สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาวิธีการผลิตน้ำส้มสายชูจากสับปะรดโดยการหมักวิธีธรรมชาติและใช้เครื่องหมัก
เศรษฐศิลป์ อัมมวรรธน์ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
ชื่อเรื่อง: ศึกษาวิธีการผลิตน้ำส้มสายชูจากสับปะรดโดยการหมักวิธีธรรมชาติและใช้เครื่องหมัก
ชื่อเรื่อง (EN): Study on Vinegar Producing from Pineapple by Natural Fermentation and the use of Fermenter
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เศรษฐศิลป์ อัมมวรรธน์
บทคัดย่อ: การทำน้ำส้มสายชูหมักจากสับปะรด เป็นการนำวัตถุดิบที่มีมากในท้องถิ่น จ.ลำปาง มาแปรรูป โดยการหมักวิธีธรรมชาติและการใช้เครื่องหมัก ใช้น้ำสับปะรดความหวานเริ่มต้น 18 และ 20 องศาบริกซ์ ความเป็นกรดเป็นด่าง 4.0 ใช้เวลาหมัก 45 วัน ได้ไวน์มีปริมาณแอลกอฮอล์ เฉลี่ยร้อยละ 8.8 และ 12.0 ตามลำดับ ปริมาณของแข็งที่ละลายได้ทั้งหมดเฉลี่ย 6.8 และ 6.3 องศา บริกซ์ ตามลำดับ ความเป็นกรดด่างเฉลี่ย 2.94 และ 2.91 ตามลำดับ นำไวน์ที่ได้ไปหมักเป็นน้ำส้มสายชูโดยวิธีธรรมชาติ ให้กระบวนการเกิดขึ้นอย่างช้าๆ เป็นเวลา 16 สัปดาห์ ได้ น้ำส้มสายชู ซึ่งมีกรดน้ำส้มเฉลี่ยร้อยละ 4.11 และ 4.27 ตามลำดับ ปริมาณของแข็งที่ละลายได้ ทั้งหมดเฉลี่ย 12.3 และ 13.1 องศาบริกซ์ ตามลำดับ น้ำส้มสายชูที่ได้จากการหมักโดยใช้เครื่องใช้เวลาหมัก 24 ชั่วโมง พบว่ามีกรดน้ำส้มเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉลี่ยร้อยละ 4.11 และ 4.12 ตามลำดับ ปริมาณของแข็งที่ละลายได้ทั้งหมดเฉลี่ย 11.3 และ 12.4 องศาบริกซ์ ตามลำดับ น้ำส้มสายชูหมักที่ได้มีสีเหลืองใส มีกลิ่นหมอกรดน้ำส้ม รสเปรี้ยวถึงเปรี้ยวจัดมาก จากการเปรียบเทียบกรรมวิธีการหมักทั้งสองวิธี พบว่า คุณภาพของน้ำส้มสายชูที่ได้มีคุณภาพใกล้เคียงกัน การหมักโดยใช้เครื่องหมักประหยัดเวลาในการหมักมากกว่า แต่สามารถผลิตได้ในปริมาณจำกัดและต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=44&RecId=227&obj_id=1166
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
คำสำคัญ: สับปะรด
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
รายละเอียด: การทำน้ำส้มสายชูหมักจากสับปะรด เป็นการนำวัตถุดิบที่มีมากในท้องถิ่น จ.ลำปาง มาแปรรูป โดยการหมักวิธีธรรมชาติและการใช้เครื่องหมัก ใช้น้ำสับปะรดความหวานเริ่มต้น 18 และ 20 องศาบริกซ์ ความเป็นกรดเป็นด่าง 4.0 ใช้เวลาหมัก 45 วัน ได้ไวน์มีปริมาณแอลกอฮอล์ เฉลี่ยร้อยละ 8.8 และ 12.0 ตามลำดับ ปริมาณของแข็งที่ละลายได้ทั้งหมดเฉลี่ย 6.8 และ 6.3 องศา บริกซ์ ตามลำดับ ความเป็นกรดด่างเฉลี่ย 2.94 และ 2.91 ตามลำดับ นำไวน์ที่ได้ไปหมักเป็นน้ำส้มสายชูโดยวิธีธรรมชาติ ให้กระบวนการเกิดขึ้นอย่างช้าๆ เป็นเวลา 16 สัปดาห์ ได้ น้ำส้มสายชู ซึ่งมีกรดน้ำส้มเฉลี่ยร้อยละ 4.11 และ 4.27 ตามลำดับ ปริมาณของแข็งที่ละลายได้ ทั้งหมดเฉลี่ย 12.3 และ 13.1 องศาบริกซ์ ตามลำดับ น้ำส้มสายชูที่ได้จากการหมักโดยใช้เครื่องใช้เวลาหมัก 24 ชั่วโมง พบว่ามีกรดน้ำส้มเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉลี่ยร้อยละ 4.11 และ 4.12 ตามลำดับ ปริมาณของแข็งที่ละลายได้ทั้งหมดเฉลี่ย 11.3 และ 12.4 องศาบริกซ์ ตามลำดับ น้ำส้มสายชูหมักที่ได้มีสีเหลืองใส มีกลิ่นหมอกรดน้ำส้ม รสเปรี้ยวถึงเปรี้ยวจัดมาก จากการเปรียบเทียบกรรมวิธีการหมักทั้งสองวิธี พบว่า คุณภาพของน้ำส้มสายชูที่ได้มีคุณภาพใกล้เคียงกัน การหมักโดยใช้เครื่องหมักประหยัดเวลาในการหมักมากกว่า แต่สามารถผลิตได้ในปริมาณจำกัดและต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ศึกษาวิธีการผลิตน้ำส้มสายชูจากสับปะรดโดยการหมักวิธีธรรมชาติและใช้เครื่องหมัก
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
2527
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการผลิตน้ำส้มสายชูหมักจากสับปะรด การใช้เปลือกสัปะรดหมักเลี้ยงโค : ลักษณะทางกายภาพและคุณค่าอาหารของเปลือกสับปะรดหมัก เครื่องปอกเปลือกและเจาะแกนสับปะรด โครงการการพัฒนาน้ำหมักชีวภาพจากสับปะรดในรูปแบบผงแห้งที่เอนไซม์โปรติเอสผสมยังคงสภาพ การผลิตแซนแทนกัมจากน้ำคั้นเปลือกสับปะรด ผลตกค้างของสารกำจัดวัชพืชในสับปะรดและแปลงปลูกสับปะรด การศึกษาใบมีดที่เหมาะสมสำหรับเครื่องปอกเปลือกเหง้าสับปะรด การใช้ประโยชน์จากโปรติโอไลติกสับปะรดสำหรับผลิตอาหาร ฟังก์ชัน การกำจัดโลหะหนักในน้ำโดยใช้เศษเหลือทิ้งของสับปะรดเป็นตัวดูดซับ การศึกษาอัตราปุ๋ยทีเหมาะสมของสับปะรด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก