สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาโครงสร้างอาชีพและการปรับตัวของครัวเรือนเกษตรในพื้นที่นำท่วมซ้ำซาก
หัทยา ทับสวัสดิ์ - สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การศึกษาโครงสร้างอาชีพและการปรับตัวของครัวเรือนเกษตรในพื้นที่นำท่วมซ้ำซาก
บทคัดย่อ: อุทกภัยเป็นภัยธรรมชาติหนึ่งที่สร้างความเสียหายอย่างมากต่อภาคการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากจังหวัดนครสวรรค์ พิษณุโลก และพิจิตร ต้องประสบกับความเสี่ยงในการประกอบอาชีพและความยากลำบากในการดำรงชีวิตอยู่เป็นประจำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ เพื่อศึกษาการประกอบอาชีพและวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจของครัวเรือนเกษตร รวมทั้งศึกษาการปรับตัวและความต้องการของเกษตรกรในการดำรงชีพในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพ เพื่อความเป็นอยู่ของเกษตรกรที่ดีขึ้นและมีความยั่งยืนในการประกอบอาชีพทางการเกษตร โดยใช้วิธีการวิเคราะห์ทางสถิติเชิงพรรณนา tive Statistics) ผลการศึกษาวิเคราะห์สรุปได้ว่า ครัวเรือนเกษตรมีขนาดพื้นที่ถือครองโดยเฉลี่ย 56 ไร่ มีการปลูกข้าวเป็นอาชีพหลักคิดเป็นร้อยละ 97 ของจำนวนครัวเรือน โดยมีครัวเรือนที่ปลูกข้าวเพียงอย่างเดียวร้อยละ ของครัวเรือนที่ปลูกข้าว ส่วนที่เหลือจะมีการปลูกข้าวร่วมกับการปลูกพืชอื่นเพียงเล็กน้อย เช่น พืชไร่ พืชผัก ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ผล และเลี้ยงสัตว์ โดยมีการปลูกข้าวปีละ 3 รอบ โดยไม่พักดินและมีการประกอบอาชีพนอกการเกษตรคิดเป็นร้อยละ 56 ของครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานของรัฐเอกชนและรับจ้างทั่วไป ช่วงเวลาน้ำท่วมประมาณเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี สภาพเศรษฐกิจของครัวเรือน พบว่ามีครัวเรือนที่มีรายได้ทางการเกษตรไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในครัวเรือนถึงร้อยละ 62 ของจำนวนตัวอย่าง สาเหตุเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เช่าแปลงใหญ่ ไม่สามารถแยกแปลงปลูกและอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำระดับน้ำท่วมสูงไม่สามารถป้องกันพื้นที่จากน้ำท่วมได้ และแหล่งน้ำไม่เพียงพอในหน้าแล้ง รวมทั้ง การปลูกข้าวต่อเนื่องไม่พักดินทำให้เกิดวงจรของโรคพืชและแมลง ทำให้ผลผลิตข้าวได้รับเสียหายในปริมาณมาก ทั้งจากน้ำท่วม ภัยแล้ง และโรคแมลงศัตรูพืชมากกว่าร้อยละ 50 ของพื้นที่ รายได้นอกการเกษตรจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะเข้ามาเสริมให้กับครัวเรือนมีรายได้เพิ่มขึ้น การปรับตัวของเกษตรกรมีการปรับเลื่อนเวลาการปลูกข้าวโดยหลีกเลี่ยงการปลูกข้าวนาปีเพราะน้ำท่วมในช่วงเวลาเก็บเกี่ยวเสมอ เกษตรกรใช้พันธุ์ข้าวเบาที่มีอายุ 100 วัน โดยใช้วิธีการปักดำและโยนกล้าเพื่อให้สามารถเก็บเกี่ยวข้าวได้เร็วและปลูกข้าวได้ต่อเนื่อง พฤติกรรมการยอมรับของเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นแบบผู้ยอมรับล้าหลังมีความคิดที่ถ่ายถอดจากบรรพบุรุษ ไม่สนใจประกอบอาชีพอื่นนอกจากทำนา เกษตรกรขาดความกระตือรือร้นในการใฝ่หาความรู้เพิ่มเติม เกษตรกรจึงมีการดำเนินชีวิตแบบพออยู่พอกินและรอความช่วยเหลือจากภาครัฐ ข้อเสนอแนะ ควรมีระบบวางแผนการผลิตข้าวชนิดพันธุ์ข้าวที่ปลูกในแต่ละพื้นที่ การส่งเสริมเมล็ดพันธุ์ดีต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช มีการเปลี่ยนพันธุ์ข้าวปลูกทุกๆ 3 ปี และปลูกข้าวไม่เกินปีละรอบ ส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบเป็นศูนย์การเรียนรู้ การลดต้นทุนการผลิต ลดรายจ่ายในครัวเรือนและลดการพึ่งพาปัจจัยภายนอกตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายในชุมชนให้มีส่วนร่วมในการจัดการตนเองทั้งการพัฒนาอาชีพและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของชุมชน รวมทั้งร่วมกันจัดทำแผนฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพของครัวเรือนเกษตรในแต่ละชุมชน เพื่อให้ครัวเรือนเกษตรมีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
คำสำคัญ: พื้นที่
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

หัทยา ทับสวัสดิ์. "การศึกษาโครงสร้างอาชีพและการปรับตัวของครัวเรือนเกษตรในพื้นที่นำท่วมซ้ำซาก". สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร. 2555

หัทยา ทับสวัสดิ์. "การศึกษาโครงสร้างอาชีพและการปรับตัวของครัวเรือนเกษตรในพื้นที่นำท่วมซ้ำซาก". สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร. 2555. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาโครงสร้างอาชีพและการปรับตัวของครัวเรือนเกษตรในพื้นที่นำท่วมซ้ำซาก
หัทยา ทับสวัสดิ์
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
30 กันยายน 2555
กลยุทธ์การปรับตัวคงอยู่ในอาชีพที่มีการเกษตรเป็นฐานของครัวเรือนเกษตรกร : การศึกษาทฤษฏีฐานราก ผลิตภาพสินเชื่อของครัวเรือนเกษตรภาคเหนือ การศึกษาพฤติกรรมการใช้รองเท้าบู๊ทในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ของประชาชนเพื่อป้องกันและควบคุมโรคเลปโตสไปโรซีสในพื้นที่เสี่ยงของเขต 1 การใช้วัสดุพลอยได้การเกษตรเลี้ยงโค องค์ประกอบในการพัฒนาอาชีพเกษตร การประกอบอาชีพขุนโคเนื้อคุณภาพสูงของเกษตรกร จังหวัด สกลนคร นครพนมและ มุกดาหาร * การปรับตัวจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศของเกษตรกรชนเผ่าบนพื้นที่สูง ในพื้นที่โครงการหลวง การทดสอบเทคโนโลยีการเลี้ยงลูกโคนมเพศผู้ในสภาพขังคอกในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ผลของสายพันธุ์โคตัวรับต่ออัตราการตั้งท้องหลังการย้ายฝากตัวอ่อนโคแช่แข็งโดยวิธี Direct transfer กระบวนการปรับตัวโดยชุมชนเป็นฐานต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในพื้นที่ชายฝั่ง: กรณีศึกษาชุมชนชายฝั่ง จังหวัดนครศรีธรรมราช
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair