่าเปลือก และซังข้าวโพดและอ้อยหมัก (P<0.05) ในการศึกษาที่ 2 ใช้โคลูกผสมชาร์โรเลส์เพศผู้ตอน อายุเฉลี่ย 4 ปี น้ำหนักเฉลี่ย 500 กิโลกรัม จำนวน 18 ตัว แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มการทดลองตามแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ โดยให้อาหารข้นโปรตีน 14 เปอร์เซ็นต์ ในปริมาณ 1.75 เปอร์เซ็นต์ ของน้ำหนักตัวและได้รับอาหารหยาบแบบไม่จำกัด (ad libitum) ตามการทดลองที่ 1 โดยทำการเลี้ยงขุน เป็นระยะเวลา 428 วัน จากผลการทดลองพบว่าปริมาณการกินได้ของอาหารข้น และปริมาณ การกินได้รวมของโคทดลองทั้ง 3 กลุ่มการทดลองไม่แตกต่างกันทางสถิติ (P>0.05) ในส่วนปริมาณการกินได้ของอาหารหยาบ และปริมาณการกินได้ที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์น้ำหนักตัวกลุ่มโคทดลอง ที่ได้รับเปลือกและซังข้าวโพด มากกว่าอ้อยหมักและอ้อยหมักร่วมกับเชื้อจุลินทรีย์ (P<0.05) น้ำหนักเริ่มต้น น้ำหนักสิ้นสุด อัตราการเจริญเติบโต และอัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นน้ำหนักตัว ของทั้ง 3 กลุ่มการทดลองไม่แตกต่างกัน (P>0.05) นอกจากนี้คุณลักษณะซากพบว่า น้ำหนัก ซากอุ่น น้ำหนักซากเย็น เปอร์เซ็นต์ซาก ความยาวซาก ไขมันหุ้มซาก pH 45 นาที และค่า pH 24 ชั่วโมงของซาก และระดับไขมันแทรกในกล้ามเนื้อระหว่างกลุ่มทดลองไม่แตกต่างกัน (P>0.05) การศึกษาผลตอบแทนทางเศรษกิจพบว่า ต้นทุนค่าพันธุ์สัตว์ ต้นทุนการผลิตรวม ต้นทุนขายซาก และรายได้สุทธิระหว่างกลุ่มการทดลองไม่แตกต่างกันทางสถิติ (P>0.05) ในขณะที่ต้นทุนค่าอาหารต่อการเพิ่มน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมของโคทดลองที่ได้รับอ้อยหมักร่วมกับเชื้อจุลินทรีย์มากกว่าเปลือกและซังข้าวโพดและอ้อยหมัก (P<0.05) จากการทดลองสรุปได้ว่าสามารถใช้ อ้อยหมักเป็นแหล่งของอาหารหยาบทางเลือกสำหรับโคขุนได้
บทคัดย่อ (EN): The problem of beef cattle farming is the high production cost of both concentrate feed and roughage. Roughage, especially, is often scarce during the dry season, it is necessary to find alternative roughage sources that are cheap and grown in almost every area of Thailand. Sugarcane is an attractive plant because sugarcane has a low unit price, high yield and productive growth in arid areas. This study aimed to investigate the effects of sugarcane silage as a roughage source on nutrients digestibility, growth performance, carcass characteristics and economic return of fattening beef cattle. In the first experiment, nine Charolais crossbred steers with an average age of 4 years and initial body weights of 500 kg were used in this study. The experiment's design was a Completely Randomized Design (CRD) consisting of three treatments with different roughage sources. The treatments were corn husk and corn cob, sugarcane silage and fermented sugarcane with microorganisms as a roughage source. Beef cattle in all treatments were fed 1.75% body weight of 14 %CP concentrate feed. The second experiment was designed to a CRD using eighteen Charolais crossbred steers with an average age of 4 years and initial body weights of 500 kg separated into three treatment groups similarly to those in the first experiment and experimental fattening period lasted for 428 days. The results from the first experiment showed that the digestibility of dry matter, organic matter, crude protein and neutral detergent fiber were not significantly different (P>0.05) among treatment groups. However, ether extract digestibility of sugarcane fermented with microorganisms was significantly higher than the others (P<0.05). The second experiment found that concentrate feed intake and total feed intake of fattening beef were not significantly different (P>0.05) among the treatment group. The highest roughage dry matter intake in terms of kg/day and % of body weight (P<0.05) was found in fattening beef fed corn husk and corn cob as a roughage source. Initial weight, final weight gain, average daily gain and feed conversion ratio of experimental fattening beef were no significant differences among treatments (P>0.05). Additionally, there were no significant differences (P>0.05) in the carcass weight, chill carcass weight, carcass percentage, carcass length, fat thickness, carcass pH at 45 min, carcass pH at 24 h and marbling score of fattening beef fed different roughage source. In terms of the economic return, breed cost, total production cost, carcass price and return were not significantly different (P>0.05) among treatment groups. Meanwhile, the feed cost per gain of fattening beef fed fermented sugarcane with microorganisms was higher than that of the others (P<0.05). According to the results of this research, the sugarcane silage can be used as an alternative roughage source for fattening beef.
ปีเริ่มต้นงานวิจัย: 2560-02-01
ปีสิ้นสุดงานวิจัย: 2562-01-31
ลิขสิทธิ์: แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-ND 3.0 TH)
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยนเรศวร
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (พวอ.) ปริญญาโท - นายฉัตรชัย เชื้อผู้ดี
มหาวิทยาลัยนเรศวร
31 มกราคม 2562
โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (พวอ.) ระดับปริญญาโท - นายชินกฤต ศรีนวล โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (พวอ.) ระดับปริญญาเอก - นายพิธิวัต เทียนทอง โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (พวอ.) ระดับปริญญาเอก - นายภานุพล ไตรรัตน์ โครงการเผยแพร่งานวิจัยและนวัตกรรมผ่านสื่อสู่เกษตรกร โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (พวอ.) ผู้ช่วยวิจัยระดับปริญญาโทเพื่ออุตสาหกรรม - นายอดิศักดิ์ คงแก้ว โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (พวอ.) ระดับปริญญาโท - นางสาวสกุลรัตน์ บุญจริง โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (พวอ.) ผู้ช่วยวิจัยระดับปริญญาโท - นางสาวธมลวรรณ เทพคุณ โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (พวอ.) ทุนผู้ช่วยวิจัยระดับปริญญาโทเพื่ออุตสาหกรรม - นายพัชรพล ทองคำ โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (พวอ.) ทุนผู้ช่วยวิจัยระดับปริญญาโทเพื่ออุตสาหกรรม - น.ส.นารีรัตน์ สิงห์โต โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (พวอ.) ผู้ช่วยวิจัยระดับปริญญาโท - นางสาวชญาณิศ ศรีงาม

แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-ND 3.0 TH)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก