สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาบทบาทของชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการทรัพยากรประมงในบึงบอระเพ็ด
คฑาวุธ ปานบุญ - กรมประมง
ชื่อเรื่อง: ศึกษาบทบาทของชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการทรัพยากรประมงในบึงบอระเพ็ด
ชื่อเรื่อง (EN): Fisheries Status and Catch Assessment in Boraphet Swamp
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: คฑาวุธ ปานบุญ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): KHATHAWUT PANBOON
บทคัดย่อ: อดีตพื้นที่บึงบอระเพ็ดเป็นที่ราบลุ่มอุดมไปด้วยป่าไม้เบญจพรรณ มีลำคลองเล็กๆไหลผ่าน ประกอบด้วยหนองน้ำหลายแห่งเมื่อถึงฤดูฝน จะมีน้ำทางเหนือไหลหลากทำให้บริเวณบึงบอระเพ็ดน้ำท่วมกลายเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ อุดมไปด้วยพันธุ์สัตว์น้ำ นานาชนิด ปี พ.ศ.2466 กระทรวงเกษตราธิการได้ให้ ดร. สมิท ซึ่งเป็นที่ปรึกษาเพาะพันธุ์ปลาชาวอเมริกัน ออกสำรวจบึงบอระเพ็ด ดร. สมิท ได้รายงานความเห็นเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2466 ว่าบึงบอระเพ็ดเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่และมีความสำคัญมากเกี่ยวกับเรื่องการประมง เพราะว่าเป็นแหล่งพันธุ์ปลา เป็นทำเลที่ปลาอาศัยเลี้ยงตัว วางไข่ และแพร่พันธุ์ ควรจะมีการบำรุงรักษาให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปลา ดังนั้นกระทรวงเกษตราธิการจึงได้นำเรื่องนี้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตสงวนบึงบอระเพ็ดไว้เป็นที่สงวนพันธุ์สัตว์น้ำ โดยการสร้างคันกั้นน้ำและประตูระบายน้ำ เพื่อเก็บกักน้ำที่ระดับ 23.80 ร.ท.ก. ตลอดปี และได้รับพระบรมราชานุญาตให้ดำเนินการเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2469 การก่อสร้างทำนบกั้นน้ำและประตูระบายน้ำเริ่มจากปี พ.ศ. 2470 และเสร็จในปี พ.ศ. 2471 สามารถกักเก็บน้ำได้ตลอดปี กระทรวงพระคลังมหาสมบัติในเวลานั้นได้ประกาศกำหนดเขตบึงบอระเพ็ดไว้เป็นที่รักษาพืชพันธุ์ปลาน้ำจืด ในปี พ.ศ. 2471 และพิจารณาแก้ไข ในปี พ.ศ. 2473 โดยกำหนดเนื้อที่ประกาศเป็นเขตหวงห้ามไว้ประมาณ 250,000 ไร่ และต่อมารัฐบาลได้ตราพระราชกฤษฎีกา ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2480 ถอนการหวงห้ามเหลืออยู่จนถึงปัจจุบัน 132,737 ไร่ 56 ตารางวา โดยมีอาณาเขตติดต่อกัน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอชุมแสง และอำเภอท่าตะโก ในปี พ.ศ. 2490 กระทรวงเกษตราธิการได้แบ่งเขตรักษาพืชพันธุ์ออกเป็น 2 เขต คือ เขตที่ 1 เป็นเขตหวงห้ามมิให้ผู้ใดทำการประมง โดยเด็ดขาด มีเนื้อที่ 38,850 ไร่ เขตที่ 2 เป็นเขตหวงห้ามที่อนุญาตให้ราษฎรทำการประมง โดยใช้เครื่องมือบางชนิดที่กำหนดให้ใช้ได้ มีเนื้อที่ 93,887 ไร่ 56 ตารางวา บึงบอระเพ็ดตั้งอยู่ ณ. ตำแหน่งภูมิศาสตร์ที่ละติจูด 15 องศา 40 ลิปดา ถึง 15 องศา 45 ลิปดาเหนือ และ ลองจิจูด 100 องศา 10 ลิปดา ถึง 100 องศา 23 ลิปดาตะวันออก มีพื้นที่ประมาณ 132, 737 ไร่ หรือ 212.3792 ตารางกิโลเมตร อยู่ในเขตการปกครองของจังหวัดนครสวรรค์ รวม 3 อำเภอ คือ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอชุมแสง และอำเภอท่าตะโก ซึ่งทั้ง 3 อำเภอได้แบ่งเขตที่กลางบึงบอระเพ็ด โดยมีอาณาเขต ดังนี้ ทิศเหนือ ขนานไปกับคลองปลากดในเขต อำเภอชุมแสง ท้องที่ตำบล ทับกฤช มีถนนสายทับกฤช – ท่าตะโก โดยได้แบ่งพื้นที่บึงบอระเพ็ดไปส่วนหนึ่ง ซึ่งพื้นที่ใน ด้านนี้จะมีความตื้นเขินมาก และมีราษฎร บุกรุกจับจองมากที่สุด ทิศตะวันออก จากปากคลองปลากดใน ถึงบ้านแหลมจันทร์ ในเขตอำเภอชุมแสงผ่านบ้านคลองบอน บ้านกระทุ่มเจ้า บ้านปากง่ามเหนือ ในเขตอำเภอท่าตะโก รวมถึงพื้นที่เขาพนมเศษ ทิศใต้ อยู่ในเขตอำเภอท่าตะโก และอำเภอเมือง ทิศตะวันตก อยู่ในเขตตำบลแควใหญ่ ตำบลเกรียงไกร อำเภอเมือง และตำบล ทับกฤช ในเขตอำเภอชุมแสงใช้ทางรถไฟเป็นขอบเขตจากสถานีรถไฟนครสวรรค์(สถานีหนองปลิงเดิม) ถึงสถานีคลองปลากด ปัจจุบันบึงบอระเพ็ดมีปัญหาต่างๆที่เกี่ยวข้องจนนำมาสู่การเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อม ซึ่งมีมาแต่ในอดีต แต่ปัญหาเหล่านี้ได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย การเพิ่มจำนวนการบุกรุกของประชาชนเข้าไปในพื้นที่บริเวณรอบบึงบอระเพ็ด มีการทำเกษตรกรรม ซึ่งกิจกรรมต่างๆเหล่านี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อระบบนิเวศหลายรูปแบบ รวมถึงสัตว์หน้าดินซึ่งเป็นแหล่งอาหารธรรมชาติที่สำคัญอย่างหนึ่ง รวมทั้งการขยายพันธุ์ของพืชน้ำอย่างรวดเร็ว เมื่อตายลงและทับถมกันมากขึ้นทำให้แหล่งน้ำตื้นเขินและแคบลง สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (2546) กล่าวว่าบึงบอระเพ็ดมีปัญหาที่เกิดจากการบุกรุกครอบครองพื้นที่บริเวณรอบๆบึงบอระเพ็ด นำมาสู่ปัญหาการเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อมธรรมชาติ การเกิดการตื้นเขินของบึงบอระเพ็ด เนื่องจากมีลำคลองสาขาที่ไหลลงบึงบอระเพ็ด เช่น แม่น้ำน่าน คลองบอน และอื่นๆ เกิดการพัดพาของตะกอนเข้าสู่บึง และการเกิดภัยแล้ง ทำให้เกษตรกรที่ทำการเกษตรรอบบึงทำการสูบน้ำจากบึงบอระเพ็ดเข้าสู่คลองธรรมชาติเพื่อทำการเกษตรและอุปโภคบริโภค จนเกิดสภาวะการขาดแคลนน้ำในบึงบอระเพ็ด รวมถึงปัญหาด้านการลักลอบจับสัตว์น้ำ การทำการประมงที่ผิดกฎหมาย เช่น การใช้ยาเบื่อเมา การใช้วัตถุระเบิด การใช้กระแสไฟฟ้าช็อตจับปลา และการจับปลาด้วยตาข่ายดักปลาที่มีช่องตาขนาดเล็กต่ำกว่าขนาดที่กำหนด การลักลอบจับปลาในฤดูวางไข่ ตลอดจนการลักลอบเข้าไปจับปลาในเขตห้ามทำการประมงทุกประเภทตลอดปี (สุอินทร์ , 2537) จนทำให้มีจำนวนลดน้อยลงและบางชนิดสูญพันธุ์ การศึกษาโครงสร้างของชนิดและปริมาณการแพร่กระจายของประชาคมปลาในบึงบอระเพ็ด จึงมีความสำคัญในการที่จะเป็นข้อมูลพื้นฐาน เพื่อเป็นแนวทางไปสู่การจัดการทรัพยากรประมงในบึงบอระเพ็ดต่อไป เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเสื่อมโทรมที่เกิดขึ้นกับทรัพยากรประมงในบึงบอระเพ็ด จึงควรที่จะศึกษา เพื่อหาแนวทางในการกำหนดมาตรการการใช้ประโยชน์ทรัพยากรประมงในบึงบอระเพ็ด โดยการให้ชุมชนและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรประมง เพื่อให้ชุมชนและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นมีความรู้ ความเข้าใจในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรประมงในบึงบอระเพ็ด เพราะความรู้ความเข้าใจในการใช้ทรัพยากรเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่ความร่วมมือในการบริหารจัดการทรัพยากรประมง ที่เป็นสมบัติของชุมชนทุกคนในอันที่จะช่วยกันรักษาและพัฒนาให้คงอยู่อย่างยั่งยืนถาวร โดยให้ชุมชนผู้เป็นเจ้าของทรัพยากรมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ การใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยังคงอยู่ในชุมชนรอบ ๆ บึงบอระเพ็ดให้ได้ใช้ประโยชน์ต่อไปอย่างยั่งยืน การศึกษาบทบาทของชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดการทรัพยากรประมงในบึงบอระเพ็ด มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาบทบาทของชุมชนในการเข้าถึงการใช้ประโยชน์ การได้รับประโยชน์ และการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรประมง 2. ศึกษาบทบาทหญิงชายในการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรประมง 3. ศึกษาบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรประมง 4. ศึกษารูปแบบการจัดการทรัพยากรประมงของชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในปัจจุบัน
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมประมง
คำสำคัญ: บึงบอระเพ็ด
คำสำคัญ (EN): Roles of Communities and Local Administration Organizations on Fisheries Resource Management in Boraphed Swamp.
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ศึกษาบทบาทของชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการทรัพยากรประมงในบึงบอระเพ็ด
กรมประมง
30 กันยายน 2552
กรมประมง
บทบาทของชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต่อการจัดการทรัพยากรประมงในคลองอู่ตะเภา จังหวัดสงขลา บทบาทของชุมชนต่อการจัดการทรัพยากรประมงในแม่น้ำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช (บทบาทของชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต่อการจัดการทรัพยากรประมงในแม่น้ำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช) บทบาทและการมีส่วนร่วมของชุมชนและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการทรัพยากรประมงในอ่างเก็บน้ำเขื่อนประแสร์ จังหวัดระยอง ประสิทธิภาพในการใช้มาตรการในการจัดการทรัพยากรประมงในบึงบอระเพ็ด สถานภาพการจัดการทรัพยากรประมงแบบมีส่วนร่วมในแม่น้ำน่าน การประเมินสภาวะชนบทแบบมีส่วนร่วม และบทบาทของชุมชน องค์การปกครอง ส่วนท้องถิ่นในการจัดการทรัพยากรประมงในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ จังหวัดกาญจนบุรี บทบาทของชุมชนและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นต่อการจัดการทรัพยากรประมงในบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย การประเมินสถานภาพทรัพยากรประมง เศรษฐกิจสังคมและการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรประมงแบบมีส่วนร่วมในพื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยา (เปลี่ยนชื่อโครงการเป็น ชุดโครงการระบบนิเวศ ทรัพยากรประมง แล การประเมินสภาวะการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารทรัพยากรประมงในบึงบอระเพ็ด ปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรประมงของชุมชนท้องถิ่นจังหวัดเพชรบุรี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก