สืบค้นงานวิจัย
การเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับการให้นำเพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง
วิจารณ์ วิชชุกิจ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับการให้นำเพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง
ชื่อเรื่อง (EN): Increasing Chemical Fertilizer Rate In Combination to Improve Cassava Yield
บทคัดย่อ: อุปสงค์ของก๊าซโซฮอลในประเทศเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีความจำเป็นต้องเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง การทดลองนี้กระทำเพื่อต้องการเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับการให้น้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง พันธุ์ห้วยบง 60 แปลงทดลองสถานีวิจัยเขาหินซ้อน ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยปลูกมันสำปะหลัง 2 ฤดูปลูก คือ ปีที่ 1 ปลูกเดือน มกราคม 2551 เก็บเกี่ยว กุมภาพันธ์ 2552 ปีที่ 2 ปลูกเดือนกุมภาพันธ์ 2552 เก็บเกี่ยวพฤษภาคม 2553 โดยใช้อัตราการให้น้ำ 3 ระดับ คือ ไม่มีการให้น้ำให้น้ำอัตรา 30 มมต่อเดือน(10 วัน/ครั้ง/10 มม) และ 60 มมต่อเดือน(10 วัน/ครั้ง/20 มม)ในฤดูแล้ง เป็นปัจจัยหลัก ใส่ปุ๋ยเคมี ที่อัตรา 50 75 และ 100 กิโลกรัมต่อไร่เป็นปัจจัยรอง ผลการทดลองพบว่า ปีที่ 1 การให้น้ำชลประทานในฤดูแล้งไม่มีผลทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น แต่ปีที่ 2 การให้น้ำชลประทานในฤดูแล้งและการเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีทำให้มันสำปะหลังมีผลผลิตแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง โดยให้น้ำอัตรา 60 มม.ต่อเดือนมันสำปะหลังให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงที่สุด คือ 5,565 และ 7,534 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อเก็บเกี่ยวที่อายุ 12 และ 14เดือนตามลำดับ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างการให้น้ำในฤดูแล้งกับการเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีทำให้ผลผลิตเฉลี่ยและปริมาณแป้งในหัวสดมันสำปะหลังฤดูปลูกปีที่ 2 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง โดยการให้น้ำอัตรา 60 มม.ต่อเดือนกับการเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมี 75 กิโลกรัมต่อไร่ มันสำปะหลังให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงที่สูด คือ 7,126 กิโลกรัมต่อไร่ และการให้น้ำอัตรา 60 มม.ต่อเดือนร่วมกับการเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมี 100 กิโลกรัมต่อไร่ ทำให้ปริมาณแป้งในหัวสดมันสำปะหลังสูงที่สุด คือ 30.6 % เมื่อเก็บเกี่ยวที่อายุ 14 เดือน การให้น้ำในช่วงฤดูแล้งไม่ทำให้ ค่าดัชนีเก็บเกี่ยวปีที่ 1 แตกต่างกัน แต่การเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีมีผลทำให้ค่าดัชนีเก็บเกี่ยวแตกต่างกัน ที่อายุเก็บเกี่ยว 12 เดือน โดยการเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมี 100 กิโลกรัม/ไร่ ให้ค่าดัชนีเก็บเกี่ยวสูงที่สุดในปีที่ 1 คือ 0.68อุปสงค์ของก๊าซโซฮอลในประเทศเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีความจำเป็นต้องเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง การทดลองนี้กระทำเพื่อต้องการเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับการให้น้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง พันธุ์ห้วยบง 60 แปลงทดลองสถานีวิจัยเขาหินซ้อน ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยปลูกมันสำปะหลัง 2 ฤดูปลูก คือ ปีที่ 1 ปลูกเดือน มกราคม 2551 เก็บเกี่ยว กุมภาพันธ์ 2552 ปีที่ 2 ปลูกเดือนกุมภาพันธ์ 2552 เก็บเกี่ยวพฤษภาคม 2553 โดยใช้อัตราการให้น้ำ 3 ระดับ คือ ไม่มีการให้น้ำให้น้ำอัตรา 30 มมต่อเดือน(10 วัน/ครั้ง/10 มม) และ 60 มมต่อเดือน(10 วัน/ครั้ง/20 มม)ในฤดูแล้ง เป็นปัจจัยหลัก ใส่ปุ๋ยเคมี ที่อัตรา 50 75 และ 100 กิโลกรัมต่อไร่เป็นปัจจัยรอง ผลการทดลองพบว่า ปีที่ 1 การให้น้ำชลประทานในฤดูแล้งไม่มีผลทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น แต่ปีที่ 2 การให้น้ำชลประทานในฤดูแล้งและการเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีทำให้มันสำปะหลังมีผลผลิตแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง โดยให้น้ำอัตรา 60 มม.ต่อเดือนมันสำปะหลังให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงที่สุด คือ 5,565 และ 7,534 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อเก็บเกี่ยวที่อายุ 12 และ 14เดือนตามลำดับ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างการให้น้ำในฤดูแล้งกับการเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีทำให้ผลผลิตเฉลี่ยและปริมาณแป้งในหัวสดมันสำปะหลังฤดูปลูกปีที่ 2 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง โดยการให้น้ำอัตรา 60 มม.ต่อเดือนกับการเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมี 75 กิโลกรัมต่อไร่ มันสำปะหลังให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงที่สูด คือ 7,126 กิโลกรัมต่อไร่ และการให้น้ำอัตรา 60 มม.ต่อเดือนร่วมกับการเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมี 100 กิโลกรัมต่อไร่ ทำให้ปริมาณแป้งในหัวสดมันสำปะหลังสูงที่สุด คือ 30.6 % เมื่อเก็บเกี่ยวที่อายุ 14 เดือน การให้น้ำในช่วงฤดูแล้งไม่ทำให้ ค่าดัชนีเก็บเกี่ยวปีที่ 1 แตกต่างกัน แต่การเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีมีผลทำให้ค่าดัชนีเก็บเกี่ยวแตกต่างกัน ที่อายุเก็บเกี่ยว 12 เดือน โดยการเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมี 100 กิโลกรัม/ไร่ ให้ค่าดัชนีเก็บเกี่ยวสูงที่สุดในปีที่ 1 คือ 0.68
บทคัดย่อ (EN): Increasing demand of gasohol prompts the need for increasing yield of cassava accordingly. The experiment was carried out to improve cassava yield through increasing chemical fertilizer (CF) rates in combination with irrigation(I). Huay Bong60 cassava variety was planted at the Khao Hin Son Research Station, Khao Hin Son, Phanom Sarakam, Chachoengsao province during Jan 2008-Feb 2009 (year 1) and Feb 2009-May2010(year 2). A split plot in RCBD was used with 3 and 4 replications in year 1 and year 2 ,respectively. The main plots were 0 mm/mo ( no irrigation,W1), 30 mm /mo (10-d interval, 10 mm each, W2) and 60 mm /mo (10-d interval, 20 mm each,W3). The sub plots were CF (15-5-20) in year 1 and 15-15-15 in year 2 rates: 50,75 and 100 kg/rai. Irrigation was supplied only during the dry period (Nov 2008-Feb 2009 and Nov 2009-Apr 2010). Identical treatments were employed in both year 1 and year 2. In year 1 surprised that cassava yield was not different among treatments. Hewever, increasing rate of CF significantly increased cassava root yield. Contrastingly, in year 2, supplement irrigation(I) during the dry period and increasing rate of significantly increasing yield of cassava. W3 gave the greatest yields of cassava 5,565 and 7,534 kg/rai when harvested at 12 and 14 mo,respectively. The interaction between I and CF resulted in increasing root yields and starch contents. W3 and 75 kg(CF)/rai gave the greatest root yields (7,126 kg/rai) and W3 x 100 kg(CF)/rai resulted in the highest root starch content (30.6%) when harvested at 14 mo. The response of harvest index(HI) followed the yield trend in that the highest CF rate (100 kg/rai) gave the greatest HI(0.68) in year 1.Increasing demand of gasohol prompts the need for increasing yield of cassava accordingly. The experiment was carried out to improve cassava yield through increasing chemical fertilizer (CF) rates in combination with irrigation(I). Huay Bong60 cassava variety was planted at the Khao Hin Son Research Station, Khao Hin Son, Phanom Sarakam, Chachoengsao province during Jan 2008-Feb 2009 (year 1) and Feb 2009-May2010(year 2). A split plot in RCBD was used with 3 and 4 replications in year 1 and year 2 ,respectively. The main plots were 0 mm/mo ( no irrigation,W1), 30 mm /mo (10-d interval, 10 mm each, W2) and 60 mm /mo (10-d interval, 20 mm each,W3). The sub plots were CF (15-5-20) in year 1 and 15-15-15 in year 2 rates: 50,75 and 100 kg/rai. Irrigation was supplied only during the dry period (Nov 2008-Feb 2009 and Nov 2009-Apr 2010). Identical treatments were employed in both year 1 and year 2. In year 1 surprised that cassava yield was not different among treatments. Hewever, increasing rate of CF significantly increased cassava root yield. Contrastingly, in year 2, supplement irrigation(I) during the dry period and increasing rate of significantly increasing yield of cassava. W3 gave the greatest yields of cassava 5,565 and 7,534 kg/rai when harvested at 12 and 14 mo,respectively. The interaction between I and CF resulted in increasing root yields and starch contents. W3 and 75 kg(CF)/rai gave the greatest root yields (7,126 kg/rai) and W3 x 100 kg(CF)/rai resulted in the highest root starch content (30.6%) when harvested at 14 mo. The response of harvest index(HI) followed the yield trend in that the highest CF rate (100 kg/rai) gave the greatest HI(0.68) in year 1.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

วิจารณ์ วิชชุกิจ. "การเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับการให้นำเพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังIncreasing Chemical Fertilizer Rate In Combination to Improve Cassava Yield". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2552

วิจารณ์ วิชชุกิจ. "การเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับการให้นำเพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังIncreasing Chemical Fertilizer Rate In Combination to Improve Cassava Yield". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2552. Print.



TARR Wordcloud:
การเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับการให้นำเพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง
วิจารณ์ วิชชุกิจ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2552
การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับการให้น้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลัง การใช้ปุ๋ยชีวภาพ (พด.12) ร่วมกับปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง การจัดการดินเพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง การเปรียบเทียบความสามารถในการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังโดยการใช้ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยเคมี และปุ๋ยคอก การประเมินและการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เชื้อพันธุกรรมมันสำปะหลังเพื่อเพิ่มความก้าวหน้าของการปรับปรุงพันธุ์มันสำปะหลัง การเพิ่มผลผลิตและคุณภาพอ้อยโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีในอัตราที่เหมาะสม การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลังโดยวิธีให้น้ำ การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังโดยการจัดการดินและพืช การเพิ่มโปรตีนในกากมันสำปะหลังและเปลือกมันสำปะหลังโดยใช้จุลินทรีย์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair