สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาวิจัยผลกระทบของการใช้ถั่วเขียวเป็นปุ๋ยพืชสดที่มีต่อผลผลิตของข้าวหอมมะลิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือโครงการเร่งรัดการผลิตข้าวหอมมะลิ ปี 2538/ 2539
ศิลป์ชัย ยุกติรัตน - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การศึกษาวิจัยผลกระทบของการใช้ถั่วเขียวเป็นปุ๋ยพืชสดที่มีต่อผลผลิตของข้าวหอมมะลิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือโครงการเร่งรัดการผลิตข้าวหอมมะลิ ปี 2538/ 2539
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ศิลป์ชัย ยุกติรัตน
บทคัดย่อ: การส่งเสริมการใช้ปุ๋ยพืชสด โดยการหว่านถั่วเขียวแล้วไถกลบก่อนปลูกข้าวหอมมะลิเป็นกิจกรรมหนึ่ง ตามโครงการเร่งรัดการผลิตข้าวหอมมะลิปี 2538/2539 ของงานส่งเสริมการผลิตข้าวซึ่งได้ดำเนินการติดต่อกันมาเป็นปีที่สองมีเป้าหมายเน้นหนักในแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิของประเทศ คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด ในพื้นที่ใช้ถั่วเขียวเป็นปุ๋ยพืชสด จำนวน 200,000 ไร่ ได้สุ่มสอบถามสัมภาษณ์เกษตรกรทั้งสิ้น จำนวน 159 ราย ทั้งนี้ เพื่อต้องการจะทราบถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผลผลิตของข้าวหอมมะลิที่เก็บเกี่ยวได้ ตลอดจนสภาพของดินว่าได้รับการปรับปรุงดีหรือไม่อย่างไรบ้าง ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าเกษตรกรนำเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิไปปลูกทำเป็นนาดำมากที่สุด คือร้อยละ 67.7 นาหว่านร้อยละ 32.0 ใช้เมล็ดพันธุ์ในอัตรา 1-10 กิโลกรัมต่อไร่ ร้อยละ 74.8 ส่วนพื้นที่ของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ แต่ละรายควรมีพื้นที่อยู่ระหว่าง 5-15 ไร่ นับว่าเหมาะสมดีที่สุด การหว่านถั่วเขียวของเกษตรกรอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงมิถุนายน มีมากที่สุดคือร้อยละ 83.6 และควรมีการจ่ายเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวให้เกษตรกรแต่ละรายเพียง 4-6 ไร่ ( 20-30 กิโลกรัม ) ทั้งนี้ต้องพิจารณาถึงสภาพพื้นที่ดินของเกษตรกรเป็นหลักด้วย หากพื้นที่ดินเป็นทรายจัด ควรจัดเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวให้ปริมาณมากกว่านี้ ( เข้าร่วมโครงการในพื้นที่มากกกว่า 4-6 ไร่ ) การไถกลบถั่วเขียวควรใช้เครื่องทุ่นแรง ( ร้อยละ 60.3 ) ให้มากกว่าการใช้แรงคนหรือสัตว์ ( ร้อยละ 39.7 ) ส่วนอายุของถั่วเขียวที่ถูกไถกลบพบว่า มีอายุในระหว่าง 31-45 วัน (ร้อยละ 53.6 ) ซึ่งเป็นช่วงที่ถั่วเขียวมีดอกเต็มที่หลังจากไถกลบแล้ว เกษตรกรได้ปล่อยทิ้งให้ย่อยสลายในดินระหว่าง 7-14 วัน คือร้อยละ 54.1 เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ในด้านการใช้ปุ๋ยและการป้องกันกำจัดศัตรูพืช เกษตรกรส่วนใหญ่ ร้อยละ 84.2 มีการใช้ปุ๋ยทั้ง 2 ชนิด คือปุ๋ยเคมีร้อยละ 16.0 ปุ๋ยอินทรีย์ร้อยละ 3.1 และปุ๋ยทั้ง 2 ชนิด ร้อยละ 20.1 มีสูตรปุ๋ยที่ใช้รวม 5 สูตร คือ 16-20-0, 16-16-8, 20-0-0, 46-0-0 และ 15-15-15 มีการใส่ปุ๋ยในระยะต่าง ๆ ของการเจริญเติบโตของข้าว คือตกกล้า ปักดำ หลังปักดำ และระยะอื่น ๆ พบว่าเกษตรกรมีการใช้ปุ๋ยถูกกับระยะเวลาเจริญเติบโตของข้าว เพียงประมาณครึ่งหนึ่ง คือระหว่างร้อยละ 40.0-50.0 นอกจากนี้มีการตรวจนับร้อยละ 64.8 มีการใช้สารเคมีเพียงร้อยละ 25.2 การเก็บเกี่ยวข้าวในระยะพลับพลึงมีเกษตรกรปฏิบัติตามร้อยละ 71.1 ซึ่งเก็บเกี่ยวแล้วนำไปตากแดด 2-3 แดด มีผู้ปฏิบัติตามร้อยละ 73.6 เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วมีการใช้เครื่องนวดมากที่สุด คือร้อยละ 76.7 ส่วนผลผลิตที่เกษตรกรได้รับมากกว่า 500 กิโลกรัมต่อไร่ สูงสุดคือร้อยละ 32.7 ในด้านสภาพแวดล้อมหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว เกษตรกรมีการปฏิบัติเกี่ยวกับฟางข้าว มีทั้งปล่อยทิ้งไว้ในนา และนำออกไปจากพื้นที่คิดเป็นร้อยละ 38.4 และ 61.6 คามลำดับ เกษตรกรมีความคิดเห็นว่าการใช้ถั่วเขียวเป็นปุ๋ยพืชสดจะมีความเหมาะสมร้อยละ 38.7 ซึ่งมีผลทำให้เกษตรกรมีความพึงพอใจต่อผลผลิตข้าวหอมมะลิที่ได้รับ ตลอดจนราคาที่ขายได้ร้อยละ 89.3 ส่วนในด้านการปรับปรุงดิน โดยการใช้ถั่วเขียวเป็นปุ๋ยพืชสด พบว่าทำให้ดินร่วนซุยดีขึ้นร้อยละ 46.5 การแตกกอของข้าวดีขึ้นร้อยละ 39.0 การเจริญเติบโตของข้าวดีขึ้นร้อยละ 14.5 การใช้ถั่วเขียวเป็นปุ๋ยพืชสด มีผลทำให้สภาพของดินทางกายภาพดีขึ้น การเจริญเติบโต ตลอดจนการแตกกอของข้าวดีขึ้น เกษตรกรมีความพึงพอใจกับผลผลิตข้าว และราคาที่ขายได้ ดังนั้นกิจกรรมการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยพืชสด โดยการหว่านถั่วเขียวและไถกลบก่อนการปลูกข้าว จึงสมควรจะดำเนินการและขยายพื้นที่ให้คลอบคลุมทั้งหมดในโครงการเร่งรัดการผลิตข้าวหอมมะลิอย่างต่อเนื่องตลอดไป
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: ปี 2538/ 2539
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาวิจัยผลกระทบของการใช้ถั่วเขียวเป็นปุ๋ยพืชสดที่มีต่อผลผลิตของข้าวหอมมะลิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือโครงการเร่งรัดการผลิตข้าวหอมมะลิ ปี 2538/ 2539
กรมส่งเสริมการเกษตร
2539
การวิเคราะห์ผลการดำเนินงานโครงการเร่งรัดการผลิตข้าวหอมมะลิ ปี 2538/39 การจัดการธาตุอาหารพืชในนาข้าวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม การศึกษาชนิดและระยะเวลาที่เหมาะสมในการใส่ปุ๋ยพืชสดเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ การเพิ่มศักยภาพการผลิตยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การผลิต การตลาด และความต้องการใช้ดาหลาในพื้นที่ภาคใต้ ความเป็นไปได้ของการผลิตข้าวหอมมะลิในระบบการเกษตรอินทรีย์ที่จะเป็นอาชีพทางเลือกที่มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาความยากจน สำหรับเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง : กรณีจังหวัดสุรินทร์ การดำเนินงานโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ปี 2551 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การใช้เทคโนโลยีการผลิตข้าวหอมมะลิ 105 ในจังหวัดชัยภูมิ การจัดทำแผนที่นำทางสำหรับการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดีของกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดศรีสะเกษ ผลของการรมโอโซนต่อคุณภาพการเก็บรักษาข้าวเจ้าขาวผสมข้าวหอมมะลิบรรจุถุง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก