สืบค้นงานวิจัย
การขจัดหมึกจากกระดาษถ่ายเอกสารและกระดาษที่ผ่านการพิมพ์แบบเลเซอร์ด้วยกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
พนิตนาฎ จันทรานุภาพ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
ชื่อเรื่อง: การขจัดหมึกจากกระดาษถ่ายเอกสารและกระดาษที่ผ่านการพิมพ์แบบเลเซอร์ด้วยกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ชื่อเรื่อง (EN): Environmentally friendly dein
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พนิตนาฎ จันทรานุภาพ
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาการขจัดหมึกในกระดาษที่ผ่านการถ่ายเอกสารและการพิมพ์แบบเลเซอร์โดยใช้เอนไซม์เซลลูเลสร่วมกับสารลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุโดยใช้ Triton X-100 และแยกหมึกออกโดยวิธีการลอยฟองอากาศ ปัจจัยที่ศึกษา ได้แก่ สภาวะในการลอยฟองอากาศ ปริมาณเอนไซม์ในช่วง 0-0.15% (ต่อน้ำาหนักเยื่อแห้ง) และปริมาณสารลดแรงตึงผิวในช่วง 0-1.2% (ต่อน้ำหนักเยื่อแห้ง) จากการทดลองพบว่าเมื่อเพิ่มปริมาณเอนไซม์และสารลดแรงตึงผิวร่วมกับการลอยฟองอากาศ ส่งผลให้ค่าปริมาณหมึกที่เหลืออยู่ในกระดาษลดลง ในขณะที่ค่าสภาพการระบายได้ของเยื่อ ค่าความขาวสว่าง ค่าดรรชนีความแข็งแรงต่อแรงดึง และค่าดรรชนีความแข็งแรงต่อแรงฉีกของกระดาษมีค่าเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการใช้เอนไซม์และสารลดแรงตึงผิวในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้ประสิทธิภาพการขจัดหมึกและความแข็งแรงของเยื่อและกระดาษลดลง สภาวะการทดลองที่ให้ประสิทธิภาพในการขจัดหมึกดีที่สุด คือ การใช้เอนไซม์ปริมาณ 0.1% (ต่อน้ำหนัก เยื่อแห้ง) ร่วมกับการใช้สารลดแรงตึงผิวปริมาณ 0.9% (ต่อน้ำหนักเยื่อแห้ง) และจากการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขจัดหมึก พบว่าน้ำทิ้งจากกระบวนการขจัดหมึกมีค่า Chemical Oxygen Demand (COD) และสภาพความเป็นกรด-ด่าง (pH) ที่เหมาะสมตามมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำ ทิ้งจากแหล่งกำเนิดประเภทโรงงานอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรม
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
คำสำคัญ: การแยกQP609.C37
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
รายละเอียด: งานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาการขจัดหมึกในกระดาษที่ผ่านการถ่ายเอกสารและการพิมพ์แบบเลเซอร์โดยใช้เอนไซม์เซลลูเลสร่วมกับสารลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุโดยใช้ Triton X-100 และแยกหมึกออกโดยวิธีการลอยฟองอากาศ ปัจจัยที่ศึกษา ได้แก่ สภาวะในการลอยฟองอากาศ ปริมาณเอนไซม์ในช่วง 0-0.15% (ต่อน้ำาหนักเยื่อแห้ง) และปริมาณสารลดแรงตึงผิวในช่วง 0-1.2% (ต่อน้ำหนักเยื่อแห้ง) จากการทดลองพบว่าเมื่อเพิ่มปริมาณเอนไซม์และสารลดแรงตึงผิวร่วมกับการลอยฟองอากาศ ส่งผลให้ค่าปริมาณหมึกที่เหลืออยู่ในกระดาษลดลง ในขณะที่ค่าสภาพการระบายได้ของเยื่อ ค่าความขาวสว่าง ค่าดรรชนีความแข็งแรงต่อแรงดึง และค่าดรรชนีความแข็งแรงต่อแรงฉีกของกระดาษมีค่าเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการใช้เอนไซม์และสารลดแรงตึงผิวในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้ประสิทธิภาพการขจัดหมึกและความแข็งแรงของเยื่อและกระดาษลดลง สภาวะการทดลองที่ให้ประสิทธิภาพในการขจัดหมึกดีที่สุด คือ การใช้เอนไซม์ปริมาณ 0.1% (ต่อน้ำหนัก เยื่อแห้ง) ร่วมกับการใช้สารลดแรงตึงผิวปริมาณ 0.9% (ต่อน้ำหนักเยื่อแห้ง) และจากการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขจัดหมึก พบว่าน้ำทิ้งจากกระบวนการขจัดหมึกมีค่า Chemical Oxygen Demand (COD) และสภาพความเป็นกรด-ด่าง (pH) ที่เหมาะสมตามมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำ ทิ้งจากแหล่งกำเนิดประเภทโรงงานอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรม
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การขจัดหมึกจากกระดาษถ่ายเอกสารและกระดาษที่ผ่านการพิมพ์แบบเลเซอร์ด้วยกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
2555
รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์กระดาษจากต้น เปลือก และซังข้าวโพด โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน การพัฒนาผลิตภัณฑ์กระดาษจากฟางข้าว การศึกษาผลของกระดาษจากเศษไม้มะม่วงกลึงที่มีต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน การผลิตและทดสอบสมบัติของกระดาษจากสาหร่ายน้ำจืดสีเขียว โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์กระดาษจากแกนสับปะรดDevelopment of paper products from pineapple core เครื่องเตรียมวัตถุดิบสำหรับการทำกระดาษเปเปอร์มาเช่ โครงการการพัฒนากระดาษจากใบอ้อยด้วยมือแบบไทยเพื่องานหัตถกรรมและบรรจุภัณฑ์ การศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจากกระดาษมูลช้าง เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การผลิตเยื่อกระดาษจากกาบกล้วยน้ำว้าด้วยวิธีทางชีวภาพโดยใช้ Trichoderma viride อิทธิพลของระยะเวลาในการห่อผลโดยใช้ถุงกระดาษคาร์บอนต่อคุณภาพผลมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก