สืบค้นงานวิจัย
ต้นแบบการผลิตพันธุ์ปลากะรังที่มีมูลค่าสูงเชิงพาณิชย์
วารินทร์ ธนาสมหวัง - กรมประมง
ชื่อเรื่อง: ต้นแบบการผลิตพันธุ์ปลากะรังที่มีมูลค่าสูงเชิงพาณิชย์
ชื่อเรื่อง (EN): Prototype for Seed Production of High Value Grouper Fish in Commercial Scale
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วารินทร์ ธนาสมหวัง
ผู้ร่วมงาน / ผู้ร่วมวิจัย:
คำสำคัญ: ต้นแบบ ผลิตพันธุ์ กะรัง เชิงพาณิชย์
คำสำคัญ (EN): Prototype seed production grouper commercial scale
บทคัดย่อ:      สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ได้สนับสนุนทุนวิจัยโครงการ “ต้นแบบการผลิตพันธุ์ปลากะรังที่มีมูลค่าสูงเชิงพาณิชย์” แก่กรมประมง มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากระบวนการผลิตพันธุ์ปลากะรังมูลค่าสูง ได้แก่ ปลากะรังเสือ ปลาหมอทะเล และปลากะรังจุดฟ้า หรือปลากุดสลาด ตั้งแต่การรวบรวมพันธุ์ การเลี้ยงขุนพ่อแม่พันธุ์ การเพาะพันธุ์ให้ได้ลูกพันธุ์จำนวนมากขึ้น และอนุบาลลูกปลากะรังมีอัตรารอดตายสูงขึ้น เพื่อเป็นต้นแบบนำไปสู่กระบวนการผลิตที่เป็นเชิงพาณิชย์ต่อไป       จากการศึกษาวิจัย พบว่า ได้จัดซื้อพ่อแม่พันธุ์รวมตั้งแต่เริ่มโครงการแล้ว 369 ตัว  โดยผลของการใช้ฮอร์โมน 17a-methyltestosterone ต่อความสมบูรณ์พันธุ์และคุณภาพน้ำเชื้อของปลากะรังจุดฟ้า พบว่า ระดับความเข้มข้นที่เหมาะสมของฮอร์โมน MT ที่ผสมในอาหาร คือ 2.5 มิลลิลิตร/อาหาร1 กิโลกรัม ซึ่งทำให้ปลากะรังจุดฟ้ามีสมบูรณ์พันธุ์ และมีน้ำเชื้อที่ได้คุณภาพ ส่วนผลของการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ในระบบปิดและระบบเปิดต่อการวางไข่ของปลากะรังจุดฟ้า พบว่า พ่อแม่พันธุ์ปลาที่เลี้ยงในระบบปิดสามารถวางไข่ได้ดีกว่าการเลี้ยงในระบบเปิด โดยดำเนินการฝังฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำเชื้อของพ่อพันธุ์ สามารถผลิตน้ำเชื้อได้บางส่วนแล้ว ประกอบกับไข่ที่ออกมามากประมาณ 2,057,428 ฟอง (ประมาณ 4 เดือน) ทำให้สามารถผสมและฟักลูกปลากะรังจุดฟ้าได้จำนวน 962,000 ตัว โดยมีอัตราการฟักประมาณ 49.1%  ส่วนการผลิตลูกปลากะรังจุดฟ้า ปลากะรังเสือ ปลาหมอทะเล ยังไม่พบเชื้อไวรัส VNN และได้ทำการคัดเลือกไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์แล้ว ซึ่งขณะนี้ได้นำพ่อแม่พันธุ์ดังกล่าวผลิตลูกพันธุ์จำนวน 3 รุ่น ประกอบด้วย ลูกพันธุ์ปลากะรังเสือ 2 รุ่น และปลาหมอทะเล 1 รุ่น อีกทั้งวิธีการตรวจไวรัส VNN ได้ทำการอบรมการใช้ให้กับศูนย์วิจัย เพื่อให้สามารถดำเนินการเองได้ อัตราการให้อากาศต่อการเจริญเติบโตและอัตรารอดตายในการอนุบาลปลากะรังเสือวัยอ่อน พบว่า อัตราการให้อากาศที่ทำให้อัตราการรอดตายดีที่สุด สำหรับลูกปลากะรังเสืออายุ 1-12 วัน และอายุ 13-30 วัน คือ 200 มิลลิลิตร/นาที และ 600-800 มิลลิลิตร/นาที ตามลำดับ รูปแบบการให้อากาศในการอนุบาลปลากะรังเสือแบบกระแสน้ำเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวเหมาะสมสำหรับใช้อนุบาลปลากะรังเสืออายุ 14-30 วัน รองลงมาคือ การอนุบาลลูกปลากะรังเสือด้วยรูปแบบการให้อากาศแบบกระแสน้ำเคลื่อนที่ไปหลายทิศทาง      ประโยชน์ที่จะได้รับจากผลงานวิจัยได้ต้นแบบการผลิต คู่มือการผลิต ระบบบริหารจัดการการเลี้ยง และการเพาะพันธุ์ปลากะรังมูลค่าสูง 3 ชนิด คือ ปลาหมอทะเล ปลากะรังจุดฟ้า และปลากะรังเสือ สามารถขยายผลไปยังภาคเอกชน/เกษตรกร ที่สนใจขยายพันธุ์เพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์
ปีเริ่มต้นงานวิจัย: 2553-08-18
ปีสิ้นสุดงานวิจัย: 2558-08-17
ลิขสิทธิ์: แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-ND 3.0 TH)
ปีที่ได้รับงบประมาณ (ระบุได้มากกว่า 1 ปี): 2553
เผยแพร่โดย: กรมประมง
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ต้นแบบการผลิตพันธุ์ปลากะรังที่มีมูลค่าสูงเชิงพาณิชย์
กรมประมง
17 สิงหาคม 2558
กรมประมง
การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงปลากะรังดอกแดงเชิงพาณิชย์ โครงการร่วมวิจัยและพัฒนาต้นแบบ ระบบหมุนเวียนน้ำเพื่อการเลี้ยงลูกปลานิลเชิงพาณิชย์ การคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์ปลาบึกและปลาสวายเพื่อผลิตสายพันธุ์ปลาหนังลูกผสมเชิงพาณิชย์ การผลิตโมโนโคลนอลแอนติบอดีที่จำเพาะต่อ nervous necrosis virus (NNV) เพื่อการวินิจฉัยโรคติดเชื้อ NNV ในปลากะรัง เทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดีเชิงพาณิชย์ในแปลงเกษตรกร การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตปลาโมงและปลาโมงลูกผสมเพื่อเพิ่ม ศักยภาพการแข่งขันเชิงพาณิชย์ การทดสอบเสถียรภาพของพันธุ์ฟักทองที่มีน้ำมันในเมล็ดสูงเพื่อการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ การวิจัยและพัฒนาการผลิตข้าวเสาไห้พันธุ์เจ๊กเชยเชิงพาณิชย์จังหวัดสระบุรี การพัฒนาโรงงานต้นแบบและเทคโนโลยีการผลิตชีวภัณฑ์ไส้เดือนฝอยกำจัดแมลงในเชิงพาณิชย์ เทคโนโลยีที่จะได้เห็นในเชิงพาณิชย์มากขึ้น

แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-ND 3.0 TH)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก