สืบค้นงานวิจัย
สมุนไพรพื้นเมืองไทย 3 ชนิดที่ใช้ในการควบคุมยุงลายและลูกน้ำยุงรำคาญ
Parichat Lapcharoen - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: สมุนไพรพื้นเมืองไทย 3 ชนิดที่ใช้ในการควบคุมยุงลายและลูกน้ำยุงรำคาญ
ชื่อเรื่อง (EN): Three indigenous medicinal Thai plants for control of Aedes aegypt and Culex quinquefasciatus
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Parichat Lapcharoen
บทคัดย่อ: เป็นการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของสารสกัดจากกวาวเครือขาว (P. mirifica) กวาวเครือแดง (B. superba) และรำเพย (T. peruviana) ที่มีต่อลูกน้ำของยุงลายและยุงรำคาญ ผลการทดสอบพบว่า สารสกัดจากรำเพยมีประสิทธิภาพในการฆ่าลูกน้ำได้ดีที่สุด รองลงมาคือ กวาวเครือขาวและกวาวเครือแดง ตามลำดับ นอกจากนี้พบว่าลูกน้ำระยะที่ 3 ไวต่อสารสกัด สมุนไพรทุกชนิดมากกว่าลูกน้ำระยะที่ 4 ยุงลายมีความไวต่อสารสกัดกวาวเครือขาวและกวาวเครือ แดงมากกว่ายุงรำคาญ โดยกวาวเครือขาวและกวาวเครือแดงแสดงฤทธิ์ในการฆ่าลูกน้ำเฉพาะที่ความ เข้มข้นสูงเท่านั้น ส่วนที่ความเข้มข้นต่ำมีผลต่อการลอกคราบเพื่อการเจริญเติบโต ก่อให้เกิดการตาย แบบผิดปกติ 8 ลักษณะ เมื่อศึกษากวาวเครือขาวและกวาวเครือแดงในแง่ของการยับยั้งการเจริญเติบโต พบว่าค่า LC50 เท่ากับ 30.73 และ 35.55 mg/l ในลูกน้ำยุงลายระยะที่ 3 และระยะที่ 4 ส่วนในยุงรำคาญมีค่า เท่ากับ 58.99 และ 65.14 mg/l ตามลำดับ สำหรับกวาวเครือแดงให้ค่า LC50 เท่ากับ 26.72 และ 31.95 mg/l ในลูกน้ำยุงลายระยะที่ 3 และที่ 4 แต่ให้ค่า 53.66 และ 60.59 mg/l กับยุงรำคาญ โดย พบว่าลูกน้ำระยะที่ 3 มีความไวต่อสารสกัดสมุนไพรมากกว่าลูกน้ำระยะที่ 4 ไม่ว่าเป็นยุงชนิดใด โดยยุงลายมีความไวมากกว่ายุงรำคาญประมาณ 2 เท่า ส่วนกวาวเครือขาวให้ผลการตายผิดปกติทั้ง หมดเด่นชัดในรูปแบบ P-A แต่กวาวเครือแดงผลต่อยุงทั้ง 2 ชนิด แสดงฤทธิ์การตายเป็น BP กับลูก น้ำระยะที่ 3 ส่วนระยะที่ 4 เป็นแบบ P-A.
บทคัดย่อ (EN): exposure yielded more activity than 24 hours. The overall results indicated that Ae. aegypti was more susceptible than Cx. quinquefasciatus. P. mirifica and B. superba only exhibited larvicidal activity at high dosages. However, at lower or sublethal dosages, both showed some dispersed effects interfering with ecdysis. A variety of toxic effects was observed and recorded in 8 categories, according to the stage of metamorphosis when death occurred. Both P. mirifica and B. superba rendered the main deleterious effects in the PA category on the late 3rd and early 4th instar larvae of both mosquito species, but only B. superba exhibited its main effect on the late 3rd instar larvae of both mosquito species. For the IGR activity of P. mirifica and B. superba against both species of mosquito, the LC50 values of P. mirifica were 30.73 and 35.55 mg/l for the late 3rd and early 4th instar larvae of Ae. aegypti, respectively while 58.99 and 65.14 mg/l were obtained for Cx. quinquefasciatus, respectively. In addition, B. superba exhibited LC50 values of 26.72 and 31.95 mg/l, respectively for the late 3rd and early 4th instar larvae of Ae. aegypti, while 53.66 and 60.59 mg/l, respectively were obtained with Cx. quinquefasciatus. L3 was always more susceptible than L4 with both mosquito species. In all cases, B. superba was more promising than P. mirifica. Ae. aegypti was about 2 times more susceptible than Cx. quinquefasciatus. P. mirifica produced the main abnormality effects in the P-A category with the mosquito species, whereas B. superba also affected the species but exhibited BP effects on the late 3rd instar larvae of both mosquito species.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=1882&obj_id=2024
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Thailand
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: เป็นการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของสารสกัดจากกวาวเครือขาว (P. mirifica) กวาวเครือแดง (B. superba) และรำเพย (T. peruviana) ที่มีต่อลูกน้ำของยุงลายและยุงรำคาญ ผลการทดสอบพบว่า สารสกัดจากรำเพยมีประสิทธิภาพในการฆ่าลูกน้ำได้ดีที่สุด รองลงมาคือ กวาวเครือขาวและกวาวเครือแดง ตามลำดับ นอกจากนี้พบว่าลูกน้ำระยะที่ 3 ไวต่อสารสกัด สมุนไพรทุกชนิดมากกว่าลูกน้ำระยะที่ 4 ยุงลายมีความไวต่อสารสกัดกวาวเครือขาวและกวาวเครือ แดงมากกว่ายุงรำคาญ โดยกวาวเครือขาวและกวาวเครือแดงแสดงฤทธิ์ในการฆ่าลูกน้ำเฉพาะที่ความ เข้มข้นสูงเท่านั้น ส่วนที่ความเข้มข้นต่ำมีผลต่อการลอกคราบเพื่อการเจริญเติบโต ก่อให้เกิดการตาย แบบผิดปกติ 8 ลักษณะ เมื่อศึกษากวาวเครือขาวและกวาวเครือแดงในแง่ของการยับยั้งการเจริญเติบโต พบว่าค่า LC50 เท่ากับ 30.73 และ 35.55 mg/l ในลูกน้ำยุงลายระยะที่ 3 และระยะที่ 4 ส่วนในยุงรำคาญมีค่า เท่ากับ 58.99 และ 65.14 mg/l ตามลำดับ สำหรับกวาวเครือแดงให้ค่า LC50 เท่ากับ 26.72 และ 31.95 mg/l ในลูกน้ำยุงลายระยะที่ 3 และที่ 4 แต่ให้ค่า 53.66 และ 60.59 mg/l กับยุงรำคาญ โดย พบว่าลูกน้ำระยะที่ 3 มีความไวต่อสารสกัดสมุนไพรมากกว่าลูกน้ำระยะที่ 4 ไม่ว่าเป็นยุงชนิดใด โดยยุงลายมีความไวมากกว่ายุงรำคาญประมาณ 2 เท่า ส่วนกวาวเครือขาวให้ผลการตายผิดปกติทั้ง หมดเด่นชัดในรูปแบบ P-A แต่กวาวเครือแดงผลต่อยุงทั้ง 2 ชนิด แสดงฤทธิ์การตายเป็น BP กับลูก น้ำระยะที่ 3 ส่วนระยะที่ 4 เป็นแบบ P-A.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
สมุนไพรพื้นเมืองไทย 3 ชนิดที่ใช้ในการควบคุมยุงลายและลูกน้ำยุงรำคาญ
Parichat Lapcharoen
มหาวิทยาลัยมหิดล
2547
ฤทธิ์ฆ่ายุงตัวเต็มวัยของน้ำมันหอมระเหยต่อยุงลาย Aedes aegypti สายพันธุ์ห้องปฏิบัติการและยุงลายจากแหล่งธรรมชาติในจังหวัดเชียงใหม่ การศึกษาเสถียรภาพในระดับโมเลกุลที่บริเวณอนุรักษ์ของโปรตีนฆ่าลูกน้ำยุงชนิด Cry4B การใช้สารสกัดเมล็ดส้มเขียวหวานในการควบคุมลูกน้ำยุงพาหะนำโรค การโคลนและการจำแนกยีนสร้างโปรตีนตัวเหมือนแคดฮีรีนในลูกน้ำยุงลาย การศึกษาพันธุศาสตร์ของยุงก้นปล่องชนิดที่คล้ายกับ anopheles campestris การศึกษาพันธุศาสตร์ของยุงก้นปล่องชนิด Anopheles aconitus ผลของสารสกัดจากหอมแดง Allium ascalonicum Linn. ต่อการควบคุมทางชีวภาพของยุงลาย Aedes aegypti Linn. การใช้และการคงไว้ซึ่งสมุนไพรจากทรัพยากรป่าไม้ การทดสอบฤทธิ์การฆ่าหอยและลูกน้ำยุงของมะเขือขื่นในห้องปฏิบัติการ สมุนไพร
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก