สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาระบบการปลูกไม้ดอกร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินบนพื้นที่สูง
จุไรพร แก้วทิพย์ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การศึกษาระบบการปลูกไม้ดอกร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินบนพื้นที่สูง
ชื่อเรื่อง (EN): The Study on Flower Planting System with Land Development Department’s Biotechnology Product on Highland Area
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จุไรพร แก้วทิพย์
บทคัดย่อ: การศึกษาระบบการปลูกไม้ดอกร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินบนพื้นที่สูง สถานที่ทำการทดลองที่บ้านสวนกองแหะ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ระหว่างเดือนตุลาคม 2549 ถึงเดือน กันยายน 2551 โดยมีทั้งหมด 5 ตำรับการทดลอง คือ (1) แปลงแบบเกษตรกร (2) แปลงเกษตรกร และใส่ปูนตามค่าวิเคราะห์ดิน (3) แปลงที่ใส่ปุ๋ยหมัก (พด.1) ฉีดพ่นปุ๋ยอินทรีย์น้ำ (พด.2) ร่วมกับสารกำจัดโรครากเน่าโคนเน่า (พด.3) สารป้องกันแมลงศัตรูพืช(พด.7) และใส่ปูนตามค่าวิเคราะห์ดิน (4) แปลงที่ใส่ปุ๋ยหมัก (พด.1) ฉีดพ่นปุ๋ยอินทรีย์น้ำ (พด.2) ร่วมกับสารกำจัดโรครากเน่าโคนเน่า (พด.3) และ สารป้องกันแมลงศัตรูพืช(พด.7) 1/2 ปุ๋ยเคมี และใส่ปูนตามค่าวิเคราะห์ดิน (5) แปลงที่ใส่มูคูได (Mukudai) และใส่ปูนตามค่าวิเคราะห์ดิน ผลการวิเคราะห์ดินตั้งแต่ตุลาคมปี 2549 ถึง 2551 ในกลุ่มชุดดินที่ 30 ดอยปุย (Sai variant) พบว่า ในการปลูกกุหลาบในสภาพที่ดินอยู่ภายในและภายนอกโรงเรือน มีความเป็นกรดด่างของดินก่อนและหลังการทดลองเป็นกรดจัดแล้วปรับค่าขึ้นเป็นกรดปานกลาง ค่าอินทรียวัตถุในดิน ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดิน โพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ ปรับเป็นสูงขึ้นหลังการทดลอง ในตำรับที่มีการใส่สารมูคูไดและใส่ปูนตามค่าวิเคราะห์ดิน แคลเซียมเดิมอยู่ในระดับต่ำมากถึงต่ำเปลี่ยนเป็นระดับปานกลางถึงสูงหลังจากการทดลอง ส่วนแมกนีเซียมมีค่าปานกลางถึงสูงหลังจากการทดลองเช่นเดียวกัน สำหรับผลการวิเคราะห์ดินก่อนและหลังการปลูกเยอบีร่าทั้งในและนอกโรงเรือนนั้น พบว่าความเป็นกรดด่างของดินก่อนและหลังการทดลองเป็นกรดจัดแล้วปรับค่าขึ้นเป็นกรดปานกลาง ค่าอินทรียวัตถุ ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดิน และโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ ปรับเปลี่ยนเป็นสูงขึ้นหลังการทดลอง แคลเซียมและแมกนีเซียมเพิ่มสูงขึ้นหลังจากการทดลอง ในตำรับที่มีการใส่สารมูคูไดและใส่ปูนตามค่าวิเคราะห์ดิน จะเห็นได้ว่าในตำรับที่มีการใส่สารมูคูไดและใส่ปูนตามค่าวิเคราะห์ดินนั้นจะมีส่วนช่วยเพิ่มธาตุอาหารรอง คือแคลเซียมและแมกนีเซียมให้กับดินอย่างเห็นได้ชัด จากการวางแผนการทดลองพบว่าปัจจัยด้านการจัดการดิน ในการปลูกกุหลาบหรือเยอบีร่า ในทุกตำรับการทดลอง และเกือบทุกช่วงการเจริญเติบโตของการศึกษาตั้งแต่ 3 ถึง 18 เดือน ไม่มีผลต่อค่าเฉลี่ยความสูง จำนวนการแตกกิ่งหรือจำนวนหน่อ และขนาดของทรงพุ่ม โดยจะเห็นได้ว่าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ในส่วนของผลผลิตซึ่งศึกษาจากจำนวนดอกของกุหลาบนั้นพบว่า จำนวนดอกในช่วง 3 ถึง 6 เดือนแรกของการปลูกจะสูงกว่าเวลาปลูกที่เพิ่มขึ้น สำหรับปัจจัยด้านโรงเรือนพบว่าการปลูกกุหลาบภายในและภายนอกโรงเรือนทำให้ค่าเฉลี่ยของความสูงในช่วง 18 เดือน ค่าเฉลี่ยของขนาดทรงพุ่มในช่วง 6 เดือน และจำนวนดอกกุหลาบที่ผลิตได้ในช่วง 12 ถึง 15 เดือน มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ สำหรับปฏิกิริยาระหว่างโรงเรือนและการจัดการดินมีผลต่อค่าเฉลี่ยความสูง และขนาดทรงพุ่มของต้นกุหลาบในช่วงที่เจริญเติบโตได้ 3 เดือน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกัน สำหรับการปลูกเยอบีร่า พบว่าค่าเฉลี่ยจำนวนดอกในช่วงที่ปลูกได้ 15 เดือนมีค่าแตกต่างกับช่วงการเจริญเติบโตอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ โดยตำรับการทดลองแบบเกษตรกร และแบบที่ใส่มูคูไดและใส่ปูนตามค่าวิเคราะห์ดินมีค่าสูงใกล้เคียงกัน ส่วนค่าเฉลี่ยอื่นๆ ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนการปลูกภายในและนอกโรงเรือนนั้น พบว่าค่าเฉลี่ยความสูงในช่วงที่เจริญเติบโตได้ 3 6 15 และ 18 เดือน ค่าเฉลี่ยขนาดทรงพุ่มในทุกช่วงการเจริญเติบโต ยกเว้นช่วง 6 เดือน และค่าเฉลี่ยจำนวนดอกในช่วงที่เจริญเติบโตได้ 3 6 และ 12 เดือน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ สำหรับค่าเฉลี่ยของจำนวนการแตกหน่อถึงแม้ว่าจะไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่พบว่าในตำรับที่ใส่ปุ๋ยหมัก (พด.1) ฉีดพ่นปุ๋ยอินทรีย์น้ำ (พด.2) ร่วมกับสารกำจัดโรครากเน่าโคนเน่า (พด.3) สารป้องกันแมลงศัตรูพืช (พด.7) และ ปูนตามค่าวิเคราะห์ดิน จะให้ค่าสูงที่สุด ส่วนปฏิกิริยาระหว่างโรงเรือนและการจัดการดินนั้นมีผลต่อค่าเฉลี่ยความสูงของเยอบีร่าในช่วงที่เจริญเติบโตได้ 12 เดือนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าการปลูกไม้ดอกทั้งสองชนิดภายในโรงเรือนจะให้ค่าเฉลี่ยความสูง จำนวนการแตกกิ่ง หรือจำนวนหน่อ ขนาดทรงพุ่มของต้น และผลผลิต จะได้ผลดีกว่าการปลูกภายนอกโรงเรือนทั้งสิ้น ทั้งนี้เนื่องจากการปลูกในโรงเรือนนั้นสามารถควบคุมปริมาณความชื้นในแปลงปลูกให้เหมาะสมกับความต้องการของไม้ดอกได้ ตรงกันข้ามกับต้นที่ปลูกภายนอกโรงเรือนที่ไม่สามารถควบคุมปริมาณความชื้น หรือปริมาณน้ำที่มากเกินไปในฤดูฝนได้ เป็นสาเหตุให้เกิดโรคพืชจากเชื้อราที่มากับความชื้นและแก้ไขได้ยาก อีกทั้งมีความผิดพลาดในการตัดแต่งกิ่งกุหลาบในช่วงที่มีการเจริญเติบโต โดยตัดแต่งกิ่งในระดับที่ต่ำเกินไป ทำให้ต้นกุหลาบเสียหายมาก สำหรับเยอบีร่าเป็นโรคใบไหม้เนื่องจากเชื้อราลุกลามมากขึ้นในปีที่สองของการปลูก จึงทำให้การเจริญเติบโตและผลผลิตของไม้ดอกทั้งสองชนิดไม่สมบูรณ์มากนัก ทำให้การเก็บผลผลิตเพื่อส่งจำหน่ายเป็นไปอย่างไม่ต่อเนื่อง ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจจึงไม่อาจวัดได้อย่างชัดเจนนัก และทำให้ไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทั้งหมดได้ หากได้มีการดำเนินการต่อเนื่องจะทำให้ได้ผลที่เด่นชัดมากยิ่งขึ้น
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: มูคูได
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาระบบการปลูกไม้ดอกร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินบนพื้นที่สูง
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2551
ศึกษาระบบการปลูกไม้ผลร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินบนพื้นที่สูง ศึกษาการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินร่วมกับพืชปุ๋ยสดเพื่อการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่หมู่บ้านพัฒนาที่ดินบ้านต้นเนียง ตำบลเทพราช อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ศึกษาการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินร่วมกับการปลูกหญ้าแฝกเพื่อการปลูกมังคุดในพื้นที่หมู่บ้านพัฒนาที่ดินบ้านต้นเนียง ตำบลเทพราช อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ศึกษาการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการปลูกคะน้าและกวางตุ้งในพื้นที่หมู่บ้านพัฒนาที่ดินบ้านต้นเนียง ตำบลเทพราช อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ศึกษาการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินร่วมกับพืชปุ๋ยสดเพื่อการปลูกยางพาราในพื้นที่หมู่บ้านพัฒนาที่ดินบ้านต้นเนียง ตำบลเทพราช ตำบลบางเนียง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับผลิตภัณฑ์ชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อเพิ่มผลผลิตของยางพาราในเขตพัฒนาที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี การปรับปรุงบำรุงดินโดยใช้ผลิตภัณฑ์กรมพัฒนาที่ดินเพื่อปลูกข้าวหอมไชยา ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับผลิตภัณฑ์ชีวภาพกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการปลูกพืชในพื้นที่เขตพัฒนาที่ดิน จ.สุราษฎร์ธานี การศึกษาระบบการปลูกพืชไร่เชิงอนุรักษ์ร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพกรมพัฒนาที่ดิน บนพี้นที่สูง โครงการวิจัย และพัฒนาระบบการปลูกสตรอเบอรี่เพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิตบนพื้นที่สูงของจังหวัดเพชรบูรณ์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก