สืบค้นงานวิจัย
โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตถั่วลิสง
กรมวิชาการเกษตร - กรมวิชาการเกษตร
ชื่อเรื่อง: โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตถั่วลิสง
ชื่อเรื่อง (EN): Research and Development on Production Improvement of Peanut
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: กรมวิชาการเกษตร
บทคัดย่อ: เนื่องจากถั่วลิสงเป็นพืชที่ผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการการบริโภค และประสบปัญหา ผลผลิตและคุณภาพต่ำ ต้นทุนการผลิตสูง ดังนั้นจึงได้จัดทำโครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตถั่วลิสง เพื่อแก้ปัญหา โดยมีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อปรับปรุงพันธุ์ถั่วลิสงฝักต้มและถั่วลิสงเมล็ดปานกลาง ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์รับรองเดิม และพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงและทนทานโรคยอดไหม้ รวมทั้งข้อมูลจำเพาะของพันธุ์ 2) เพื่อจำแนกลักษณะและประเมินคุณค่าเชื้อพันธุกรรมถั่วลิสง เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในด้านปรับปรุงพันธุ์ถั่วลิสงและอนุรักษ์เชื้อพันธุ์พืช 3) เพื่อสร้างและพัฒนาระบบฐานข้อมูลการจัดการผลิตถั่วลิสง และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพของถั่วลิสง 4) เพื่อเพิ่มคุณภาพเมล็ดพันธุ์ ลดปัญหาสารพิษอะฟลาทอกซิน เพื่อลดต้นทุนด้านแรงงานในการผลิต และเพิ่มมูลค่าของถั่วลิสงโดยใช้ใบและต้นหมักเป็นอาหารสัตว์ โดยดำเนินการที่ศูนย์วิจัยพืชไร่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร และศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรม ระหว่างปี 2554-2558 ผลการทดลองพบ 1) สายพันธุ์ดีเด่นขนาดเมล็ดปานกลางที่ให้ผลผลิตสูง 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ KK97-44-106 KK4915-2 KK4918-3 และ KK4920-15 สายพันธุ์ถั่วลิสงฝักสดต้มดีเด่น คือ สายพันธุ์ KKFCRC49-02-2-1 และ KKFCRC49-06-7-1 2) สายพันธุ์ถั่วลิสงฝักสดต้ม 44 สายพันธุ์ และถั่วลิสงขนาดเมล็ดปานกลาง 40 สายพันธุ์ ที่ทนทานต่อโรคยอดไหม้ 3) ข้อมูลจำเพาะของสายพันธุ์ดีเด่น คือ 3.1) ได้ค่าสัมประสิทธิ์พันธุกรรมของถั่วลิสง 10 สายพันธุ์ ใช้ในแบบจำลอง CSM-CROPGRO-Peanut 3.2) การใส่แคลเซียมและปุ๋ยเคมีไม่มีผลต่อผลผลิตของสายพันธุ์ขนาดเมล็ดปานกลาง KK 97-44-106 และ KK 43-46-1 แต่มีผลกับถั่วลิสงฝักต้มสายพันธุ์ KKFC49-02-8-3 3.3) อัตราประชากรที่เหมาะสมกับสายพันธุ์ KK94-4-106 KK43-46-1 และถั่วลิสงฝักต้มสายพันธุ์ KKFCRC4906-7-1 และ KKFCRC4902-8-3 คือ 48,000-64,000 ต้นต่อไร่ 32,000-48,000 ต้นต่อไร่ 16,000 ต้นต่อไร่ และ 16,000 ต้นต่อไร่ ตามลำดับ โดยมีอายุเก็บเกี่ยวแตกต่างกันในฤดูแล้งและฝน 3.4) การศึกษาปฏิกิริยาของสายพันธุ์ถั่วลิสงต่อโรคยอดไหม้ พบว่า มี 10 สายพันธุ์เป็นโรคยอดไหม้ในธรรมชาติต่ำกว่าและแตกต่างจากพันธุ์ตรวจสอบ แต่ไม่พบความแตกต่างกับนโรคโคนเน่า ส่วนกับโรคทางใบที่อายุ 45 วัน ยังไม่พบอาการของโรคราสนิม อาจเนื่องมาจากสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสมต่อการเกิดโรค 4) ข้อมูลลักษณะสัณฐานวิทยา ลักษณะทางเกษตรของเชื้อพันธุกรรมถั่วลิสงประมาณ 300 สายพันธุ์ 5) ได้แผนที่และฐานข้อมูลการผลิตถั่วลิสงจังหวัดขอนแก่น เชียงใหม่ อุบลราชธานี เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการผลิต ถั่วลิสง 6) การให้น้ำหยดในฤดูแล้งไม่เกิน 350 มิลลิเมตรตลอดฤดูปลูก ให้ผลผลิตสูงสุดในทุกพันธุ์ และพบความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณการให้น้ำกับผลผลิต ส่วนในฤดูฝนควรให้น้ำรวมไม่เกิน 135 มิลลิเมตร แต่ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณการให้น้ำกับผลผลิต 7) การพ่นด้วยสาร fipronil 5% SC เมื่ออายุ 7 วันหลังงอก จะช่วยควบคุมเพลี้ยไฟ และการระบาดของโรคยอดไหม้ถั่วลิสง และการใช้สาร cholorpyrifos (Pyrinex 5 G) 5% G 2 ครั้ง คือ พร้อมปลูก และอายุ 30-35 วัน สามารถลดการทำลายของปลวก และการคลุกเมล็ดก่อนปลูกด้วยสาร iprodione สามารถลดการทำลายโรคโคนเน่าขาว 8) การปลูกถั่วลิสงพันธุ์กาฬสินธุ์ 2 ในเขตชลประทานของจังหวัดเชียงใหม่ในฤดูแล้งช่วงต้นถึงกลางเดือนเมษายน ให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุนสูง ส่วนการปลูกในปลายฤดูฝนช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ให้ผลผลิตและอัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุนสูงสุด สำหรับในพื้นที่ภาคใต้ แนะนำให้เกษตรกรใช้สายพันธุ์ KK 49-20-15 ปลูกเพื่อผลิตเป็นถั่วฝักสด เพราะให้ผลผลิตและรสชาติในการบริโภคสูง และการใช้ฟอสโฟยิปซั่ม และยิปซั่ม เป็นแหล่งแคลเซียมมีผลทำให้ผลผลิตและผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์สูงกว่าปูนขาว 9) การแช่เมล็ดพันธุ์ก่อนปลูกช่วยเร่งเฉพาะความเร็วในการงอก หรือทำให้เปอร์เซ็นต์ความงอกเพิ่มขึ้นในเมล็ดที่มีคุณภาพสูงหรือเมื่อเผชิญสภาวะที่จำกัดการงอก แต่เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพต่ำ การแช่เมล็ดพันธุ์อาจเป็นผลเสียต่อการงอก ส่วนการผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วลิสงพันธุ์ขอนแก่น 84-7 ขอนแก่น 84-8 และสายพันธุ์ KK97-44-106 สามารถเก็บเกี่ยวทำเมล็ดพันธุ์ได้ตั้งแต่ระยะ R7 โดยที่เมล็ดพันธุ์มีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูง 10) พบวิธีการหมักต้นถั่วลิสงเป็นอาหารสัตว์ที่สามารถเก็บรักษาได้ 2-5 เดือน การคลุกเมล็ดด้วยน้ำคั้นกระเทียมเจือจาง 1:1 มีศักยภาพในการควบคุมสารอะฟลาทอกซินและเชื้อราสาเหตุมากที่สุด แต่ผลในการควบคุมยังล่าช้าและมีความแปรปรวนสูง จึงควรทำการศึกษาเพิ่มเติมก่อนแนะนำเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป 11) เครื่องปลิดฝักถั่วลิสงแบบใช้เครื่องยนต์ มีความเหมาะกับเกษตรกรที่ต้องใช้ฝักไม่เกิน 200 กิโลกรัมต่อวัน คิดเป็นต้นทุนการปลิด 1.80 บาทต่อกิโลกรัม เทียบกับใช้แรงงานคน 2.5-3.0 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนเครื่องหั่นย่อยต้นถั่วลิสงสำหรับทำปุ๋ยหมักและอาหารสัตว์ในระดับเกษตรกร สามารถหั่นย่อยต้นถั่วลิสงในอัตรา 515 กิโลกรัมต่อชั่วโมง สำหรับเครื่องอบแห้งแบบกระบะสลับทิศทางลมร้อนสำหรับการลดความชื้นฝักถั่วลิสง สามารถลดความชื้นฝักถั่วลิสงพันธุ์ไทนาน 9 จากความชื้น 25.9 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 6.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเหมาะสำหรับการอบฝักถั่วลิสงในช่วงฤดูฝน เพื่อลดความเสียหายของฝักจากเชื้อราที่สร้างสารพิษอะฟลาทอกซิน จากผลการทดลองดังกล่าว สามารถนำสายพันธุ์ดีเด่นไปประเมินผลผลิตตามขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์ หรือใช้ประโยชน์ในงานปรับปรุงพันธุ์พันธุ์ต่อไป ส่วนงานวิจัยและพัฒนาด้านอื่นๆสามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นคำแนะนำ เผยแพร่ หรือวิจัยและพัฒนาต่อยอดต่อไป
บทคัดย่อ (EN): The problem of peanut production of Thailand is not enough for consumption, low yield and quality and high cost for peanut production. To solve these problems the research and development on production improvement of peanut project was established. The objectives of the project were 1) peanut breeding of boiling and medium seeded types for high yield, high yield and bud necrosis tolerance with appropriate technologies 2) characterization and evaluation of peanut germplasm using as materials for peanut breeding and conservation 3) to build and develop peanut data system, and to improve peanut production and quality 4) to improve seed quality, control aflatoxin contamination, reduce labor cost for peanut production, and ensiling of peanut vine. These activities were conducted at Field Crops Research Centers, Research and Development Centers and Agricultural Engineering Research Center between 2011-2015. The result found that 1) The 4 promising lines of medium seeded types were KK97-44-106, KK4915-2, KK4918-3 and KK4920-15. Two promising lines of boiling types were KKFCRC49-02-2-1 and KKFCRC49-06-7-1. 2) To gain the 44 promising lines of boiling types and 40 lines of medium seeded types which tolerate to bud necrosis. 3) Appropriate technologies were 3.1) to gain 10 genetic coefficients of the peanut promising lines for CSM-CROPGRO-Peanut Model 3.2) no effect of calcium and chemical fertilizer on medium seeded type promising lines, KK 97-44-106 and KK 43-46-1 but has effect to boiling types line, KKFC49-02-8-3 3.3) the optimum population density for medium seeded type promising lines, KK97-44-106 and KK43-46-1 were 48,000-64,000 plants/rai and 32,000-48,000 plants/rai respectively, for boiling types lines, KKFCRC4906-7-1 and KKFC49-02-8-3 were 16,000 plants/rai, and the optimum harvesting date were different in dry season and rainy season. 3.4) The reaction of peanut bud necrosis disease found that the percentage of bud necrosis different significantly, 10 lines have the percentage of diseases less than susceptible check, the reaction of stem rot disease showed that did not differ significantly, and the reaction of leaf spot diseases at 45 days found no signs of disease, probably because the weather was not suitable for infection. 4) The data of characterization on morphological and agricultural traits of peanut germplasm were 300 lines. 5) To gain map and peanut production data of Khon Kaen, Chiang Mai and Ubon Ratchathani Provinces for planning to grow in the future 6) The method of drip irrigation in dry season throughout the growing season was not more than 350 mm, suitable for yielding in all varieties, and have relations between the volume of water and yield, and in the rainy season, the volume was not more than 135 mm but no relation of the water volume and yield. 7) To control Thrips palmi that vector of peanut bud necrosis disease by spaying fipronil 5% SC at 7 days after planting , and apply cholorpyrifos (Pyrinex 5 G) 5% G 4 kg/rai at planning and 30-35 days could decrease termite damage. Sclerotium rolfsii rot could be controlled by seed treated with iprodione (rovral 50% wp) 5 g/seed 1 kg. 8) The planting date of the peanut variety, Kalasin 2 was grown in early April-mid April in the irrigated area of Chiang Mai province in dry season gave the better investment (the benefit cost ratio ,BCR). Whereas, the planting date of mid November in late rainy season showed the highest fresh yield and BCR. In the southern area, peanut line, KK 49-20-15 gave high fresh yield and good taste for recommendation. And for soil amendments as source of calcium, phosphogypsum, dolomite and gypsum gave higher yield and BCR ratio than lime. 9) To prim good seed quality was increased germination percentage, the same result was happen incase stress condition, but for low seed quality the result was opposite. Peanut varieties, Khon Kaen 84-7, Khon Kaen 84-8 and KK97-44-106 line could be harvested at R7 stage for seed production which gave high germination percentage. 10) The process of suitable ensiling of peanut vine could be storage 2-5 months. The Aulliumsativum Lin. juice with 1:1 dilution treatment showed the highest potential to control aflatoxin contamination and the caused fungi in peanut seed. However, time consumed to control the contamination and the variation results were found. Therefore, further study is needed to improve the technique before introduce to the users. 11) Motor pod thresher of peanut was suitable for small farmer using peanut pod about 200 kg/day. The cost for pod threshing was 1.8 baht/kg compared with by labor was 2.5-3.0 baht/kg. Peanut haulm cutting machine (chopper) in order to prepare peanut haulm suitable for making animal feed or compost has capacity of cutting peanut haulm at 515 kg/hr. Batch type dryer with alternating hot air flow direction was applied to Tainan 9 peanut variety. Peanut seed moisture content was decreased from 25.9% to 6.7%. It is suitable to dry peanut pod in rainy season for decreasing fungi and aflatoxin contamination. From these activities, the promising lines will be future evaluated for yielding ability or using as breeding material for breeding program. And for the other activities results can apply or develop for recommendation to the users or using for research and development in the future.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมวิชาการเกษตร
คำสำคัญ: แบบจำลองการเจริญเติบโตถั่วลิสง
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

กรมวิชาการเกษตร. "โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตถั่วลิสงResearch and Development on Production Improvement of Peanut". กรมวิชาการเกษตร. 2558

กรมวิชาการเกษตร. "โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตถั่วลิสงResearch and Development on Production Improvement of Peanut". กรมวิชาการเกษตร. 2558. Print.



TARR Wordcloud:
โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตถั่วลิสง
กรมวิชาการเกษตร
กรมวิชาการเกษตร
30 กันยายน 2558
การวิจัยและพัฒนากั้งตั๊กแตนเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ การจัดการดินที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มผลผลิตถั่วลิสงในพื้นที่ดินกรด การเพิ่มประสิทธิภาพของหินฟอสเฟตโดยเผาที่อุณหภูมิต่ำ โครงการวิจัยการทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตถั่วลิสงเฉพาะพื้นที่ โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดหวาน โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการนำไปใช้ประโยชน์ของถั่วเหลือง โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสับปะรด ความต้องการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตถั่วลิสงของเกษตรกร : กรณีศึกษาการผลิตถั่วลิสงของเกษตรกรปี 2546/2547 ในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตถั่วแปยีให้เหมาะสมกับพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน การควบคุมโรคโคนเน่าขาวของถั่วลิสงด้วยเชื้อรา Trichoderma
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair