สืบค้นงานวิจัย
การจัดการดินเพื่อปลูกข้าวสังข์หยดและข้าวสังข์หยดอินทรีย์ ในกลุ่มชุดดินที่ 6
วิโรจน์ ปิ่นพรม - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การจัดการดินเพื่อปลูกข้าวสังข์หยดและข้าวสังข์หยดอินทรีย์ ในกลุ่มชุดดินที่ 6
ชื่อเรื่อง (EN): Soil Management for Sangyod Rice and Organic Sang yod Rice in Soil Group No. 6.
บทคัดย่อ: การทดลองเรื่อง การจัดการดินเพื่อปลูกข้าวสังข์หยดและข้าวสังข์หยดอินทรีย์ ในกลุ่มชุดดินที่ 6 ดำเนินงาน ณ หมู่ที่ 6 บ้านหน้าควน ตำบลตะแพน อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 ถึงเดือนมีนาคม 2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีของดิน ศึกษาการจัดการดินเพื่อปลูกข้าวสังข์หยดและข้าวสังข์หยดอินทรีย์ และศึกษาผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ โดยวางแผนการทดลองแบบ RCBD จำนวน 4 ตำรับการทดลอง 5 ซ้ำ ประกอบด้วย ตำรับการทดลองที่ 1 วิธีเกษตรกร (ปุ๋ยเคมีสูตร 16-20-0 อัตรา 20 กิโลกรัมต่อไร่ ร่วมกับ ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่) ตำรับการทดลองที่ 2 ปุ๋ยเคมีอัตราตามค่าวิเคราะห์ดินจากโปรแกรมปุ๋ยรายแปลงของกรมพัฒนาที่ดิน ร่วมกับพืชปุ๋ยสด และน้ำหมักชีวภาพ ซุปเปอร์ พด.2 (ปุ๋ยเคมีสูตร 16-20-0 อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ ร่วมกับ ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 0-0-60 อัตรา 7 กิโลกรัมต่อไร่) ตำรับการทดลองที่ 3 ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงอัตราตามคำแนะนำ (คำนวณปริมาณธาตุอาหารให้เทียบเท่าอัตราปุ๋ยเคมีที่แนะนำ โดยใช้ไนโตรเจนเป็นหลัก) ร่วมกับพืชปุ๋ยสดและน้ำหมักชีวภาพ ซุปเปอร์ พด.2 ตำรับการทดลองที่ 4 ปุ๋ยชีวภาพ พด.12 อัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่ ร่วมกับปุ๋ยเคมีอัตรา ? คำแนะนำตามค่าวิเคราะห์ดินจากโปรแกรมปุ๋ยรายแปลงของกรมพัฒนาที่ดิน ร่วมกับพืชปุ๋ยสดและน้ำหมักชีวภาพ ซุปเปอร์ พด.2 จากการทดลอง การเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีของดินทั้ง 3 ปี พบว่า ความเป็นกรดของดิน ในตำรับการทดลองที่ 1 สูงกว่าตำรับการทดลองอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ปริมาณอินทรียวัตถุเปลี่ยนแปลงจากระดับค่อนข้างต่ำมาอยู่ในระดับปานกลาง ปริมาณไนโตรเจนทั้งหมดไม่มีการเปลี่ยนแปลงและอยู่ในระดับต่ำมาก ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ที่สกัดได้ในดิน อยู่ในระดับสูงและสูงมาก โดยตำรับการทดลองที่ 3 และ 4 แตกต่างทางสถิติกับตำรับการทดลองที่ 1 และ 2 ส่วนปริมาณโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ที่สกัดได้ในดิน มีแนวโน้มลดลงแต่ไม่แตกต่างจากก่อนการทดลองซึ่งมีค่าอยู่ในระดับต่ำ ตำรับการทดลองที่ให้ผลผลิตข้าวเฉลี่ยสูงสุดคือ ตำรับการทดลองที่ 3 เท่ากับ 529.33 กิโลกรัมต่อไร่ รองลงมาคือ ตำรับการทดลองที่ 2 เท่ากับ 516.08 กิโลกรัมต่อไร่ โดยมีผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.29 และ 28.00 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับตำรับการทดลองที่ 1 ซึ่งให้ผลผลิตข้าวเฉลี่ยต่ำสุดเท่ากับ 403.17 กิโลกรัมต่อไร่ ด้านการเจริญเติบโต พบว่า ตำรับการทดลองที่ 2 มีความสูงของข้าว จำนวนต้นต่อกอ จำนวนรวงต่อกอ และเปอร์เซ็นต์เมล็ดดีเฉลี่ยสูงสุด เท่ากับ 164.37 เซนติเมตร 10.07 กอ 9.06 รวง และ 85.58 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ สำหรับผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเฉลี่ยสูงสุด 3 ปี ได้แก่ตำรับการทดลองที่ 2 เท่ากับ 3,789.01 บาทต่อไร่ รองลงมาคือตำรับการทดลองที่ 3 เท่ากับ 3,730.02 บาทต่อไร่ ส่วนตำรับการทดลองที่ 4 ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจต่ำสุดเท่ากับ 2,146.95 บาทต่อไร่
บทคัดย่อ (EN): This experiment was soil management for Sangyod rice and Sangyod organic rice that was planted in soil group no.6 at moo 6, Nakhuan village, Tapan sub district, Sribanpot district, Phatthalung. This project operated during June 2014 - March 2017. The objectives of the study were: 1) to study on soil chemical properties exchange, 2) to investigate soil management for Sangyod rice and Sangyod organic rice and, 3) to study economic return. This research was design by randomize complete block with 4 treatments and 5 replications. Tr.1: (farmer method) was applied 16-20-0 at the rate of 20 kg/rai and 46-0-0 at the rate of 10 kg/rai. Tr.2: (fertilizer usage based on soil analysis by plot fertilizer program of LDD) was applied 16-20-0 at the rate of 10 kg/rai, 46-0-0 at the rate of 10 kg/rai, 0-0-60 at the rate of 7 kg/rai, green manure and bio-extract super LDD2.Tr.3: was applied high organic fertilizer based on recommendation green manure and bio-extract super LDD2. Tr.4: was applied half of fertilizer usage based on soil. The study from 3 years revealed that the changing of soil chemical properties. Soil acidity on Tr.1 higher than other treatments it was statistically significant at 0.05 levels. Organic matter amounts in soil were increased to medium level. While, total nitrogen contents did not change that were very low. Available phosphorus amounts were high and very high. In addition, the finding showed that Tr.3 and Tr.4 were statistically significant at 0.01 levels. Exchangeable potassium amounts tended to decrease but were not different with exchangeable potassium amounts before did the experiment that was low. Furthermore, Tr.3 made the highest rice yield (529.33 kg/rai), next, was Tr.2 (516.08 kg/rai) that were increased at 31.29% and 28.00% in order. Tr.1 produced the lowest rice yield (403.17 kg/rai). The growth of Tr.2 showed that plant height, number of tillers per hill, number of panicles per hill and percent of filled seed were 164.37 cm, 10.07 tillers/hill, 9.06 panicles/hill and 85.58% in order. Moreover, the average of economic return from 3 years was 3,730.02 bath/rai. In addition, Tr.4 made the lowest economic return (2,146.95 bath/rai).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

วิโรจน์ ปิ่นพรม. "การจัดการดินเพื่อปลูกข้าวสังข์หยดและข้าวสังข์หยดอินทรีย์ ในกลุ่มชุดดินที่ 6Soil Management for Sangyod Rice and Organic Sang yod Rice in Soil Group No. 6.". กรมพัฒนาที่ดิน. 2560

วิโรจน์ ปิ่นพรม. "การจัดการดินเพื่อปลูกข้าวสังข์หยดและข้าวสังข์หยดอินทรีย์ ในกลุ่มชุดดินที่ 6Soil Management for Sangyod Rice and Organic Sang yod Rice in Soil Group No. 6.". กรมพัฒนาที่ดิน. 2560. Print.



TARR Wordcloud:
การจัดการดินเพื่อปลูกข้าวสังข์หยดและข้าวสังข์หยดอินทรีย์ ในกลุ่มชุดดินที่ 6
วิโรจน์ ปิ่นพรม
กรมพัฒนาที่ดิน
31 มีนาคม 2560
ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ในชุดดินโคราช (กลุ่มชุดดินที่ 35) การเพิ่มผลผลิตข้าวนาหว่านน้ำตมภายใต้การจัดการปุ๋ยในชุดดินพัทลุง บูรณาการการผลิตข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง (ข้าว GI) ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับปุ๋ยเคมีกับผลผลิตข้าวพันธุ์สังข์หยด ในกลุ่มชุดดินที่ 6 จ.พัทลุง การจัดการดินที่เหมาะสมสำหรับปลูกอ้อยแต่ละพันธุ์ตามกลุ่มชุดดิน ศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติของดินจากการจัดการดินกลุ่มชุดดินที่ 10,11 และ 14 ด้วยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการปลูกข้าวอินทรีย์ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จังหวันครศรีธรรมราช นวัตกรรมสำหรับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าว: โจ๊กข้าวสังข์หยดกึ่งสำเร็จรูป การสาธิตทดสอบการจัดการดินบนพื้นที่ลาดชันเพื่อปลูกยางพาราในกลุ่มชุดดินที่34 ชุดดินท่าแซะ โครงการสาธิตทดสอบการปรับปรุงดินเพื่อปลูกข้าวพันธุ์เล็บนกปัตตานี ในกลุ่มชุดดินที่ 6 ชุดดินแกลง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair