สืบค้นงานวิจัย
การควบคุมการทางานของ คอร์บัส ลูเทียม ภายหลังการผสมเทียมในโคนมเต้านมอักเสบ
สุณีรัตน์ เอี่ยมละมัย - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: การควบคุมการทางานของ คอร์บัส ลูเทียม ภายหลังการผสมเทียมในโคนมเต้านมอักเสบ
ชื่อเรื่อง (EN): Regulation of luteal function after artificial insemination in mastitis dairy cows
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมการท างานของคอร์ปัส ลูเทียม (CL) และเพิ่มระดับ ฮอร์โมนโปรเจสเทอโรน (P4) ภายหลังการผสมเทียมในโคนมที่เป็นเต้านมอักเสบ ใช้โคนมพันธุ์ลูกผสม โฮลสไตน์-ฟรีเซี่ยนที่ไม่ตั้งท้องและเป็นโคนมที่เป็นเต้านมอักเสบจ านวน 48 ตัว โดยโคนมทดลองถูกสุ่ม ให้ได้รับทรีทเมนต์ดังนี้ กลุ่มที่ 1 คือ โคนมที่พบการปรากฏของ CL ในช่วงเริ่มต้นโปรแกรม Ovsynch ร่วมกับการฉีดฮอร์โมน hCG 1,500 IU ในวันที่ 5 หลังการผสมเทียม (CL with hCG) กลุ่มที่ 2 คือ โคนมที่พบการปรากฏของ CL ในช่วงเริ่มต้นโปรแกรม Ovsynch ร่วมกับการสอดฮอร์โมน CIDR วันที่ 4 ถึงวันที่ 11 หลังการผสมเทียม (CL with CIDR) กลุ่มที่ 3 คือ โคนมที่ไม่พบการปรากฏของ CL ในช่วงเริ่มต้นโปรแกรม Ovsynch ร่วมกับการฉีดฮอร์โมน hCG 1,500 IU ในวันที่ 5 หลังการผสมเทียม (no CL with hCG) และกลุ่มที่ 4 คือ โคนมที่ไม่พบการปรากฏของ CL ในช่วงเริ่มต้นโปรแกรม Ovsynch ร่วมกับการสอดฮอร์โมน CIDR วันที่ 4 ถึงวันที่ 11 หลังการผสมเทียม (no CL with CIDR) โคนมพิจารณาการปรากฏของ CL และไม่ปรากฏของ CL โดยประเมินจากการอัลตราซาวด์และความ เข้มข้นของฮอร์โมน P4 โคนมทั้งหมดได้รับโปรแกรม Ovsynch (ฉีด GnRH 100 ไมโครกรัม, PGF 25 มิลลิกรัม และ GnRH 100 ไมโครกรัม) และผสมเทียมที่ 16 ชั่วโมงหลังจากฉีด GnRH เข็มที่สอง จากการศึกษาพบว่าโคนมกลุ่ม CL with hCG และ CL with CIDR มีความเข้มข้นของฮอร์โมน P4 สูง กว่ากลุ่ม no CL with hCG และ no CL with CIDR ในวันที่ 5 8 12 15 18 21 และ 42 หลังผสม เทียมอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (P < 0.05) อัตราการผสมติดสูงที่สุด คือ โคกลุ่ม CL with hCG (9/12, 75.0%) รองลงมาคือ โคกลุ่ม CL with CIDR (7/12, 58.3%) ต่ า คือ โคกลุ่ม no CL with hCG (4/12, 33.3%) และต่ าสุดคือ โคกลุ่ม no CL with CIDR (3/12, 16.7%) ซึ่งพบว่าอัตราการผสมติดมีความ แตกต่างอย่างมีนัยส าคัญ (P < 0.05) ระหว่างกลุ่ม CL with hCG และ CL with CIDR กับกลุ่มno CL with hCG และ no CL with CIDR ดังนั้นการที่มีระดับฮอร์โมน P4 สูงในช่วงเริ่มต้นโปรแกรม Ovsynch และท าการเสริมฮอร์โมน hCG ในวันที่ 5 หลังผสมเทียม หรือ CIDR ในวันที่ 4 - 11 หลังผสม เทียม สามารถช่วยควบคุมการท างานของ CL และช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน P4 ภายหลังการผสมเทียมได้ ส่งผลให้โคนมที่เป็นเต้านมอักเสบมีอัตราการผสมติดสูงขึ้น และสามารถน ามาใช้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งใน การจัดการด้านการสืบพันธุ์ในโคนมได้
บทคัดย่อ (EN): The objective was to regulate luteal function and increase progesterone (P4) concentrations after artificial insemination in mastitis dairy cows. Lactating Holstein dairy cows (n=48) were randomly assigned to receive treatments as follows: (1) cows having corpus luteum (CL) at the initiation of an Ovsynch protocol plus 1,500 IU hCG on d 5 after timed AI (CL with hCG); (2) cows having CL at the initiation of an Ovsynch protocol plus CIDR on d 4-11 after timed AI (CL with CIDR); (3) cows having no CL at the initiation of an Ovsynch protocol plus 1,500 IU hCG on d 5 after timed AI (no CL with hCG); and (4) cows having no CL at the initiation of an Ovsynch protocol plus CIDR on d 4-11 after timed AI (no CL with CIDR). At the initiation of an Ovsynch protocol, cows were considered as having CL vs. no CL evaluated by ultrasonography and plasma P4 concentrations. All cows were treated with the Ovsynch protocol (100 ?g GnRH, 25 mg PGF, and 100 ?g GnRH) and inseminated 16 h after the 2nd GnRH. Cows in CL with hCG and CL with CIDR group had greater P4 concentrations (P < 0.05) on day 5, 8, 12, 15, 18, 21 and 42 after timed AI than cows in no CL with hCG and no CL with CIDR group. Conception rate was greatest in the CL with hCG (9/12, 75.0%), greater in the CL with CIDR (7/12, 58.3%), lesser in the no CL with hCG (4/12, 33.3%), and least in the no CL with CIDR (3/12, 16.7%). The conception rates were significantly different (P < 0.05) between the CL with hCG or CIDR and the no CL with hCG or CIDR. Thus, initiation of the Ovsynch at the high P4 concentrations and supplementation of hCG or CIDR after timed AI can be used to regulate the luteal function and to enhance the P4 concentrations for increasing conception rate in mastitis dairy cows and will be an alternative reproductive management for dairy cows.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: โครีดนม
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การควบคุมการทางานของ คอร์บัส ลูเทียม ภายหลังการผสมเทียมในโคนมเต้านมอักเสบ
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
30 กันยายน 2559
การศึกษาฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียของสารสกัดจากบัวบกต่อเชื้อ Staphylococcus spp. ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดเต้านมอักเสบแบบแสดงอาการ และ แบบไม่แสดงอาการในโคนม การศึกษายีนที่สร้างสารเอ็นเทอโรท็อกซินในเชื้อ S. aureus ที่แยกได้จากโคที่เป็นโรคเต้านมอักเสบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย การป้องกันและควบคุมโรคเต้านมอักเสบ : ค่าใช้จ่ายคุณภาพน้ำนม และอัตราการเกิดโรคเต้านมอักเสบ การประเมินการเจริญเติบโตและการพัฒนาของคอร์ปัสลูเทียมแพะ โดยการวิเคราะห์โปรตีน ดีเอ็นเอ และ proliferating cell nuclear antigen (PCNA) การใช้ประโยชน์ของวัสดุเหลือใช้จากการเพาะเลี้ยงแมลงวันผลไม้ในอาหารโคนม เครือข่ายแบบเบย์เซียนของโรคเต้านมอักเสบสำหรับฟาร์มโคนมรายย่อย การใช้หญ้างวงช้างในการรักษาโรคเต้านมอักเสบในโคนม การคัดเลือกลักษณะต้านทานโรคเต้านมอักเสบโดยการคัดเลือกลักษณะเต้านม ในโคนมลูกผสมไทยโฮลสไตน์ ศึกษาชีววิธีในการควบคุมปริมาณจุลินทรีย์วิบริโอด้วยจุลินทรีย์บาซิลลัสในห้องปฏิบัติการ การสำรวจเชื้อก่อโรคเต้านมอักเสบในโคนมและความไวต่อยาปฏิชีวนะ ในจังหวัดสระแก้ว
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก