สืบค้นงานวิจัย
ผลของกากแป้งมันสำปะหลัง หินปูนบด และโดโลไมต์ต่อสมบัติดินและมันสำปะหลังที่ปลูกในชุดดินสตึก
พรชัย อุปพันธ์พงศ์ชัย - ไม่ระบุหน่วยงาน
ชื่อเรื่อง: ผลของกากแป้งมันสำปะหลัง หินปูนบด และโดโลไมต์ต่อสมบัติดินและมันสำปะหลังที่ปลูกในชุดดินสตึก
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of Cassava Starch Waste, Ground Limestone and Dolomite on Cassava Grown in Satuk Soil
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พรชัย อุปพันธ์พงศ์ชัย
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Pornchai Uppapanpongchai
บทคัดย่อ: ทำการศึกษาผลของกากมันสำปะหลัง หินปูนบด และโดโลไมต์ต่อสมบัติดินและมันสำปะหลังพันธุ์ห้วยบง 80 ที่ปลูกบนชุดดินสตึกในแปลงเกษตรกร จังหวัดนครราชสีมา วางแผนการทดลองแบบ randomized complete block จำนวน 4 ซ้ำ 9 ตำรับการทดลอง ได้แก่ ตำรับควบคุม (T1) ใส่กากแป้งสำปะหลังอัตรา 500 และ 1,000 กก./ไร่ (T2 และ 3) โดโลไมต์ (4) และหินปูนบด (T5) อัตรา 100 กก./ไร่ กากแป้งมันสำปะหลังอัตรา 500 และ 1,000 กก.ไร่ ร่วมกับโดโลไมต์ อัตราละ 100 กก./ไร่ (T6 และ T7) กากแป้งสำปะหลังอัตรา 500 และ 1,000 กก./ไร่ ร่วมกับหินปูนบดอัตราละ 100 กก./ไ (T8 และ T9) พบว่า การใส่กากแป้งมันสำปะหลังอัตรา 1,000 กก./ไร่ ร่วมกับโดโลไมต์อัตรา 100 กก./ไร่ (T7) ให้ผลผลิต หัวมันสำปะหลังสด สูงที่สุดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในปีแรกเท่ากับ 6.10 ต้นไร่ ตามลำดับ ส่วนในปีที่สอง การใส่กากแป้ง สำปะหลังอัตรา 500 กก./ไร่ (T2) ให้ผลผลิตหัวมันสำปะหลังสดสูงที่สุดเท่ากับ 5.65 1.47 ต้น/ไร่ ตามลำดับ แต่ไม่มีความ แตกต่างกันทางสถิติ ผลรวมผลผลิตของทั้ง 2 ปี พบว่า การใส่กากแป้งมันสำปะหลังอัตรา 1,000 กก.ไร่ ร่วมกับโดโลไมต์ อัตรา 100 กก./ไร่ (T7) ทำให้ได้น้ำหนักหัวมันสำปะหลังสดสูงสุดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเท่ากับ 11.56 ตันไร่ สมบัติดิน หลังการใส่วัสดุปรับปรุงดินต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปี พบว่า การใส่หินปูนบดอัตรา 100 กก./ไร่ ร่วมกับกากแป้งมันสำปะหลัง อัตรา 1,000 กก./ไร่ (T9) ทำให้ความหนาแน่นรวมของดินต่ำที่สุดที่ระดับความลึก 0-15 ชม. มีค่าเท่ากับ 1.28 เมกะกรัม/ ลบ.ม. และการใส่วัสดุปรับปรุงดินยังสงผลต่อสภาพนำน้ำขณะอิ่มตัวของดินทั้ง 3 ระดับความลึกเร็วขึ้น
บทคัดย่อ (EN): A study on the effect of cassava starch waste, ground limestone and dolomite on soil properties and yield of cassava, Huay Bong 80 variety, grown on Satuk soil series in a farmer field, Nakhon Ratchasima province was carried out. Randomized complete block design with four replications was performed. Nine treatments consisted of; no soil amendment (T1), soil amended with cassava starch waste at the rate of 500 and 1,000 kg/rai (T2 ,T3), dolomite (T4) and ground limestone (T5) each at the rate of 100 kg/rai, dolomite + cassava starch waste (T6) and ground limestone + cassava starch waste (T8) at respective rates of 100 and 500 kg/rai, dolomite + cassava starch waste (T7) and ground limestone + cassava starch waste (T9) at respective rates of 100 and 1,000 kg/rai . The application of cassava starch waste at the rate of 1,000 kg/rai + dolomite at the rate of 100 kg/rai (T7) significantly gave the highest fresh tuber yield and starch yield in the first year with the amounts of 6.10 and 1.81 t/rai, respectively. In the second year, the application of cassava starch waste at the rate of 500 kg/rai (T2) gave the highest fresh tuber yield and starch yield with the amounts of 5.65 and 1.47 t/rai, respectively, but with no statistical difference. It was found that the incorporation of cassava starch waste at the rate of 1,000 kg/rai + dolomite at the rate of 100 kg/rai (T7) significantly gave the highest two-year fresh tuber yield of 11.56 t/rai. The application of soil amendments for two consecutive years reduced bulk density of the soil at the depth between 0-15 cm of which the application of cassava starch waste at the rate of 1,000 kg/rai + ground limestone at the rate of 100 kg/rai (T9)-1 promoted the lowest bulk density of 1.28 Mg/m3 at the depth of 0-15 cm. In addition, the application of soil amendments resulted in faster saturated hydraulic conductivity of the soil in all three depths.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
จำนวนหน้า: 10
เอกสารแนบ: https://ag2.kku.ac.th/kaj/PDF.cfm?filename=04 Pornchai.pdf&id=2879&keeptrack=2
คำสำคัญ: โดโลไมต์
คำสำคัญ (EN): dolomite
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

พรชัย อุปพันธ์พงศ์ชัย. "ผลของกากแป้งมันสำปะหลัง หินปูนบด และโดโลไมต์ต่อสมบัติดินและมันสำปะหลังที่ปลูกในชุดดินสตึกEffect of Cassava Starch Waste, Ground Limestone and Dolomite on Cassava Grown in Satuk Soil". ไม่ระบุหน่วยงาน. 2560

พรชัย อุปพันธ์พงศ์ชัย. "ผลของกากแป้งมันสำปะหลัง หินปูนบด และโดโลไมต์ต่อสมบัติดินและมันสำปะหลังที่ปลูกในชุดดินสตึกEffect of Cassava Starch Waste, Ground Limestone and Dolomite on Cassava Grown in Satuk Soil". ไม่ระบุหน่วยงาน. 2560. Print.



TARR Wordcloud:
ผลของกากแป้งมันสำปะหลัง หินปูนบด และโดโลไมต์ต่อสมบัติดินและมันสำปะหลังที่ปลูกในชุดดินสตึก
พรชัย อุปพันธ์พงศ์ชัย
ไม่ระบุผู้เผยแพร่
2560
ผลของการจัดการปุ๋ยต่อสมบัติดิน การเจริญเติบโต และผลผลิตมันสำปะหลังในชุดดินยโสธร ผลของขี้เถ้าแกลบและโพแทสเซียมต่อสมบัติดิน และมันสำปะหลัง พันธุ์ห้วยบง 80 ที่ปลูกในชุดดินสตึก ผลของการไถพรวนต่อสมบัติดินและผลผลิตข้าวโพดที่ปลูกบนดินชุดดินวาริน ผลของเบนทอไนต์และปุ๋ยเคมีต่อมันสำปะหลังพันธุ์ห้วยบง 80 ที่ปลูกบนดิน Ustic Quartzipsamment ผลของกากแป้งมันสำปะหลังและถ่านแกลบชีวมวลต่อข้าวขาวดอกมะลิ 105 (KDML 105) ที่ปลูกในชุดดินร้อยเอ็ด ผลของการไถพรวนและวัสดุปรับปรุงดินต่อความเสถียรของเม็ดดินในชุดดินยโสธรที่ปลูกมันสำปะหลัง ผลสะสมของการไถพรวนและวัสดุปรับปรุงดินต่อมันสำปะหลังที่ปลูกในชุดดินวาริน ผลของปุ๋ยฟอสฟอรัสต่ออ้อยปลูกในชุดดินสตึกที่ปรับปรุงด้วยขี้เถ้าแกลบ ในอัตราที่แตกต่างกัน คุณสมบัติทางเคมี ชีวภาพและการสะสมกรดฮิวมิกในดินที่ได้รับ พืชปุ๋ยสดในระบบการปลูกมันสำปะหลัง ผลของเบนทอไนต์ต่อการเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ยโพแทสเซียมและผลผลิตมันสำปะหลังที่ปลูกในดินสตึก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair