สืบค้นงานวิจัย
การปรับปรุงพันธุ์ขมิ้นชันเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพ
บุญหงษ์ จงคิด - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การปรับปรุงพันธุ์ขมิ้นชันเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพ
ชื่อเรื่อง (EN): Varietal Improvement of Curcuma longa forHigher Quantitative and Qualitative Yields
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: บุญหงษ์ จงคิด
บทคัดย่อ: การปรับปรุงพันธุ์ขมิ้นชันเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบและคัดเลือกสายพันธุ์ขมิ้นชันที่สามารถให้ผลผลิตสูงทั้งด้านปริมาณ คือ น้ำหนักของเหง้าต่อต้น และทางด้านคุณภาพ ได้แก่ ปริมาณของสารเคอร์คูมินในเหง้าซึ่งเป็นตัวยาที่สำคัญของขมิ้นชัน นอกจากนั้นยังทำการคัดเลือกสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงควบคู่ไปกับความต้านทานโรคแอนแทรคโนส (Collettotrichum capsici) และหนอนกัดกินใบอีกด้วย งานวิจัยนี้ประกอบด้วย 2 การทดลองที่กระทำในพื้นที่ปลูกของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2550 จนถึงเดือนมีนาคม 2551 ในการทดลองแรกเป็นการคัดเลือกสายพันธุ์ขมิ้นชันในชั่วรุ่น M2ที่ถูกชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์โดยรังสีแกมม่าเข้มข้น 10 และ 20 กิโลแรคส์ และสาร colchicines เข้มข้น 0.2% โดยไม่มีการวางแผนการทดลองทางสถิติเนื่องจากเป็นการคัดเลือกเบื้องต้นเพื่อให้ได้สายพันธุ์ขมิ้นชันในชั่วรุ่น M2 ที่สามารถให้ผลผลิตน้ำหนักเหง้าต่อต้น และปริมาณสารเคอร์คูมินสูงควบคู่ไปกับความต้านทานโรคแอนแทรคโนสและหนอนกัดกินใบ ซึ่งพบว่า สายพันธุ์ TU04-9-20 Krad-r-Irr-16 เป็นสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตน้ำหนักสดและแห้งต่อต้น (196.7 และ 32.8 กรัมตามลำดับ) ให้ปริมาณสารเคอร์คูมิน (12.84%) มีความต้านทานโรคแอนแทรคโนสและหนอนกัดกินใบ (มีพื้นที่ใบเสียหาย 3.0 และ 2.9% ตามลำดับ) มากที่สุด แต่ก็ไม่มีสายพันธุ์ใดที่กลายพันธุ์สามารถให้ผลผลิตเหง้าต่อต้น ปริมาณสารเคอร์มิน และความต้านทานโรคแอนแทรคโนสและหนอนกัดกินใบสูงเทียบเท่ากับสายพันธุ์ TU04-9 และ TU04-38 ที่ไม่ถูกชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์แต่อย่างใด ซึ่งสายพันธุ์กลายพันธุ์เหล่านี้ก็ยังมีโอกาสที่แสดงลักษณะดีๆ ให้ปรากฏในชั่วรุ่น M3 หรือ M4ต่อไปได้ ส่วนในการทดลองที่ 2 นั้นเป็นการทดสอบเปรียบเทียบสายพันธุ์ขมิ้นชันจำนวน 4 สายพันธุ์ที่ผ่านการคัดเลือกจากทุกภาคของประเทศไทยและสามารถให้ผลผลิตสูงทั้งด้านปริมาณและคุณภาพควบคู่ไปกับความต้านทานโรคแอนแทรคโนสและหนอนกัดกินใบในระดับสูง ซึ่งมีสายพันธุ์ TU04-24 (จากจังหวัดนนทบุรี) ที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย เป็นสายพันธุ์ตรวจสอบมาตรฐานโดยทำการคัดเลือกเหง้าที่มีขนาดใหญ่และมีเนื้อสีส้มเข้มของแต่ละสายพันธุ์มาปลูก มีการวางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ในบล็อก (RCBD) จำนวน 4 ซ้ำ ผลการทดลองพบว่าสายพันธุ์ TU04-9 มีน้ำหนักเหง้าสดและแห้งต่อต้น (975.3 และ 162.0 กรัมตามลำดับ) มีปริมาณสารเคอร์คูมิน (14.62%) และมีความต้านทานโรคแอนแทรคโรสและหนอนกัดกินใบ (พื้นที่ใบเสียหาย 2.8 และ 2.7% ตามลำดับ) สูงที่สุด โดยเฉพาะปริมาณสารเคอร์คูมินนั้นยังเพิ่มขึ้นจาก 13.02% เป็น 14.62% หลังจากมีการคัดเลือกขนาดของเหง้าและสีของเนื้อเหง้าก่อนปลูกอีกด้วย ซึ่งสายพันธุ์ TU04-9 นี้ได้รับการคัดเลือกไว้เพื่อปลูกทดสอบเสถียรภาพในการให้ผลผลิตในหลายท้องที่ที่มีสิ่งแวดล้อมแตกต่างกันออกไป
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://li01.tci-thaijo.org/index.php/tstj/article/view/15044
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คำสำคัญ: การเขตกรรม
คำสำคัญ (EN): cultural practices
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การปรับปรุงพันธุ์ขมิ้นชันเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
30 กันยายน 2552
การพัฒนากระบวนการผลิตข้าวไร่พันธุ์พื้นเมือง ในเขตพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง จังหวัดนครราชสีมา การปรับปรุงพันธุ์หม่อนเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพชุดที่ 2 คัดเลือกครั้งที่ 2 การปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดเพื่อเพิ่มคุณภาพโปรตีน การปรับปรุงพันธุ์ปลาไนโดยวิธีการคัดเลือกแบบหมู่ โครงการวิจัย และพัฒนาระบบการปลูกสตรอเบอรี่เพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิตบนพื้นที่สูงของจังหวัดเพชรบูรณ์ ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโต ผลผลิต และคุณภาพของคะน้า (Brassica alboglabra) ที่ผลิตด้วยวิธีการไฮโดรโปนิกส์ ผลของกระบวนการผลิตและการเก็บรักษาต่อคุณภาพปลาอินทรีเค็ม เสถียรภาพของพันธุ์ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันต่อการให้ผลผลิตปาล์มน้ำมัน ปรับปรุงพันธุ์ฟักทองเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงและคุณภาพดี การปรับปรุงพันธุ์ข้าวลูกผสมเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพสำหรับการแปรรูปเชิงอุตสาหกรรม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก