สืบค้นงานวิจัย
การปลูกผักกางมุ้งในตำบลสวนหลวงและตำบลบางไผ่ กรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ.2531
สุเมธ ภู่ประยูร - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การปลูกผักกางมุ้งในตำบลสวนหลวงและตำบลบางไผ่ กรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ.2531
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุเมธ ภู่ประยูร
บทคัดย่อ: กรมส่งเสริมการเกษตรได้มีการจัดทำโครงการส่งเสริมการปลูกผักกางมุ้งตั้งแต่ ปี พ.ศ.2530 เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกผักหันมาปลูกผักกางมุ้งกันมากขึ้น โดยมีเหตุผลเพื่อที่จะลดสารพิษตกค้างในพืชผักที่มีอันตรายต่อผู้บริโภค และเกษตรกรที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีอยู่เสมอ อีกทั้งยังเป็นการลดต้นทุนการผลิตโดยเฉพาะสารเคมีให้น้อยลง ดังนั้นการศึกษาการปลูกผักกางมุ้งในตำบลสวนหลวงและตำบลบางไผ่ กรุงเทพมหานคร จึงเป็นการหาแนวทางเพื่อการวางแผนพัฒนาส่งเสริมการปลูกผักกางมุ้งในท้องที่อื่นต่อไป การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมบางประการของเกษตรกรผู้ปลูกผักกางมุ้ง ความรู้ความเข้าใจ และสภาพการปลูกผักกางมุ้งตลอดจนปัญหาและข้อเสนอแนะ การรวบรวมข้อมูลทำโดยการสัมภาษณ์ประชากรซึ่งเป็นเกษตรกรผู้ปลูกผักกางมุ้งที่มีพื้นที่การปลูกผักกางมุ้งตั้งแต่ 100 ตารางวาขึ้นไปในตำบลสวนหลวงและตำบลบางไผ่ กรุงเทพมหานคร จำนวน 105 คน และได้วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติเพื่อหาค่าร้อยละ ค่ามัชฌิมเลขคณิตและค่าไคสแควร์ ผลการวิจัยพบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 มีอายุเฉลี่ย 45.67 ปี จำนวนสมาชิกในครอบครัวเฉลี่ย 5.92 คน เป็นแรงงานที่ใช้ในการปลูกผักกางมุ่งเฉลี่ยครอบครัวละ 3 คน พื้นที่ทำการเกษตรเฉลี่ยครอบครัวละ 5.18 ไร่ และรายได้เฉลี่ยครอบครัวละ 21,232.99 บาทต่อปี ประสบการณ์ในการปลูกผักกางมุ้งเฉลี่ย 1.60 ปี ผักที่ปลูกในมุ้งไนล่อนมากที่สุดคือผักคะน้า นอกจากนั้นเกษตรกรส่วนมากเคยเข้ารับการฝึกอบรมเรื่องการปลูกผักกางมุ้ง เกษตรกรส่วนใหญ่มีความรู้มากในการปลูกผักกางมุ้ง โดยมีพื้นที่ปลูกผักกางมุ้ง เฉลี่ยครอบครัวละ 1.21 ไร่ ขนาดความกว้างแปลงเฉลี่ย 4.30 x 69.07 เมตร โครงสร้างของโรงเรียนส่วนมากทำด้วยไม้เสาเข็ม หลังคาทรงราบเรียบ เป็นแบบปิดทั้งหมด 5 ด้านมุ้งสีฟ้า การกางมุ้งจะคลุมเฉพาะแปลงตามความยาวแปลงโดยเว้นระยะร่องน้ำและคลุมแปลงด้วยมุ้งไนล่อนหลังจากตากดินแล้ว 7-10 วัน และนิยมใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมี มีการถอนกล้าผัก และมีการรดน้ำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ตลอดจนมีการสำรวจการระบาดต่อศัตรูผักเกษตรกรส่วนมากนำผักที่ได้ไปจำหน่ายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อถึงแปลง ด้านความคิดเห็น พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่จะปลูกผักกางมุ้งต่อไป ส่วนปัญหาการผลิตและการตลาดที่สำคัญคือ ไม่สะดวกในการปฏิบัติงาน มุ้งไนล่อนไม่ทนทาน และผักราคาต่ำเกินไป การทดสอบสมมติฐาน พบว่าไม่มีความสัมพันธ์กันระหว่างอายุ การศึกษา และรายได้จากการปลูกผักกางมุ้ง กับความรู้เกี่ยวกับการปลูกผักกางมุ้ง ข้อเสนอแนะของเกษตรกรคือ ต้องการให้มุ้งไนล่อนมีความทนทานกว่าที่เป็นอยู่ตลอดจนไม้เสาเข็มควรมีราคาต่ำกว่าปัจจุบัน และราคาผักควรจะสูงกว่าผักที่ปลูกโดยวิธีปกติ ข้อเสนอแนะของผุ้วิจัยคือ โครงสร้างโรงเรือนควรมีลักณะที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ และควรส่งเสริมเฉพาะในแหล่งที่มีศัตรูผักระบาดรุนแรง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เข้าใจถึงประโยชน์ในการบริโภคผักกางมุ้ง เพื่อจะได้นิยมบริโภคกันมากขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกผักกางมุ้งเองด้วย
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: ผักกางมุ้ง
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การปลูกผักกางมุ้งในตำบลสวนหลวงและตำบลบางไผ่ กรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ.2531
กรมส่งเสริมการเกษตร
2533
สภาพการปลูกผักคะน้าเพื่อการค้าของเกษตรกรกรุงเทพมหานคร การยอมรับของเกษตรกรต่อการปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษในกรุงเทพมหานคร การศึกษาปัญหาของเกษตรกรผู้ปลูกผัก เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร การศึกษาปัญหาของเกษตรกรผู้ปลูกผัก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร สถานการณ์ยางพารา ปี 2531 สำรวจความต้องการปลูกพืชผักสวนครัวในหมู่บ้านจัดสรรชานเมืองตอนเหนือกรุงเทพมหานคร การติดตามผลการอบรมวิชาการปลูกและตกแต่งต้นไม้สำหรับประชาชน ของกองสวนสาธารณะ กรุงเทพมหานคร (พ.ศ.2533-2534) การใช้เทคโนโลยีการปลูกมะม่วงของเกษตรกรในเขตกรุงเทพมหานคร การศึกษาสถานการณ์การปลูกข้าวขึ้นน้ำ ปี 2531/2532 การศึกษาชนิดของผักและความหนาแน่นของปลานิลแปลงเพศที่เหมาะสมในการปลูกพืชด้วยระบบอะควาโปนิกส์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก