สืบค้นงานวิจัย
การเปลี่ยนแปลงไนโตรเจนที่เกิดจากกระบวนการมิเนอรัลไลเซชัน และอินทรียวัตถุที่ปรับปรุงดินด้วยปอเทือง
สุทธิ์เดชา ขุนทอง - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การเปลี่ยนแปลงไนโตรเจนที่เกิดจากกระบวนการมิเนอรัลไลเซชัน และอินทรียวัตถุที่ปรับปรุงดินด้วยปอเทือง
ชื่อเรื่อง (EN): Mineralizaed Nitrogen and Organic Matter Changer in Soil Amended with Crotalaria juncea L. Residues
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุทธิ์เดชา ขุนทอง
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Sutdacha Khunthong
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: ศึกษากระบวนการไนโตรเจนมิเนอรัลไลเซชันจากชิ้นส่วนปอเทืองต่อการเปลี่ยนแปลงปริมาณอินทรียวัตถุ และอนินทรีย์ไนโตรเจนในดินแต่ละช่วงเวลา วางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ จำนวน 4 ซ้ำ มี 6 สิ่งทดลอง ได้แก่ การบ่มดินตำรับควบคุม (T1) การใช้ส่วนราก (T2), ลำต้น (T3), ใบ (T4), ดอก (T5), และส่วนราก+ลำต้น+ใบ+ดอก (T6) ของปอเทืองสด จำนวน 1.6 กรัม บ่มในภาชนะที่บรรจุดิน 100 กรัม (อัตรา 5,000 กก./ไร่) ที่ระยะเวลาการบ่ม 10, 20, 40, 60, 80, 100 และ 120 วัน ทำการทดลองในห้องปฏิบัติการอุณหภูมิเฉลี่ย 25°ซ และรักษาความชื้นของดินที่ระดับ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยน้ำหนัก ตลอดระยะเวลาการทดลอง พบว่าส่วนของดอกมีกระบวนการไนโตรเจนมิเนอรัลไลเซชันสูงที่สุด รองลงมา คือ ส่วนของใบ และส่วนราก+ลำต้น+ใบ+ดอก พบปริมาณสูงสุดที่ระยะเวลา 60 วัน มีกระบวนการไนโตรเจนมิเนอรัลไลเซชัน 167.13, 79.13 และ 66.89 มก./กก. ตามลำดับ ถัดมา คือ ส่วนของราก และลำต้นพบปริมาณสูงสุดที่ระยะเวลา 80 วัน แต่ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างกัน มีกระบวนการไนโตรเจนมิเนอรัลไลเซชัน 44.12 และ 42.00 มก./กก. ตามลำดับ เมื่อพิจารณาในภาพรวมกระบวนการไนโตรเจนมิเนอรัลไลเซชันจากต้นปอเทือง ในพื้นที่ 1 ไร่ ที่ระยะเวลา 60 วัน เทียบเท่าการใช้ปุ๋ยยูเรีย 45.37 กก. การใช้ปอเทืองสามารถเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุได้สูงสุด 1,382.37 กก./ไร่ อย่างไรก็ตามปริมาณคาร์บอน และปริมาณอินทรียวัตถุมีความผันแปรตามระยะเวลา ผกผันกับกระบวนการไนโตรเจนมิเนอรัลไลเซชัน
บทคัดย่อ (EN): This research aims to study the nitrogen mineralization from different parts of Crotalaria juncea L. on changed soil organic matter and mineral nitrogen in different duration. The study was Complete Randomized Design (CRD) with four replicates. Incubation experiment included six treatments as follow; (T1) control and 5 residues i.e. the roots (T2), stems (T3), leaves (T4), flowers (T5) and below and above-ground biomass, roots + stems + leaves + flowers (T6) of Crotalaria juncea L. A 100 g soil sample was placed in the container with 1.6 g of plant residues (5,000 g plant residue per rai). A laboratory incubation experiment was conducted for 10, 20, 40, 60, 80, 100 and 120 days under controlled conditions (25°C and 50 percent moisture of soil weight). The results showed that at 60 days, flowers, leaves and roots + stems + leaves + flowers of Crotalaria juncea L. displayed continuous mineralization by releasing a maximum of 167.13, 79.13 and 66.89 mg kg-1, respectively. At 80 days, maximum nitrogen mineralization of roots 44.12 mg kg-1 and stems 42.00 mg kg-1 were not statistically significant. Based on nitrogen mineralization of Crotalaria juncea L. at 60 days, release nitrogen content of plant residues equals to urea fertilizer around 45.37 kg. Using Crotalaria juncea L. as green manure crop can increase the maximum organic matter content about 1,382.37 kg per rai. However, total carbon and organic matter always changed, in contrast to nitrogen mineralization.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://www.tci-thaijo.org/index.php/MJUJN/article/view/210903
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: ชุดดินลำปาง
คำสำคัญ (EN): Lampang Soil Series
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเปลี่ยนแปลงไนโตรเจนที่เกิดจากกระบวนการมิเนอรัลไลเซชัน และอินทรียวัตถุที่ปรับปรุงดินด้วยปอเทือง
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2562
การศึกษาอัตราการย่อยสลายสูงสุดกระบวนการเกิดไนโตรเจนมิเนอรัลไลเซชันของปอเทืองในชุดดินลำปาง การปรับปรุงกระบวนการผลิตปุ๋ยชีวภาพโรงงานขนาดเล็กในจังหวัดพัทลุง การใช้ปอเทืองเป็นปุ๋ยพืชสดที่มีต่อผลผลิต องค์ประกอบผลผลิต และปริมาณไนโตรเจนของข้าวสังข์หยดพัทลุง การทำนายค่าอินทรียวัตถุ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมในดินโดยใช้แสงอินฟราเรดย่านใกล้ การกำจัดไนโตรเจนด้วยกระบวนการทางชีวภาพร่วมกับวัสดุพรุน ความสัมพันธ์ของเหล็กกับการเกิดปมและการตรึงไนโตรเจนของถั่วลิสง การดูดใช้ไนโตรเจน ซัลเฟอร์ และสัดส่วน N:S ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกอ้อยผลผลิตสูง การพัฒนากระบวนการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูแบบมีส่วนร่วม คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศึกษาการใช้แหนแดงเป็นแหล่งไนโตรเจนในการผลิตพืชผักอินทรีย์และเกษตรไร้สารพิษ การปรับปรุงพันธุ์ถั่วเหลืองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรึงไนโตรเจนในสภาพที่มีไนโตรเจนสูง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก