สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาพฤติกรรมของไรโซเบียมในดินที่มีความชื้นต่ำ
เธียรชัย อารยางกูร - กรมวิชาการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การศึกษาพฤติกรรมของไรโซเบียมในดินที่มีความชื้นต่ำ
ชื่อเรื่อง (EN): Study on Rhizobium Behavior in Low Moisture Content Upland Soil
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เธียรชัย อารยางกูร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Thianchai Arayangkoon
บทคัดย่อ: การศึกษาการมีชีวิตอยู่รอดและประสิทธิภาพของไรโซเบียมในพื้นที่ที่ไม่เคยปลูกถั่วเหลือง การทดลองที่หนึ่ง ดำเนินการในเดือนมกราคม พ.ศ. 2530 เปรียบเทียบการคลุกไรโซเบียมอย่างเดียวกับคลุกไรโซเบียมแล้วเคลือบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนตและเคลือบด้วยหินฟอสเฟตบด ปลูกในดินร่วนปนทรายที่มีความชื้น 2-4% (โดยน้ำหนัก) อุณหภูมิสูงสุด 45 ซ. แล้วให้อยู่ในสภาพแห้งในระยะเวลานานต่างกัน 0 1 3 5 7 และ 10 วัน การทดลองที่สองเปรียบเทียบระหว่างการไม่คลุกไรโซเบียม การคลุกไรโซเบียม และการคลุกไรโซเบียมปลูกในดินใส่หินฟอสเฟตบด 100 กก./ไร่ แล้วให้อยู่ในสภาพแห้งนาน 0 10 15 และ 20 วัน ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 ทั้งสองการทดลองวางแผนการทดลองแบบ split plot in RCB มี 4 ซ้ำ ผลการทดลองพบว่าปริมาณไรโซเบียมที่มีชีวิตอยู่รอดติดกับเมล็ด ซึ่งประเมินโดยวิธี YMA-plate count ในกรรมวิธีคลุกไรโซเบียมอย่างเดียวมีปริมาณใกล้เคียงกับกรรมวิธีเคลือบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนต การให้น้ำทันทีหลังปลูกเสร็จทำให้การอยู่รอดของไรโซเบียมสูงกว่าและแตกต่างทางสถิติจากการให้น้ำภายหลังแม้เพียง 1 วันหลังปลูก แต่อย่างไรก็ตามทุกกรรมวิธีที่ไม่กระทบกระเทือนต่อการดำเนินกิจกรรมของไรโซเบียมต่อไป การประเมินกิจกรรมของไรโซเบียมพบว่าจำนวนและน้ำหนักปมสูงมากในกรรมวิธี 7 และ 10 วัน และค่าเปรียบเทียบประสิทธิภาพการตรึงไนโตรเจนโดยวิธี Acetylene Reduction Assay (ARA) มีค่าสูงมากในกรรมวิธี 7 วันด้วย นอกจากนั้นได้ประเมินเปอร์เซ็นต์การเข้าสร้างปมโดยวิธีทางซีรัมวิทยา (serology test) พบว่าปมรากถั่วที่เกิดจากไรโซเบียมสายพันธุ์ที่ใช้คลุกมี 35.54 ถึง 48.32 % สูงกว่าปมที่เกิดจากไรโซเบียมเดิมในดินจากกรรมวิธีไม่คลุกไรโซเบียมซึ่งมีเพียง 8.06% จึงเป็นการยืนยันได้ว่าไรโซเบียมที่สร้างปมนี้ส่วนใหญ่เกิดจากไรโซเบียมที่คลุกเมล็ดถั่ว ดังนั้น ถ้าไม่สามารถปลูกถั่วเหลืองในดินชื้น หรือไม่สามารถให้น้ำได้ทันทีหลังปลูก การคลุกไรโซเบียมปลูกในดินแห้งแล้วให้อยู่ในสภาพแห้งนานถึง 20 วัน ไรโซเบียมที่มีชีวิตรอดติดเมล็ดยังคงมีอยู่ในปริมาณสูงถึงระดับไม่กระทบต่อการดำเนินกิจกรรมต่อไป
บทคัดย่อ (EN): Soybean seeds (8 kg/rai, rate) inoculated with Bradyrhizobium japonicum (200 g peat carrier, 7.80 x 10 cell/g, peat) were sown in hot (42 45 C), dry (2-4% by weight) soils, at 0, 1, 3, 5, 7 and 10 days in January, 1987 and 0, 10, 15 and 20 days before the first irrigation in February, 1988. YMA-plate counts showed that survival of inoculated activity by ARA method or in nodule dry weight inoculated rhizobia evaluated by the fluorescent antibody technique, were much higher than from un-inoculated plot, It is suggested that inoculating soybean with Bradyrhizobium japonicum before sowing in dry soil of rain-fed area will increase soybean yield.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมวิชาการเกษตร
คำสำคัญ: ไรโซเบียม
คำสำคัญ (EN): rhizobium
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมวิชาการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาพฤติกรรมของไรโซเบียมในดินที่มีความชื้นต่ำ
กรมวิชาการเกษตร
2534
การใช้ RFLPs ของชิ้นส่วนบริเวณ nodD1 และ nodA ของไรโซเบียมถั่วเหลืองระบุศักยภาพการตรึงไนโตรเจน การสำรวจปริมาณเชื้อไรโซเบียมถั่วลิสงในดินที่มีระบบการปลูกพืชที่ต่างกัน ศึกษาช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับใช้เชื้อไรโซเบียม กับพืชคลุมดินในสวนยาง การพัฒนารูปแบบของหัวเชื้อไรโซเบียม และกระบวนการผลิต การใช้เชื้อไรโซเบียม และปุ๋ยเคมี เพื่อเพิ่มการเจริญเติบโตและคุณภาพของพืชคลุมดินในสวนยาง ปฏิกริยาของเชื้อไรโซเบียมต่อถั่วเขียว 32 สายพันธุ์ การศึกษาพืชตระกูลถั่วท้องถิ่นใน จังหวัดจันทบุรี ร่วมกับไรโซเบียมเพื่อคลุมดินและเพิ่มความอุดมสมบรูณ์ของดิน การทดสอบประสิทธิภาพของการใช้หัวเชื้อไรโซเบียมที่ปรับปรุงแล้วในระดับกระถาง การมีชีวิตอยู่รอดของเชื้อ ไรโซเบียมเมื่อใช้พีทผสมกับลิกไนต์เป็นตัวนำ การเพิ่มประสิทธิภาพของหัวเชื้อไรโซเบียมในการแข่งขันเพื่อการเข้าสร้างปมกับพืชตระกูลถั่ว
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก