สืบค้นงานวิจัย
การวิจัยเชิงสำรวจการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ดินเค็มและทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด
กนกวรรณ หาญสุขใจเจริญ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การวิจัยเชิงสำรวจการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ดินเค็มและทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด
ชื่อเรื่อง (EN): Survey of Land Use Change in Saline soil Area and Thung Kula Rong Hai of Roi-et Province
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ และพื้นที่ดินเค็มในช่วงระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2553 ถึง ปี 2557 โดยสำรวจการใช้ที่ดิน ปี 2557 ซึ่งใช้การแปลภาพถ่ายดาวเทียม Landsat 8 ระบบ TM และสำรวจภาคสนาม ทำให้ทราบว่าประเภทการใช้ที่ดินที่เปลี่ยนแปลงไปในปี 2557 และสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน ซึ่งแบ่งประเภทการใช้ที่ดินเป็น 5 ประเภท ได้แก่ พื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ชุมชนและสิ่งปลูกสร้าง พื้นที่ป่าไม้ พื้นที่แหล่งน้ำ และพื้นที่เบ็ดเตล็ด การเปลี่ยนแปลงใช้ที่ดินในปี 2557 พบว่าในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้มีประเภทการใช้ที่ดินเพิ่มขึ้นมี 2 ประเภท คือ พื้นที่ชุมชนและสิ่งปลูกสร้างมีเนื้อที่เพิ่มขึ้น 1,315 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.07 และพื้นที่แหล่งน้ำมีเนื้อที่เพิ่มขึ้น 255 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.02 ส่วนประเภทการใช้ที่ดินลดลงมี 3 ประเภท คือ พื้นที่เกษตรกรรมมีเนื้อที่ลดลง 1,183 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.06 พื้นที่ป่าไม้มีเนื้อที่ลดลง 175 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.01 และพื้นที่เบ็ดเตล็ดมีเนื้อที่ลดลง 213 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.02 ของพื้นที่ทั้งหมดในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ และส่วนพื้นที่ดินเค็มมีประเภทการใช้ที่ดินเพิ่มขึ้นมี 2 ประเภท คือพื้นที่ชุมชนและสิ่งปลูกสร้างมีเนื้อที่เพิ่มขึ้น 98 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.06 และพื้นที่เกษตรกรรมมีเนื้อที่ เพิ่มขึ้น 715 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.49 ส่วนประเภทการใช้ที่ดินลดลงมี 3 ประเภท คือ พื้นที่ป่าไม้มีเนื้อที่ลดลง 739 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.50 พื้นที่แหล่งน้ำมีเนื้อที่ลดลง 20 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.01 และพื้นที่เบ็ดเตล็ดมีเนื้อที่ 54 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.04 ของพื้นที่ทั้งหมดในพื้นที่ดินเค็ม การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้และพื้นที่ดินเค็ม ปี 2557 มีสาเหตุการเพิ่มขึ้นของพื้นที่ชุมชนและสิ่งก่อสร้างมาจากการเพิ่มจำนวนของประชากรและความต้องการขยายที่อยู่อาศัยและประกอบธุรกิจ ส่วนพื้นที่แหล่งน้ำเพิ่มขึ้นมีสาเหตุจากเกษตรกรเห็นความสำคัญของแหล่งน้ำในการทำการเกษตรกรรมด้วยการขุดบ่อน้ำในไร่นาเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในพื้นที่เกษตรกรรม อีกทั้งสาเหตุของการลดลงของพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ป่าไม้ และพื้นที่เบ็ดเตล็ด มีสาเหตุจากการขยายพื้นที่ชุมชนและสิ่งก่อสร้าง ขยายพื้นที่เกษตรกรรม และการบุกรุกป่าไม้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้และพื้นที่ดินเค็มในช่วงระยะเวลา 5 ปี สรุปได้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินในไม่มากนัก การใช้ที่ดินในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่เกษตรกรรมมีเนื้อที่ทำนาข้าวคิดเป็นร้อยละ 83.60 ของพื้นที่ทั้งหมด ทำให้พื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ยังเป็นพื้นที่ส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิ 105 ต่อไปในอนาคต คำสำคัญ การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน, ทุ่งกุลาร้องไห้, อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด
บทคัดย่อ (EN): This research aims to study the land-use change and the reason for the change in a period of five years from 2010 to 2014. The study on land use in Tung Kula Ronghai and Amphoe Jaturapakpimarn, Roi-et Province, which interpreted from Landsat 8-TM satellite images and the survey of land use in 2014. The changes of land use in Tung Kula Ronghai found that the two land use types were increased. The urban and built-up area increased 252 hectares (0.07%) and water area increased 49 hectares (0.02%). The three land use types were decreased. Agricultural area decreased 226 hectares (0.06%), forest area decreased 34 hectares (0.01%) and miscellaneous area decreased 41 hectares (0.02%) of total area in Tung Kula Ronghai. The changes of land use in Amphoe Jaturapakpimarn, Roi-et Province found that the two land use types were increased. The urban and built-up area increased 16 hectares (0.06%) and Agricultural area increased 114 hectares (0.49%) . The three land use types were decreased. water area decreased 118 hectares (0.50%), forest area decreased 3 hectares (0.01%) and miscellaneous area decreased 9 hectares (0.04%) of total area in Amphoe Jaturapakpimarn, Roi-et Province. The changes of land use in Tung Kula Ronghai and Amphoe Jaturapakpimarn, Roi-et Province were due to increase in urban and built-up areas because of increasing in number of population and the expanding needs of residential and business activities. The water area was increased because farmers realized the importance of water in agriculture and needed more farm ponds. The cause of the declination in agricultural areas, forest areas and miscellaneous areas were due to the expansion of urban and built-up areas. This study could concluded that there was not much change in land use. Most of the land was agricultural land was rice paddy field which was 83.60% of the total areas. Tung Kula Ronghai area has been still promoted as the large important source of Khao Dok Mali rice production in Thailand. Keywords Tung Kula Ronghai, Amphoe Jaturapakpimarn, Roi-et Province, Land-Use Changes
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ทุ่งกุลาร้องไห้
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิจัยเชิงสำรวจการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ดินเค็มและทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2557
การประเมินความเสี่ยงจากภัยพิบัติในพื้นที่เกษตรกรรมของทุ่งกุลาร้องไห้ ผลของการใช้ปุ๋ยพืชสดร่วมกับปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวในพื้นที่ดินเค็ม การควบคุมการสะสมเกลือในชั้นดินในนาข้าวในพื้นที่ดินเค็ม คัดแยกจุลินทรีย์ไรโซเบียมทนเค็มจากโสนอัฟริกันในพื้นที่ดินเค็มจังหวัดขอนแก่น ปัจจัยที่มีผลต่อความเข้มแข็งของศูนย์ข้าวชุมชนในจังหวัดร้อยเอ็ด ผลของปุ๋ยชีวภาพจากจุลินทรีย์ทนเค็มต่อผลผลิตข้าวในพื้นที่ดินเค็ม จังหวัดกาฬสินธุ์ การขยายพันธุ์และการดูแลไม้ดอกหอมเพื่อการใช้ประโยชน์ในเชิงการค้า ชลชีววิทยาและทรัพยากรประมงในอ่างเก็บน้าธวัชชัยหลังการขุดลอก จังหวัดร้อยเอ็ด การพัฒนาและใช้ประโยชน์จากดาหลาเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเชิงสุขภาพ ทดสอบการใช้เทคโนโลยีการพัฒนาที่ดินเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในพื้นที่ดินเค็ม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก