สืบค้นงานวิจัย
โครงการวิจัยและพัฒนาการเพิ่มคุณค่าโภชนะมันสำปะหลังร่วมกับการนำใช้เศษเหลือทางการเกษตรเป็นอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง
รังสรรค์ สิงหเลิศ - มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
ชื่อเรื่อง: โครงการวิจัยและพัฒนาการเพิ่มคุณค่าโภชนะมันสำปะหลังร่วมกับการนำใช้เศษเหลือทางการเกษตรเป็นอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง
ชื่อเรื่อง (EN): Research and Development for Enriching Value of Cassava with Using of Crop-Residues as Ruminant Feed
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รังสรรค์ สิงหเลิศ
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัดถุประสงค์เพื่อการศึกษาการเสริมระดับไปรตีนในอาหารข้น ร่วมกับระดับการเสริมยูเรียทรีทในข้าวใพดหมักเป็นแหล่งอาหารหยาบต่อกระบวนการหมัก ของกระเพาะรูเมนต่อประชากรของจุลินทรีย์ในกระเพาะรูเมน ความสามารถในการย่อยได้ของ โภชนะตลอดจนประสิทธิภาพในการผลิตน้ำนมแ ละองค์ประกอบน้ำนมในโครีดนม การ ทดลองครั้งนี้ใช้โครีดนมลูกผสมระดับสายเลือด 75 เปอร์เซ็นต์จำนวน 16 ตัว โดยทำการ แบ่งกลุ่ม ใครีดนมออกเป็น 4 กลุ่มๆละ 4 ตัว ไดขมีปัจจัยหลักทดสอบ 2 ปัจจัยได้แก่ปัจจัยที่ 1 คือระดับไปรตื่นในอาหารข้น 14 และ 18 เปอร์เซ็นต์ ปัจจัชที่สองคือ ข้าวไพดหมักขุเรีย 2 และ เปอร์เซ็นต์ โดยมีทรีทเมนต์ที่ทดสอบทั้งหมด 4 ทรึทเมนต์ได้แก่ ทรีตเมนต์ที่ 1: อาหารข้นที่ มีโปรดีน 14 เปอร์เซ็นด์ + ข้าวโพดหมักทรีทยูเรีย 2 เปอร์เชื่นต์: ทรืดเมน นต์ที่ 2: อาห หารขั้นที่มี โปรตีน 14 เปอร์เซ็นต์ + ข้าวโพดหมักทรีทยูเรีย ร เปอร์เซ็นต์: ทรีตเมนต์ที่ 3: อาหารขันที่มี โปรตีน 18 เปอร์เซ็นต์ + ข้าวโพดหมักทรีทยุเรีย 2 เปอร์เซ็นต์: ทรีตเมนต์ที่ 4: อาหารขันที่มี โปรตีน 18 เปอร์เซ็นต์ + ข้าวโพดหมักทรีทขูเรีย 5 เปอร์เซ็นต์ ามลำดับ นอกจากนี้โครีดนม ทุกตัวได้รับอาหารข้นตามสัดส่วนอาหารขัน /กิไลกรัม ต่อผลผลิตน้ำนม 2 กิไลกรัม ร่วมกับ ข้าวโพดหมักยูเรียเป็นแหล่งอาหารหยาบอย่างกินเต็มที่ ผลการวิจัยพบว่าอิทธิพลของระดับโปรตีนในอาหารขันที่แตกต่างกันและระดับยูเรีย หมักในข้าวโพดไม่มีผลแตกต่างกันทางสถิติต่อปริมาณการกินได้อิสระของใครีคนม ขณะที่มีผลแตกต่างกันในทางสถิติต่อความสามารถในการย่อยได้ของโภชนะในอาหารที่สัตว์ ได้รับ นอกจากนี้กระบวนการหมักในกระเพาะหมักได้แก่อุณหภูมิและ สภาวะความเป็น กรด-ต่างของเหลวในกระเพาะหมัก พบว่าไม่แตกต่างกันทางสถิติ อย่างไรก็ดามระดับความ เข้มขันของแอมโมเนีย-ไน โตรเจนในของเหลวในกระเพาะหมัก ความเข้มข้นของระดับยูเรีย และระดับกลูใคสในกระแสเลือดพบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) เมื่อใครีคนมได้รับอาหารขันที่มี โปรตีนและระดับยูเรียหมักในข้าวไพดที่แตกต่างกับ นอกจากนี้ความเข้มข้นของกรดไขมันที่ระเหขได้ง่ายในของเหลวในกระเพาะหมัก โดขเฉพาะอย่างยิ่งกรดอะซิติก (C2) และ โพรพิออนิก (C3) พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ เมื่อใครีดนมได้รับไปรตีนในอาหารขันที่แตกต่างกันและ ระดับเรียในอาหารขันที่ แดกต่างกัน สำหรับประชากรจุลินทรีย์ในกระเพาะหมักได้แก่ แบคที่เรีย โปรโดซัว และ ซูโอสปอร์ของเชื้อรา พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ การให้ผลผลิตน้ำนมและ องค์ประกอบน้ำ ผมพบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยพบว่าผลผลิต และองค์ประกอบน้ำนมสูงสุดเมื่อใครีคนมได้รับอาหารข้นโปรตีน 18 เปอร์เซ็นต์ ร่วมกับ ข้าวโพดหมักยูเรีย 5 เปอร์เซ็นต์เป็นอาหาร มากกว่านี้ผลตอบแทนทางค้านเศรษฐกิจพบว่า ใครีดนมที่ได้รับอาหารขันโปรตีน 18 เปอร์เซ็นด์ร่วมกับข้าวไพดหมักยูเรีย 5 เปอร์เซ็นต์ ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจดีที่สุด ดังนั้นผลการทคลองครั้งนี้สามารถสรุปได้ว่าระดับ ไปรตีนในอาหารข้นและระดับชูเรียหมักในข้าวโพดมีผลต่อประสิทธิภาพกระบวนการหมัก และการให้ผลผลิตใน โครีดนม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครีดนมที่ได้รับการเสริมอาหารขันที่มี โปรตื่น 18 เปอร์เซ็นต์ ร่วมกับข้าวโพดหมักเรีย 5 เปอร์เชื่นต์ สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ กระบวนการหมัก การให้ผลผลิตน้ำนม องค์ประกอบน้ำนมและผลตอบแทนทาง ด้านเศรษฐกิจสูงสุด
บทคัดย่อ (EN): The experiment was aimed at studying the effect of supplementation of different protein level in concentrate with urea levels treated corn silage on ruminal fermentation, microbial population, digestibility of nutrients and milk yield and compositions in lactating dairy cows. Sixteen crossbred (75% Holstein Friesian) cows in lactation were randomly assigned according to a 2 x 2 Factorial arrangement in a Randomized block design to comparative study supplementation of protein level (U) in concentrate at 14 and 18%CP and urea levels at 2 and 5 percent treated in corn silage as roughages. The dietary treatments were concentrate containing different level of protein at 14 and 18 % and corn silage treated urea at 2 and 5 % respectively (T1 = concentrate containing protein at 14 %CP + Com silage treated 2 % urea; T2 = concentrate containing protein at 14 %CP + Comn silage treated 5 % urea; T3 = concentrate containing protein at 18 %CP + Com silage treated 2 % urea; T4 = Concentrate containing protein at 18 %CP + Corn silage treated 5 % urea, respectively). The cows were offered the treatment concentrate at a ratio to milk yield at 1:2 and comn silage treated urea were fed ad libitum as the roughage. The results have revealed that total DM intake (%BW) were not affected (P>0.05), while nutrients digestion were significant affected by different protein levels in concentrate with urea level treated comn silage. Rumen parameters such as ruminal pH and temperature were unaffected by different protein levels in concentrate with urea level treated comn silage. However, the concentration of NH,-N, blood urea nitrogen and blood glocose were significantly different affected by protein levels in concentrate with urea level treated corn silage. In addition, the concentration of volatile fatty acid in rumen especially acetate (C2), propionate (C3) and acetate : propionate ratio were significant different affected by protein levels in concentrate with urea level treated comn silage. Rumen microorganism populations such as bacteria, protozoa and fungal zoospores were affected (P<0.05) by different by protein levels in concentrate with urea level treated com silage. Furthermore, the milk production and milk composition were significant different (P<0.05) which highest in T4 than T3, T2, T1 respectively. Moreover, the income over feed as estimated from 3.5%FCM was significant and highest in dairy cows were received a concentrate containing protein at 18 %CP + Comn silage treated 5 % urea(T4). In summary, results from these experiment indicated that the differences of protein level in concentrat and urea level treated corn silage especially supplementation of concentrate containing protein at 18% with com silage treated 5 % urea could be improved rumen fermentation efficiency, milk production and composition especially increased income over feed in lactating dairy cows.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
คำสำคัญ: สัตว์เคี้ยวเอื้อง
คำสำคัญ (EN): Ruminants
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการวิจัยและพัฒนาการเพิ่มคุณค่าโภชนะมันสำปะหลังร่วมกับการนำใช้เศษเหลือทางการเกษตรเป็นอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
30 กันยายน 2552
การวิจัยและพัฒนา การใช้มันสำปะหลังผสมในอาหารสำหรับเลี้ยงปลาแรดในกระชัง มาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารของประเทศไทย แนวทางการพัฒนาการผลิตโปรตีนเซลล์เดียว จากมันสำปะหลังในระดับการำนไปใช้สำหรับเกษตรกรเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารมนุษย์และสัตว์เลี้ยง การใช้ใบถั่วอาหารสัตว์ในอาหารลูกโคนม วิจัยและพัฒนาการปลูกระบบ Aeroporic การใช้ประโยชน์จากเศษเหลือจากการผลิตลำไยเพื่อเป็นอาหารโค พัฒนาการวิเคราะห์โปรตีนในอาหาร รูปแบบที่เหมาะสมในการพัฒนาการเปลี่ยนเพศกบนาเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตอาหารปลอดภัย แร่ธาตุกับสัตว์เคี้ยวเอื้องในประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก